พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 28

เมื่อเอ่ยถึงสาวใช้อุ่นเตียง อวิ๋นหลิงก็เริ่มสนใจขึ้นมา

“ว่าแต่ ท่านมีสาวใช้อุ่นเตียงกี่คนกันหรือ?”

เซียวปี้เฉิงเอ่ยตอบอย่างเย็นชา "เกี่ยวอันใดกับเจ้า!"

“สาวใช้ที่ชื่อชิวซวง เป็นสาวใช้อุ่นเตียงของท่านใช่หรือไม่?”

ชิวซวงเป็นสาวใช้ที่มีหน้าที่ดูแลปรนนิบัติเซียวปี้เฉิงโดยเฉพาะ รูปลักษณ์หน้าตาก็สะสวยไม่น้อย

อวิ๋นหลิงยังจำคืนแรกที่ตนเพิ่งทะลุมิติมาได้ดี สาวใช้ผู้นี้กำลังยืนสาปแช่งด่าทออยู่นอกประตู ว่านางว่าเป็นตัวซวยบ้าง และยังบอกอีกว่านางควรจะตายไปให้พ้นๆ

ต่อมาเมื่อได้รู้ว่านางสามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดของเยี่ยนอ๋องได้ อีกทั้งเซียวปี้เฉิงยังให้ความสำคัญกับนาง จึงได้หลบเลี่ยงนางอยู่เป็นเวลาหลายวัน ด้วยกลัวว่าจะถูกชำระบัญชีความแค้น

"เจ้าถามเช่นนี้ทำไมกัน?"

"ข้าได้ยินพวกแม่นมที่ว่างงานพูดคุยกันว่า ชิวซวงปรนนิบัติรับใช้ท่านตั้งแต่ยังเล็ก และท่านก็จะเตรียมมอบฐานะที่เหมาะสมไว้ให้นางในไม่ช้าก็เร็วนี้"

ใบหน้าของเซียวปี้เฉิงพลันมืดลงและเอ่ยตำหนิ "ฟังเรื่องเหลวไหลให้น้อยลงหน่อย ข้าอายุสิบห้าปีก็เข้าสู่สนามรบแล้ว ไม่เคยจะมีแม้แต่มีสาวใช้อุ่นเตียงใดๆทั้งนั้น"

“อืม เช่นนั้นตอนอยู่ในกองทัพท่านเป็นพระอิฐพระปูนมาตลอดหรืออย่างไร?”

“แว่นแคว้นสำคัญที่สุด จะมัวไปเสพสุขได้อย่างไรกัน!”

ความจริงในค่ายทหารก็มีสถานที่เริงรมย์เพื่อให้ทหารได้ปลดปล่อย แต่เขามีฐานะเป็นถึงองค์ชาย แน่นอนว่าไม่อาจลดตัวเองลงไปยังสถานที่เช่นนั้นได้

อวิ๋นหลิงชะงักไปครู่หนึ่ง และเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงระคนแปลกใจ

“ท่านหมายความว่า...ก่อนที่จะมีข้า ท่านไม่เคยแตะต้องสตรีมาก่อนเลยหรือ?”

หูของเซียวปี้เฉิงพลันแดงก่ำ สะบัดแขนเสื้อหันหลังหลบและตะคอกเสียงเย็น

“คุยเรื่องสำคัญต่อ! อย่าเอาแต่พูดเรื่องเหลวไหลกับข้า!”

เรื่องเช่นนี้ สำหรับบุรุษที่เกิดในยุคสมัยโบราณ ไม่เพียงจะไม่ได้รับการยกย่องชื่นชม แต่กลับถูกเยาะเย้ยและดูหมิ่นเสียด้วยซ้ำ

เมื่อเห็นเขาท่าทางเขินอายเล็กน้อย ในใจอวิ๋นหลิงก็รู้สึกขบขัน แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางการเปลี่ยนเรื่องของเขา

“พี่ใหญ่เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนและซื่อสัตย์ แต่บางครั้งความคิดของเขาก็อ่อนต่อโลกและไร้เหตุผลจนเกินไป คิดอยากแต่จะเป็นดังเช่นในบทละคร ที่ได้ครองคู่กับสตรีที่ตนรักไปชั่วชีวิต”

เรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้นไม่ได้อย่างแน่นอนในราชวงศ์ นับประสาอันใดกับเขาที่เป็นถึงโอรสองค์โตที่เกิดจากฮองเฮา

"ช่างอ่อนต่อโลกเกินไปจริงๆ แล้วมันเกี่ยวข้องอันใดกับการไร้เหตุผลเล่า มนุษย์เราต่างก็เป็นเช่นนี้"

จากมุมมองของอวิ๋นหลิง การที่รุ่ยอ๋องมีความคิดเช่นนี้ทั้งที่เกิดในยุคสมัยนี้ ช่างถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมจริงๆ ไม่แปลกที่ฉู่อวิ๋นหลิงจะเห็นเขาเป็นชายหนุ่มในดวงใจ

รุ่ยอ๋องมีรูปลักษณ์ที่หล่อเหลา แต่น่าเสียดายที่เขาเองก็ตาบอดเหมือนกันกับเซียวปี้เฉิง ที่ไปตกหลุมรักคนอย่างฉู่อวิ๋นหาน

“เจ้าเป็นสตรี แน่นอนว่าเจ้าเองก็คิดเช่นนั้น” เซียวปี้เฉิงทำสีหน้าไม่พอใจ “แต่การที่บุรุษจะมีสามภรรยาสี่อนุ ก็ยังถือเป็นเรื่องปกติอยู่ดี”

อวิ๋นหลิงหรี่ตามอง "ท่านหมายความว่า ในอนาคตท่านยังจะแต่งภรรยาและรับอนุเพิ่มอย่างนั้นหรือ"

เซียวปี้เฉิงฟังน้ำเสียงที่ไม่พอใจของนางออก "ทำไม เจ้าคิดว่าจะห้ามข้าได้หรือ?"

“ข้าจะไม่ห้ามท่าน เพียงแต่ข้าเองก็ทนไม่ได้ที่จะต้องใช้บุรุษร่วมกันกับผู้อื่น หากท่านจะแต่งกับผู้อื่น เช่นนั้นพวกเราก็ต้องหย่าขาดกัน”

เซียวปี้เฉิงเลิกคิ้วเล็กน้อยและเอ่ยเสียงเบา "สตรีที่อิจฉาริษยาถือว่ามีความผิดตามหลักเจ็ดขับ หากเจ้ายังคิดเช่นนี้ เกรงว่าชั่วชีวิตนี้เจ้าคงจะแต่งงานกับผู้ใดไม่ได้อีกแล้ว"

เช่นนั้นนางก็ขออยู่อย่างไร้คู่ไปชั่วชีวิตเสียดีกว่า

ไหนจะยังความผิดหลักเจ็ดขับอะไรนั่นอีก สังคมศักดินาช่างชั่วร้ายนัก การที่บุรุษตั้งตนเป็นใหญ่ก็ชั่วร้ายเช่นกัน

อวิ๋นหลิงตวาดเสียงเบา "ฉู่อวิ๋นหานเล่า? หากว่านางได้เป็นพระชายาเอกของท่าน ท่านก็ยังจะแต่งงานสตรีอื่นอยู่หรือ?"

เซียวปี้เฉิงชะงักไปครู่หนึ่ง พลางขมวดคิ้ว "พูดถึงนางทำไมกัน? เจ้าคิดว่าผู้อื่นจะมีใจคอคับแคบและอิจฉาริษยาเช่นเดียวกันกับเจ้าอย่างนั้นหรือ? นางเป็นคนรู้เหตุรู้ผลดี จะต้องไม่ถือสาอย่างแน่นอน"

เขายอมรับว่า ในคราแรกเขาเต็มใจที่จะมอบตำแหน่งพระชายาจิ้งอ๋องให้กับฉู่อวิ๋นหานซึ่งมีฐานะเป็นเพียงบุตรอนุ ความจริงแล้วเป็นเพราะเห็นว่านางทั้งอ่อนโยนทั้งรู้ความ

อวิ๋นหลิงลอบขบขันในใจ เป็นไปตามคาดเมื่อเอ่ยถึงคนรักเก่า เจ้าหมอนี่ก็เริ่มที่จะเสียดสีนางเข้าแล้ว

"หากว่าได้แต่งงานกับฉู่อวิ๋นหานและยังคงจะรับอนุ ก็หมายความว่าท่านเองก็ไม่ได้รักใคร่นางมากเท่าใดนี่"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ