พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 277

อาจเป็นเพราะความเย็นชาที่เซียวปี้เฉิงไม่เคยแสดงต่อหวงกุ้ยเฟยมาก่อน ทำให้อีกฝ่ายถึงกับพูดไม่ออก

อวิ๋นหลิงเดินออกจากด้านหลังเซียวปี้เฉิง ก่อนจะเลิกคิ้วมองนาง “เป็นถึงหวงกุ้ยเฟย อย่าทำตัวเหมือนแม่บ้านตามตลาดสดที่ปากร้าย ไร้เหตุผลเลย รู้จักมีลิมิตบ้าง”

“เจ้าว่าผู้ใดเป็นแม่บ้านปากจัดตามตลาดสด”

หวงกุ้ยเฟยจ้องอวิ๋นหลิงด้วยความเดือดดาล แต่ครั้งนี้ไม่คิดจะลงไม้ลงมือ

“ท่านส่องกระจกแล้วจะรู้เอง”

อวิ๋นหลิงมองนางอย่างไม่เกรงกลัว น้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความข่มขู่

“หวงกุ้ยเฟย ความอดทนของข้าก็มีขีดจำกัด หากต่อไปท่านอยู่เฉย ๆ ไม่หาเรื่องข้า พวกเราก็เป็นแม่สามีกับลูกสะใภ้ในนามได้ แต่ถ้าท่านว่างจนอยู่ไม่เป็นสุข เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจแล้วกัน”

เพราะตอนนี้ฉีกหน้ากับอีกฝ่ายแล้ว ตอนนี้อวิ๋นหลิงไม่อยากให้ผู้ใดเหิมเกริมจนไม่บันยะบันยังอีก ต่อให้จักรพรรดิสวรรค์มาก็ต้องดูอารมณ์ของนางก่อน

คนเรามีชีวิตอยู่ ความสุขสำคัญกว่าเหนือสิ่งอื่นใด

ยิ่งนางเป็นบุคคลที่สวรรค์เมตตา ให้มีโอกาสฟื้นคืนชีพอีกครั้ง ดังนั้นมีแต่คนโง่เง่าเท่านั้นแหละที่ทำให้ตัวเองทุกข์ใจ

หวงกุ้ยเฟยได้ยินประโยคนี้ก็ได้ยินเรื่องที่อวิ๋นหลิงบอกว่าจะช่วยนางหาพี่น้องร่วมรับใช้จักรพรรดิให้ ความระมัดระวังและความหวาดระแวงก็บังเกิด

“เจ้าคิดจะทำอันใด?”

ใช่ว่านางจะไม่เชื่อว่าอวิ๋นหลิงจะทำเยี่ยงนั้นจริง แต่เป็นเพราะความแก้เผ็ดจนยากจะควบคุม จึงตัดสินใจแพร่ข่าวลือของตี้หวู๋เหยา แม้จะต้องลากผู้อื่นตกกระไดพลอยโจนด้วย แต่จะไม่ยอมให้อวิ๋นหลิงมีชีวิตที่สุขสมเด็ดขาด

ใครจะไปคิดว่าเรื่องจะพลิกผัน กลายเป็นเอาก้อนหินทุบเท้าตัวเอง

“สิ่งที่ข้าอยากทำ ท่านรู้ดี” อวิ๋นหลิงเลิกคิ้วแล้วยิ้มเอ่ย “แต่ข้าพอใจกับผลลัพธ์นี้มาก ข้าอารมณ์ดี ข้ายังไม่คิดบัญชีก็ได้”

“แต่ทางที่ดีท่านอย่าแยกเขี้ยวยิงฟันใส่ข้าบ่อยๆสิ อย่าใช้บุญคุณเลี้ยงดูเพื่อควบคุมท่านอ๋องของข้า หากวันใดข้าไม่พอใจขึ้นมา ก็อย่าโทษที่ข้าคิดบัญชีกับท่านอย่างไร้น้ำใจ”

หวงกุ้ยเฟยจิบเล็บลงฝ่ามือ แต่กลับไม่พูดอะไรอยู่นาน

อวิ๋นหลิงรู้ว่าหญิงวัยกลางคนขี้เหวี่ยงเริ่มปอดแหกแล้ว จึงหัวเราะเย็นในใจ จากนั้นก็เดินออกจากตำหนักเว่ยยางพร้อมกับเซียวปี้เฉิงโดยไม่เหลียวหลังมอง

เหล่านางกำนัลในตำหนักล้วนก้มหน้าคางชิดอก เอาแต่มองปลายเท้าของตัวเองไม่กล้าพูดจา ราวกับเมื่อครู่ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

ทว่าภายในใจพวกนางประจักษ์แจ้งแจ่มชัดว่าผู้ที่มิควรล่วงเกินในวังหลวงแห่งนี้ไม่ใช่หวงกุ้ยเฟย หากแต่เป็นท่านเมื่อครู่นี้

......

อวิ๋นหลิงกลับถึงจวนจิ้งอ๋องก็เบิกบานใจแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทุกครั้งที่นึกถึงใบหน้าอมอุจจาระของหวงกุ้ยเฟยแล้ว นางก็รู้สึกรื่นรมย์ใจยิ่ง

“โชคดีที่ตรวจสอบเรื่องนี้ได้ทันท่วงที หาไม่แล้วไม่รู้จะต้องปวดหัวขนาดไหน”

เซียวปี้เฉิงก็โล่งอก และหัวเราะออกมาเบา ๆ

“หวงกุ้ยเฟยเป็นคนจองหอง เผด็จการมาแต่ไหนแต่ไร ชอบควบคุมผู้อื่น องค์หญิงเก้าไม่ใช่ผู้ที่นางจะควบคุมได้ง่าย”

อวิ๋นหลิงถอนหายใจด้วยความเห็นใจ “ต่อไปชีวิตของอวี้จือต้องวุ่นวายแน่”

ตี้หวู๋เหยาไม่ใช่คนโง่เง่าเต่าตุ่น หวงกุ้ยเฟยปล่อยข่าวลือจนนางเกือบเสียชื่อเสียง ต้องไม่พอใจแน่

เยี่ยนอ๋องกับเซียวปี้เฉิงไม่เหมือนกัน ต่อไปเยี่ยนอ๋องอยู่ระหว่างภรรยากับมารดา เกรงว่าต้องปวดหัวหนักแน่

นัยน์ตาเซียวปี้เฉิงเคร่งขรึม ส่งเสียงฮึดฮัด “ก็เขาสมควรแล้วนี่”

ตอนนี้เขาไม่รู้สึกเห็นใจเยี่ยนอ๋องสักนิด ใครจะใช้ให้เขาเกือบทำให้เขาฉิบหาย ทั้งยังต้องทนไฟแห่งราคะหลายวันอีกด้วย

อวิ๋นหลิงได้ยินเซียวปี้เฉิงอธิบายแล้วโยงใยไปยังการกระทำของตงฉู่ ก็เข้าใจจุดนี้ทันที

ทั่วทั้งเก้าแคว้นนี้ แคว้นต้าโจวผลิตดินปืนมากกว่าครึ่ง และแคว้นตงฉู่ก็อยากทำสงครามกับชาวตะวันออก ย่อมต้องได้รับการสนับสนุนจากแคว้นต้าโจวอยู่แล้ว

“ใช่แล้ว เที่ยงนี้เสด็จปู่ด่าเสด็จพ่อไปชุดใหญ่เลย ตำหนิที่เสด็จพ่อตามใจหวงกุ้ยเฟยจนเกือบทำให้นางสร้างปัญหาใหญ่ระดับแคว้นขึ้น”

“จากนั้นเสด็จพ่อก็ออกคำสั่งบอกว่า ช่วงนี้หวงกุ้ยเฟยสุขภาพไม่ดี อนุญาตให้ไปรักษาตัวที่ตำหนักเจียงจยาสามเดือน”

อวิ๋นหลิงยิ้มตาหยี “ตอนนี้นางไปเป็นเพื่อนของฮองเฮาเฟิงแล้ว”

ตำหนักเจียงจยาเป็นตำหนักที่เล็กและเปลี่ยวที่สุดในวัง ด้านซ้ายเป็นศาลบรรพชน ส่วนด้านขวาเป็นเรือนนางกำนัล แม้นจะไม่ใช่ตำหนักเย็น แต่ก็ไม่ต่างอะไรมากแล้ว

ครั้งนี้ถือว่าสตรีแก่แร้งทึ้งผู้โง่เขลายั่วโทสะของพระเจ้าหลวงเข้าเต็ม ๆ จักรพรรดิจาวเหรินจำต้องสั่งสอนให้หลาบจำ

เซียวปี้เฉิงหัวเราะพร้อมกับส่ายหน้า “ยามนี้สมญานามที่ว่าล่วงเกินเจ้าไม่ได้ แพร่ไปทั่ววังและเมืองหลวงแล้ว”

รูปโฉมงดงามยากจะเทียบเทียม ทั้งยังเก่งกาจเกินคน แต่ก็กล้าหาญและเจ้าคิดเจ้าแค้น พูดจาขวานผ่าซากและไว้หน้าผู้ใด...

แม้แต่สตรีที่จักรพรรดิจาวเหรินโปรดปราน เรืองอำนาจ ยังต้องสยบแทบเท้าอวิ๋นหลิง ไม่มีผู้ใดเอ้อระเหยลอยชายได้

แต่เซียวปี้เฉิงคิดว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยก็จะไม่มีคนวางแผนส่งหญิงงามมาให้เขาอีก

หาไม่แล้วอวิ๋นหลิงต้องบุกไปฆ่าถึงที่แน่

พวกเขาสองคนพักผ่อนในจวนอ๋องสองสามวัน จากนั้นก็ได้รับเทียบขอมาเยี่ยมเยียนจากองค์หญิงเก้า ตี้หวู๋เหยาอยากจะมาขอโทษต่อเรื่องเข้าใจผิดก่อนหน้านี้ด้วยตัวเอง

เมื่อคลี่คลายความเข้าใจผิดได้แล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่อวิ๋นหลิงจะไม่ยอมพบหน้าองค์หญิงเก้า ยิ่งไปกว่านั้นนางเองก็อยากถามข่าวคราวของน้องเล็กเช่นกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ