อวิ๋นหลิงวางลูกบาศก์ลง ในดวงตามีแววยิ้ม “ข้าเป็นศิษย์พี่สามของนาง จะไม่รู้กระบวนท่าของนางได้อย่างไร ตอนนี้ท่านคงเชื่อได้แล้วกระมัง”
ผ่านไปนานมากแล้วตี้หวู่เหยาก็ยังไม่ได้สติกลับมา นางรู้สึกคาดไม่ถึง และรู้สึกสับสนอยู่บ้าง
“พี่สะใภ้เคยบอกว่านางมีศิษย์พี่ที่ไม่ธรรมดาสามคน แต่ทุกคนต่างก็รู้ว่า นางเป็นโรคสมองเสื่อม ตลอดเจ็ดปีไม่เคยก้าวเท้าออกมาจากจวนเสียนกั๋วกงเลยแม้แต่ก้าวเดียว”
“นางไม่เคยคำนับใครเป็นอาจารย์ และไม่เคยออกมาแคว้นตงฉู่ ตอนที่คนอื่นถาม นางแค่บอกว่าได้คำนับอาจารย์ในฝัน ทุกคนต่างก็คิดว่าอาการทางจิตใจของนางยังไม่ดี จึงคิดว่านางพูดจาเหลวไหล......”
ตอนแรกตี้หวู่เหยาก็ไม่เชื่อ แต่อีกฝ่ายกลับพูดอย่างจริงจังราวกับเกิดขึ้นจริง พอนานเข้าก็เริ่มชิน นางจึงเชื่ออยู่หลายส่วน
อวิ๋นหลิงยิ้มอย่างเข้าใจ ไม่เสียแรงที่ออกมาจากองค์กรเดียวกัน แค่มองตาก็รู้ใจกันมาตั้งหลายปี แม้แต่เหตุผลในการโกหกก็ใช้เหมือนกัน
“ศิษย์น้องพูดไม่ผิด นางไม่เคยออกจากแคว้นตงฉู่ ข้าเองก็ไม่เคยออกจากแคว้นต้าโจว พวกเรารู้จักกันในความฝันจริงๆ”
เมื่อพูดจบ นางก็ส่งสายตาให้กับเซียวปี้เฉิง เขาเองก็มีใจตรงกัน รับรู้ในทันที
“องค์หญิงเก้า ท่านเกิดมาในราชวงศ์ของแคว้นตงฉู่ คิดว่าคงจะเคยได้ยินเรื่องแผ่นดินเก้าแคว้นมาก่อน ข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องดาวตก และคำทำนายเกี่ยวกับเทพธิดามาจุติยังโลกกระมัง”
ได้ยินคำพูดของเซียวปี้เฉิง ตี้หวู่เหยาสีหน้าอึ้งตะลึง พยักหน้ารับโดยไม่รู้ตัว
ในหัวใจนางมีความคิดเหลวไหลความคิดหนึ่งวาบผ่าน กลับถูกความรู้สึกสับสนแปลกๆในตอนนี้ทำให้ไม่สามารถเข้าใจได้
เซียวปี้เฉิงเม้มริมฝีปากเล็กน้อย เอ่ยเสียงขรึมว่า “พระชายาของข้าเป็นคนในคำทำนาย นางเป็นลูกศิษย์ของเทพเซียนที่กลับชาติมาเกิด ไม่เพียงแต่จะมีอาจารย์เซียนคนเดียวกัน ยังมีศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมอาจารย์สามคน พระชายารองขององค์รัชทายาทของพวกเจ้าคือหนึ่งในนั้น”
คำโกหกนี้ได้พูดกับคนอื่นนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว เมื่อพูดขึ้นมาอีกครั้งในตอนนี้ก็ดูเป็นธรรมชาติมาก ไม่มีวี่แววของความจงใจแต่งเรื่องเลยสักนิด
“พยัคฆ์ขาวซึ่งเป็นสัตว์เทวะได้ยอมรับพระชายาเป็นนาย เรื่องนี้ตอนที่ข้าเดินทางมาก็ได้ยินแล้ว”
สนมคนโปรดของจักรพรรดิเป่ยฉินได้ช่วยพยัคฆ์ขาวตัวหนึ่งเอาไว้ พยัคฆ์ขาวตัวนั้นได้แปลงร่างเป็นคนมาเข้าฝันในยามราตรี บอกว่ามันเคยเป็นสัตว์พาหนะของเทพธิดา ตอนนี้ได้ลงมายังโลกมนุษย์เพื่อเผชิญวิบากกรรมกับเจ้านาย และคนที่มันต้องการจะตามหาก็คือพระชายาจิ้งอ๋องแห่งซีโจว
เรื่องนี้เป็นที่โจษขานกันไปทั่ว ไม่ใช่ความลับแต่อย่างไรแล้ว
อาศัยฝีปากของเซียวปี้เฉิง อวิ๋นหลิงถึงกับลุกขึ้นไปเอาภาพวาดดินสอที่ได้วาดขึ้นเพื่อตามหาคนโดยเฉพาะออกมา
ชี้ไปยังหญิงสาวในรูปวาดที่มีดวงตาเจ้าเล่ห์เหมือนแมว อวิ๋นหลังพูดยิ้มๆว่า “องค์หญิงเก้า นี่ก็คือศิษย์น้องของข้า”
เมื่อมองเห็นคนในภาพวาด ตี้หวู่เหยาก็สูดลมหายใจเย็นเข้าเฮือกหนึ่ง ในที่สุดก็ควบคุมความรู้สึกตื่นตะลึงในแววตาที่ล้นทะลักออกมาไม่ได้อีกต่อไป
คนที่อยู่ในรูปวาด ปรากฏว่ามีหน้าตาเหมือนกับพี่สะใภ้มาก
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว แม้ว่าตี้หวู่เหยาจะยังคงรู้สึกคิดไม่ถึง แต่ก็ต้องเชื่อเรื่องเหลวไหลแปลกประหลาดนี้
นางนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยอาการมือเท้าสั่นเล็กน้อย เอ่ยอย่างอึ้งตะลึงว่า “นี่ไม่เท่ากับว่า ......พี่สะใภ้ก็คือเทพธิดาแห่งแคว้นตงฉู่หรอกหรือ ที่แท้......ที่แท้พี่สะใภ้ไม่ใช่หญิงตัวซวยแห่งตระกูลชวี นางเป็นเทพธิดาที่แท้จริงของแค้วนตงฉู่ต่างหาก”
พูดจนถึงสุดท้าย จู่ๆปลายเสียงของตี้หวู่เหยาก็สูงขึ้น ผสมปนเปกับความรู้สึกตกตะลึงที่ปิดบังไว้ไม่อยู่
ด้วยความตื่นเต้น น้ำเสียงในการพูดของนางสูงขึ้นจนเล็กแหลม ลอยออกไปกลางลานบ้านยังสามารถได้ยินอย่างชัดเจน
บริเวณลานบ้าน สือจิ่วกำลังก้มหน้ากวาดหิมะใต้กำแพงเรือนหลันชิง
เขารู้ว่าวันนี้องค์หญิงเก้าแห่งแคว้นตงฉู่มาเยี่ยมเยียนจวนจิ้งอ๋อง ด้วยเหตุนี้ตอนที่กวาดทำความสะอาดหิมะ จึงได้จงใจหลีกเลี่ยงเรือนด้านข้างที่อีกฝ่ายอยู่
“นางได้แต่งเข้าจวนเฉินอ๋องเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว ไม่ช้าก็ให้กำเนิดลูก ไม่นานก่อนหน้านี้ได้ให้กำเนิดลูกสาวก่อนกำหนดคลอด พอดีกับที่คืนนั้นมีดวงดาวประหลาดตกลงมายังสระบัวที่อยู่อุทยานดอกไม้ของวังหลวง ทำให้คิดถึงคำทำนายที่ร่ำลือกันมาหลายปี ทางราชวงศ์จึงคิดว่าลูกสาวของพระชายาเฉินอ๋องเป็นเทพธิดามาจุติอย่างตามพูดถึงกัน”
คุณหนูรองตระกูลชวีคนนั้น ก็ได้เปลี่ยนสถานะของตนเองจากลูกสาวเมียน้อยกลายเป็นลูกสาวภรรยาเอกอย่างสวยงาม ยกระดับขึ้นมาเป็นพระชายาอ๋องเฉิน ยิ่งไปกว่านั้นคือได้ให้กำเนิด”เทพธิดาแห่งแคว้นตงฉู่”ทำให้ลืมตาอ้าปากได้ ได้รับความโปรดปรานและความเคารพจากคนในราชวงศ์
เซียวปี้เฉิงถามขึ้นราวกับคิดอะไรบางอย่างอยู่ “วันที่พระชายาเฉินอ๋องคลอดก่อนกำหนด เป็นวันที่ชวีเสวียนจีแต่งเข้าจวนรัชทายาทกระมัง”
ตี้หวู่เหยาพยักหน้ารับด้วยอารมณ์สับสน ไม่ว่าอย่างไรนางก็คิดไม่ถึง เทพธิดาที่ว่านั้นจะหมายถึงพี่สะใภ้
“ข้าเคยสืบข่าวของแคว้นตงฉู่ ได้ยินมาว่าเดิมทีชวีเสวียนจีนั้นต้องโทษถึงตาย สำนักหอดูดาวหลวงบอกว่านางมีดวงชะตาพิเศษ จึงได้แต่งเข้าจวนรัชทายาทและรักษาชีวิตเอาไว้ได้ เรื่องนี้มันเป็นอย่างไร”
เมื่อพูดจบ เซียวปี้เฉิงกับอวิ๋นหลิงต่างก็มองไปทางประตูเรือนอย่างไม่ตั้งใจ ความรู้สึกไวทำให้รู้ว่ามีคนกำลังเข้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แต่ไม่ได้ลุกขึ้นมาในทันที
ตี้หวู่เหยาได้สติกลับคืนมา ค่อยๆอธิบายว่า “เรื่องนี้พูดแล้วก็ยาว มันเกี่ยวข้องกับน้องชายของพี่สะใภ้”
เสียนกั๋วกงมีลูกชายสองคนลูกสาวสองคน ลูกสาวคนโตชวีเสวียนจีและลูกชายคนเล็กชวียวี่เหิงเป็นลูกที่เกิดจากฮูหยินที่ตายไปแล้ว ตรงกลางยังคั่นด้วยลูกชายคนโตและลูกสาวคนรองของภรรยารอง
แต่หลังจากที่เมียน้อยเลื่อนตำแหน่งขึ้นมา ทั้งสองคนนี้ต่างก็มีฐานะเป็นลูกของภรรยาเอก
“ในช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว เพื่อแย่งตัวหญิงโคมเขียวในหอคณิกาคนหนึ่ง ชวียวี่เหิงได้เกิดการช่วงชิงกับหลานชายของเสนาบดี ทำให้อีกฝ่ายตกลงมาจากหอสูงแล้วทำให้เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งร่าง”
“เสนาบดีย่อมไม่สามารถให้อภัยได้ ต้องการให้ชวียวี่เหิงไถ่โทษด้วยขาสองข้าง ด้วยเหตุนี้ชวียวี่เหิงจึงหลบหนีเพราะกลัวความผิด......ก่อนจะหนียังหอบเอาสมบัติซึ่งเป็นสินสอดติดตัวของมารดาที่ล่วงลับไปแล้วไปด้วยไม่น้อย ถูกผู้คนประณามว่ากล่าว เสียนกั๋วกงโกรธมาก จึงประกาศขับไล่ชวียวี่เหิงออกจากตระกูล ตัดขาดสัมพันธ์ความเป็นพ่อลูก”
ตี้หวู่เหยาเพิ่งจะพูดจบ อวิ๋นหลิงก็รับรู้ได้ด้วยความรู้สึกที่ไว คนที่อยู่ในลานบ้านคนนั้นได้เข้ามาใกล้ประตูเรือนแล้ว
หัวใจของอีกฝ่ายเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น และกำลังหอบหายใจแรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...