พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 278

ตอนเช้าตรู่ ตี้หวู่เหยาก็พาคนสิบกว่าคนยกขบวนไปถึงหน้าประตูจวนจิ้งอ๋องอย่างเอิกเกริก

ในมือของผู้ติดตามทั้งหมดต่างก็ถือกล่องไม้ที่แกะสลักอย่างประณีตเอาไว้คนละกล่อง ไม่รู้ว่าข้างในใส่อะไรเอาไว้

เฉียวเย่เดินเข้าไปคำนับอย่างนอบน้อม “องค์หญิงเก้าเพคะ พระชายารออยู่ที่เรือนหลันชิงตั้งนานแล้ว เชิญพระองค์ตามหม่อมฉันมาเพคะ”

ตี้หวู่เหยาพยักหน้ารับ “รบกวนหัวหน้าเฉียวนำทางด้วย”

เมื่อคืนหิมะตกลงมาทั้งคืน บนพื้นเหมือนถูกปูไปด้วยเกล็ดน้ำตาลหนาๆหนึ่งชั้น ตลอดช่างเช้าตรู่วันนี้บ่าวรับใช้ทั้งจวนจิ้งอ๋องต่างก็กำลังทำความสะอาดหิมะที่สะสมในลานบ้าน

นางเดินพลางมองไปรอบๆตัว ชื่นชมกับภาพทิวทัศน์ที่แคว้นตงฉู่ไม่มีให้เห็น ทันใดนั้นก็เหลือบไปเห็นชายหนุ่มที่หน้าตาเย็นชาคมเข้มคนหนึ่งกำลังกวาดหิมะอยู่

ตี้หวู่เหยาอึ้งไปเล็กน้อย เผลอหยุดฝีเท้าลง จ้องมองไปยังทิศทางนั้นอย่างไม่กะพริบตา

เหวินกงกงที่เดินตามอยู่ด้านหลังหยุดฝีเท้าไม่ทัน เกือบจะชนเข้ากับร่างของตี้หวู่เหยา ตกใจสะดุ้งโหยง

“องค์หญิง ท่านหยุดกะทันหันทำไมพ่ะย่ะค่ะ”

ในขณะที่ตี้หวู่เหยาใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ชายหนุ่มคมเข้มเย็นชาคนนั้นได้ถือไม้กวาดจากไปไกลแล้ว นางอดไม่ได้ที่จะชี้ไปยังทิศทางที่เห็นเพียงแผ่นหลังนั้นและถามขึ้นมาว่า

“หัวหน้าเฉียว คนคนนั้นคือใคร เขาชื่ออะไร”

เฉียวเย่มองไปตามทิศทางที่นางชี้แวบหนึ่ง ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนน้อมว่า “เรียนองค์หญิง เด็กคนนี้ชื่อสือจิ่ว เป็นลูกของบ่าวไพร่ ได้รับการทารุณกรรมจากถูกเจ้านายคนก่อนมาไม่น้อย พระชายาทรงมีเมตตา จึงได้ช่วยชีวิตเขากลับมาที่จวน ให้ทำงานอยู่ข้างกายเพคะ”

เฉียวเย่ไม่รู้ว่าทำไมตี้หวู่เหยาถึงได้รู้สึกสนใจในตัวของสือจิ่ว ในใจคิดว่าน่าจะเป็นเพราะเด็กคนนั้นมีหน้าตาหล่อเหลา

ตี้หวู่เหยาขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย “บ่าวไพร่”

เฉียวเย่พยักหน้า “องค์หญิง หรือว่าสือจิ่วจะทำอะไรไม่เหมาะสมเพคะ”

“ไม่มีอะไร......หน้าตาเขาเหมือนเพื่อนเก่าคนหนึ่งของข้า” ตี้หวู่เหยาส่ายหน้า คิดว่าตนเองคงตาฝาดไป “บางทีเมื่อครู่อาจจะดูผิดไป”

เป็นถึงทายาทแห่งจวนเสียนกั๋วกง จะมาปรากฏตัวอยู่ในแคว้นต้าโจวในฐานะบ่าวไพร่ได้อย่างไร

ได้ยินว่าตอนที่อีกฝ่ายกลัวความผิดแล้วหลบหนีไป ได้ขนเอาสินสอดติดตัวของมารดาไปด้วยไม่น้อยเลย

ตอนที่ตี้หวู่เหยามาถึงเรือนหลันชิง อวิ๋นหลิงก็ได้จัดเตรียมขนมและน้ำผลไม้อย่างประณีตไว้เต็มโต๊ะแล้ว

นางยิ้มพลางมองไปทางตี้หวู่เหยา “องค์หญิงเสด็จมาถึงแล้ว”

“คำนับจิ้งอ๋อง พระชายาจิ้งอ๋องเพคะ”

นึกถึงความเปิ่นที่เกิดขึ้นไม่กี่วันก่อน ใบหน้าของตี้หวู่เหยาก็แดงขึ้นเล็กน้อยด้วยความรู้สึกลำบากใจ รีบหันกลับไปส่งสัญญาณให้ผู้ติดตามเอากล่องทั้งหมดไปมอบให้

“นี่เป็นการมาเยี่ยมจวนจิ้งอ๋องครั้งแรก นี่เป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆของข้า หวังว่าท่านทั้งสองจะไม่รังเกียจ”

เซียวปี้เฉิงสีหน้าเรียบเฉย เอ่ยตามมารยาทว่า “องค์หญิงเป็นแขกคนสำคัญ ไม่จำเป็นต้องมากพิธี”

เมื่อพูดจบ เหล่าผู้ติดตามก็เปิดกล่องออก ทันใดนั้นอวิ๋นหลิงก็ถูกแสงสีทองเป็นประกายทำเอาเกือบตาบอด

นางมองไม่ผิดกระมัง ในกล่องสิบใบนี้ล้วนเป็นทองทำทั้งสิ้น

เมื่อเห็นอวิ๋นหลิงปฏิเสธ ตี้หวู่เหยาก็รีบพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “ทั้งสองท่านต้องรับไว้นะเพคะ เรื่องก่อนหน้านี้ทำให้ท่านทั้งสองต้องกลัดกลุ้ม ข้ารู้สึกผิดจริงๆ ถ้าหากพวกท่านไม่รับไว้ ข้าคงรู้สึกไม่สบายใจแน่ๆ”

เซียวปี้เฉิงรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ “......นี่มันมากเกินไปหรือไม่”

“ก็แค่ทองคำไม่กี่ชิ้นกับของเล่นอีกบางส่วน เป็นของขวัญแทนการขอโทษ ทั้งสองท่านอย่าได้ปฏิเสธเลยนะเพคะ”

“ของสิ่งนี้เรียกว่าลูกบาศก์ เป็นของเล่นที่พระชายารองของพี่ชายรัชทายาทของข้าคิดค้นขึ้นมา สนุกมาก ข้าไม่มีอะไรทำก็มักจะเอามันมาเล่นเพื่อฆ่าเวลา”

ตี้หวู่เหยาหมุนลูกบาศก์ไปมาเป็นการแสดง “เช่นอย่างนี้ หมุนไปเรื่อยๆ สามารถทำให้พวกมันกลายเป็นสีเดียวกันจนหมด เสียดายที่ข้าโง่เกินไป......หกหน้าข้าทำให้แค่หน้าเดียวเท่านั้น”

“ถ้าหากพระชายาสนใจ สิ่งนี้ก็สามารถมอบให้ท่านได้”

อวิ๋นหลิงกับเซียวปี้เฉิงสบตากัน หันไปเอ่ยกับตี้หวู่เหยาด้วยเสียงอบอุ่นว่า “ขอบคุณน้ำใจขององค์หญิงเก้า นั่งลงก่อนค่อยคุยเถอะ ที่จริงข้าเห็นท่านครั้งแรกก็รู้สึกชอบมาก และอยากจะทำความรู้จักตั้งนานแล้ว”

ได้ยินคำพูดประโยคนี้ ตี้หวู่เหยามองไปทางอวิ๋นหลิงด้วยท่าทีเขินอายอย่างเห็นได้ชัด

คำพูดเดียวกันนี้นางเคยได้ยินตอนอยู่กับหวงกุ้ยผินมาครั้งหนึ่งแล้ว แม้จะเชื่อว่าอวิ๋นหลิงจะไม่ติดใจกับเรื่องราวก่อนหน้านี้ แต่คำพูดนี้นางก็ไม่เชื่อ

อวิ๋นหลิงอ่านสายตาของตี้หวู่เหยาออก จึงส่งยิ้มให้นาง

“องค์หญิงเก้าไม่เชื่อใช่หรือไม่ แต่ข้าพูดความจริง พูดตามความจริงอย่างไม่ปิดบัง พระชายารองของพี่ชายรัชทายาทของท่าน นางกับข้าเป็นศิษย์สำนักเดียวกัน และเป็นศิษย์น้องของข้า"

“......หา”

ตี้หวู่เหยารู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ ทำไมพระชายาจิ้งอ๋องถึงยิ่งพูดก็ยิ่งฟังดูไร้เหตุผล แม้ว่าจะเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับนาง ก็ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้

“พระชายาจิ้งอ๋อง ท่านจำผิดคนแล้ว......พี่สะใภ้ของข้าเป็นโรคความจำเสื่อมมาตั้งแต่เด็ก กระทั่งไม่กี่เดือนก่อนจึงหายดีจากอาการป่วยหนัก ก่อนหน้านี้ไม่เคยเดินทางออกจากแคว้นตงฉู่เลย”

อวิ๋นหลิงยิ้มแต่ไม่พูดอะไร จากนั้นก็เอาลูกบาศก์ไม้ที่องค์หญิงวางเอาไว้บนโต๊ะขึ้นมา นิ้วเรียวยาวเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

ผ่านไปครู่เดียว ลูกบาศก์ที่ไม่เป็นระเบียนก็ถูกทำให้กลับไปอยู่ในสภาพดั้งเดิมตั้งแต่แรก

ตี้หวู่เหยาเบิกตาโตจ้องมองอย่างตกตะลึง “พระชายาจิ้งอ๋อง ทำไมท่านรู้กระบวนท่าของพี่สะใภ้ข้า”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ