พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 29

“น้องห้าเกิดจากเหลียงเจี๋ยอวี๋ ฉลาดเฉลียวมาตั้งแต่เด็ก ตอนที่อายุได้เจ็ดขวบได้เขียนบทความที่ไพเราะออกมา ได้รับการชื่อนชมจากนักวิชาการ ในบรรดาพี่น้องของเราเสด็จพ่อรักเขามากที่สุด”

เมื่อได้ยินเซียวปี้เฉิงกล่าวเช่นนี้ อวิ๋นหลิงก็คาดการณ์ได้ว่าต้องมีบางอย่างร้ายแรงเกิดขึ้นในภายหลัง

เป็นเช่นนั้น เซียวปี้เฉิงค่อย ๆ กล่าวว่า “ตอนที่อายุสิบสามในปีนั้น ในงานเลี้ยงวังกลางฤดูใบไม้ร่วงน้องห้า...ได้มีความสัมพันธ์กับนางในคนหนึ่ง จากนั้นก็ถูกขุนนางชั้นผู้ใหญ่เข้าไปพบเห็นเข้า”

อวิ๋นหลิงยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย อายุสิบสาม อีกทั้งยังอยู่ในวังกลางฤดูใบไม้ร่วง เมื่อเทียบกับเรื่องของฉู่อวิ๋นหลิงกับเซียวปี้เฉิงนั้นร้ายแรงเป็นสิบเท่า

อย่างน้อยตอนที่คิดบัญชีกับเซียวปี้เฉิง เรื่องเกิดที่จวนรุ่ยอ๋อง อีกทั้งยังไม่ถูกบรรดานายพลขุนนางมาพบเห็นอีกด้วย

“เสด็จพ่อโกรธเป็นอย่างมาก จากนั้นลงโทษน้องห้าโดยการโบยยี่สิบไม้ เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตของน้องห้าเป็นอย่างมาก”

เซียวปี้เฉิงถอนหายใจ “ต่อมาไม่นาน น้องห้าถูกเปิดเผยว่าบทความนั้นมีคนอื่นเขียนแทนเขา นับแต่นั้นมาเขาก็สูญเสียความโปรดปรานต่อหน้าเสด็จพ่อ จนกระทั่งบัดนี้ไม่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอ๋อง แล้วก็ไม่มีหญิงงามคนไหนยินดีที่จะแต่งงานกับเขา”

“ถ้าเช่นนั้นนางในคนนั้นภายหลังเป็นเช่นไรบ้าง?”

เซียวปี้เฉิงส่ายหัว “ต่อมาหลังจากที่นางในคนนั้นถูกกล่าวหาว่าล่อลวงพระโอรส จึงรู้ว่าตัวเองหนีความผิดไม่พ้น จึงทำการชนเสาฆ่าตัวตาย”

“เรื่องเช่นนี้ฟังแล้วความไม่ชอบมาพากล ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นฝีมือของนางสนมคนไหนทำ”

เซียวปี้เฉิงขมวดคิ้ว พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ทางที่ดีเจ้าจัดการปากของตัวเองให้ดี ระวังภัยจะมาจากปาก”

อวิ๋นหลิงยักไหล่อย่างไม่เห็นด้วย “เรื่องการเขียนบทความแทน ได้กล่าวถึงบ้างหรือไม่?”

“ข้าไม่รู้ว่าบทความของน้องห้าจริง ๆ แล้วเขียนแทนขึ้นมาหรือไม่ แต่ทว่าหลังจากนั้น การแสดงออกของเขานั้นช่างธรรมดามาก ไม่เคยเปิดเปล่งประกายความสามารถต่อหน้าใครอีกเลย”

จักรพรรดิจาวเหรินผิดหวังต่อพระโอรสองค์ที่ห้ามาก จึงไม่สนใจอีกต่อไป

สำหรับพระโอรสองค์ที่หก ถือเป็นโอรสพระองค์เล็กสุดของจักรพรรดิจาวเหริน ฐานะแม่แท้ ๆ ไม่สูง

ถึงแม้ว่าจะมีนิสัยดี แต่กลับถูกเลี้ยงมาอย่างไม่เด็ดขาด ไม่มีความสามารถที่โดดเด่น จึงไม่มีความรู้อะไรเมื่ออยู่ในวัง

“จากที่ข้าดูหนา พระโอรสองค์ที่ห้าไม่กล้าเสี่ยงอันตรายอีกแล้ว เพื่อปกป้องชีวิตของตัวเองก็เท่านั้น ส่วนแม่ของพระโอรสองค์ที่หกก็ฉลาด เห็นพวกเจ้าเกิดอันตรายต่อ ๆ กันไป จึงให้ลูกชายเป็นคนไม่โดดเด่นธรรมดา”

อวิ๋นหลิงวิเคราะห์เอง จากนั้นก็ลูบคาง

“เบื้องหลังของเรื่องนี้ ฮองเฮาและหวงกุ้ยเฟยล้วนน่าสงสัยมาก”

เซียวปี้เฉิงสีหน้าจริงจัง พูดอย่างโมโหว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่า คำพูดของเจ้าเมื่อครู่ถ้าหากว่าหลุดออกไป จวนเหวินกั๋วกงทั้งหมดจะถูกถือว่ามีส่วนร่วมด้วย!”

“ข้ารู้เพียงว่าบรรดาพี่น้องของพวกเจ้าได้รับภัยพิบัติเป็นอย่างมาก ดูเอานี่เป็นผลลัพท์ของการมีเมียมากเกินไป”

ผู้ชายหรอผู้ชาย เจ้าไม่มีทางรับมือกับมันได้ ยังอยากคิดสยบงั้นหรือ?

รัฐทายาทผู้เฒ่าพ่อผู้ซื่อบื้อของนางเป็นตัวอย่างที่ยังมีชีวิตอยู่

“เจ้าพูดคำพูดนี้ หรือว่ากำลังบอกเป็นนัยว่าห้ามข้าแต่งอนุภรรยา?”

ผู้หญิงคนนี้ เหตุใดดึงหัวข้อมาพูดเรื่องนี้หลายครั้งนัก

อวิ๋นหลิงกลอกตา “หลงตัวเองน้อย ๆ หน่อย เจ้าจะแต่งอนุภรรยาเกี่ยวอะไรกับข้า”

เซียวปี้เฉิงพูดอย่างไม่เห็นด้วยว่า “ข้ารู้แล้ว เจ้ามีหน้าตาอัปลักษณ์ คงจะกลัวว่ามีผู้หญิงในเรือนหลังสวยกว่าตัวเอง เสี่ยงต่อตำแหน่งของเจ้า”

ความอาฆาตพยาบาทที่ผู้หญิงธรรมดาทำกับหญิงงามนั้น เขาเคยเห็นมาก่อน

จู่ ๆ อวิ๋นหลิงก็หน้าคล้ำ พูดด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิดว่า “ข้ามีหน้าตาอัปลักษณ์แล้วอย่างไร มาขอน้ำท่านกิน?ขอลิปสติกของท่านหรือ?”

“ปากไม่ตรงกับใจ ถ้าหากว่าไม่สนใจจริง ๆ เหตุใดถึงต้องโกรธขนาดนี้”

ผู้ชายบ้านี่ เห็นแก่หน้าของท่านแล้วไม่เอาใช่ไหม!

อวิ๋นหลิงรู้สึกว่าสติปัญญาของตนเองถูกท้าทายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ท่านอ๋องที่แสนดีของข้า ท่านนี่ช่างรู้สึกดีกับตัวเองเหลือเกิน ใช้เงินสองพันห้าร้อยตำลึงแต่งงานกับข้าถือเป็นบุญกับสุสานของบรรพบุรุษท่าน!ขโมยไปหาความสุขเถิด!”

เซียวปี้เฉิงสีหน้าคล้ำ ขณะที่กำลังจะพูดสวนกลับ ก็ถูกอวิ๋นหลิงขัดเขาด้วยเสียงหัวเราะอันเย็นชาโดยไม่สนใจสักนิด

“เหตุใดข้าจะต้องกังวลเจ้าแต่งงานกับอนุภรรยา ไม่รู้จักนับอัตในกระเป๋าของตัวเองก่อน หมูที่เรือนหลังหิวจนผอมไปหมดแล้ว!ยังจะเลี้ยงเมียน้อยไหวหรือ!”

“เจ้า...!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ