ครั้งนี้ เขาไม่ได้ลงมือเหมือนตอนงานเลี้ยงต้อนรับในครั้งนั้น เพียงจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่เย็นชา ใบหน้าไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ
อ้ายเต๋อหัวผงะไปครู่หนึ่ง ไม่แน่ใจว่าเซียวปี้เฉิงหมายถึงอะไร ปรากฏความงุนงงในดวงตาสีฟ้าที่ราวกับเป็นท้องนภาของเขา
“ท่านอ้ายเต๋อหัว ไม่ได้เจอกันนานเลย ดีใจที่ได้พบท่านยิ่งนัก !”
ในขณะที่อ้ายเต๋อหัวไม่ทันได้สังเกต อวิ๋นหลิงก็จูงเซียวปี้เฉิงเข้ามาพร้อมยิ้มขึ้นอย่างร่าเริง ยื่นมือไปทางอ้ายเต๋อหัว
“พระชายา ข้าก็ดีใจที่ได้พบท่านอีกครั้งขอรับ”
อ้ายเต๋อหัวจับมือกับอวิ๋นหลิงอย่างเป็นธรรมชาติ แต่กลับไม่ได้จูบมือของนางเหมือนที่เขาทำในครั้งที่แล้ว
ถึงกระนั้น ใบหน้าของเซียวปี้เฉิงก็กลายเป็นสีดำราวกับถ่าน
“วันนี้ท่านสวยเหมือนดอกเหมยในสวนด้านนอกเลยขอรับ ได้เห็นท่านเช่นนี้ ข้าก็คงอารมณ์ดีตลอดทั้งวันเป็นแน่ขอรับ”
มันเป็นเพียงคำทักทายที่สุภาพ เป็นสิ่งธรรมดาสามัญ แต่เซียวปี้เฉิงกลับรู้สึกทนไม่ไหวมากขึ้นเรื่อยๆ มือที่ประสานกันของพวกเขาช่างดูวิบวับเสียจริงๆ
อย่างไรก็ตาม อวิ๋นหลิงได้เตือนเขาระหว่างทางมาที่นี่ว่าอย่าทำตัวไม่สุภาพกับอ้ายเต๋อหัว ทำให้เขาไม่ได้ก้าวออกไป เซียวปี้เฉิงยื่นมือไปทางอ้ายเต๋อหัวอย่างไม่เต็มใจ
เมื่ออ้ายเต๋อหัวเห็นมือเซียวปี้เฉิงมือยื่นมา ก็รีบจับมือกลับไปในทันที
“ท่านอ๋องของข้า วันนี้ท่านก็ยังคงหล่อเหลาเหมือนเคยเลยนะขอรับ !”
เซียวปีเฉิงตัวสั่นสะท้าน เมื่อพบว่าเจ้าสัตว์ประหลาดผมสีทองนี้สามารถพูดกะล่อนได้ถึงเพียงนี้
เขาตอบกลับไปด้วยเสียงแผ่วเบา อดไม่ได้ที่จะจับมือของอ้ายเต๋อหัวเอาไว้แน่น ส่งสัญญาณเตือนผ่านสายตาอย่างเย็นชา
“สวัสดี”
อ้ายเต๋อหัวค่อนข้างประหลาดใจกับท่าทีอบอุ่นของเซียวปี้เฉิง เขายิ้มขึ้นอย่างอ่อนโยน พร้อมทั้งจับมือแบบหนักแน่นกลับไป
“เป็นเกียรติที่ได้พบท่านขอรับ”
สีหน้าของเซียวปี้เฉิงมืดลงเล็กน้อย โทสะอันเร่าร้อนกำลังสุมอยู่ในอกของเขา
เจ้าสัตว์ประหลาดผมสีทองกล้าดียังไงมาแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราว นี่มันเป็นการยั่วยุเขาชัดๆ !
เมื่อรู้สึกถึงความแน่นในการจับมือของอีกฝ่าย เซียวปี้เฉิอก็เริ่มหงุดหงิดมากขึ้น เขากระชับมือให้แน่นขึ้น ใบหน้าเย็นชา เพิ่มแรงกดดันจากการจับมือกันมากขึ้นไปอีก
สีหน้าของอ้ายเต๋อหัวเปลี่ยนไปเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกไม่ค่อยดีเท่าใดนัก ดวงตาเผยให้เห็นถึงความสับสน แต่เขาก็ยังคงยิ้มพลางกระชับมือให้แน่นขึ้นไปอีก
ชั่วขณะนั้นเองชายทั้งสองก็จับมือกันอยู่อย่างนั้น
ชายทางซ้ายมีผมสีดำสนิท คิ้วคมราวกับกระบี่ ท่าทางสง่างาม ชายทางขวามีผมสีทอง ดวงตาสีฟ้า ถือเป็นสุภาพบุรุษที่สง่างามเลยทีเดียว เมื่อมองแวบแรก อวิ๋นหลิงก็รู้สึกแปลก ๆ ราวกับว่าเวลาและมิติที่แตกต่างเกิดซ้อนทับกันขึ้นมา
ราชทูตแคว้นตงฉู่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านอ้ายเต๋อหัวและท่านอ๋องดูเหมือนจะเข้ากันได้ดี นี่เป็นเพียงการพบกันครั้งที่สองเท่านั้น ความสัมพันธ์ของพวกท่านก็มาถึงระดับนี้แล้ว”
อ้ายเต๋อหัวตอบกลับไปอย่างอบอุ่นว่า “สามารถเป็นเพื่อนสนิทของท่านอ๋องได้ ข้ารู้สึกเป็นเกียรติยิ่งนัก”
เซียวปี้เฉิง “…”
ไปกันใหญ่แล้ว ใครมันจะไปเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าสัตว์ประหลาดผมสีทองนี่กัน
เขาสงสัยว่าอ้ายเต๋อหัวกำลังยั่วยุเขาด้วยการกระทำแปลกๆ เช่นนี้
อวิ๋นหลิงสังเกตการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของเซียวปี้เฉิง มีความคิดที่ผุดขึ้นมาในหัวของนาง ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
ก่อนที่นางจะพูดได้อะไร คนรับใช้ในวังที่ยืนอยู่หน้าประตูก็รายงานว่า
“ท่านทั้งหลาย องค์หญิงเก้าและท่านเยี่ยนอ๋องมาถึงทางเข้าวังเจาหยางแล้ว !”
ในที่สุดมือของพวกเขาก็แยกจากกัน ราชทูตแคว้นตงฉู่รีบก้าวออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็วเพื่อต้อนรับตี้หวู่เหยา ในทางกลับกัน อ้ายเต๋อหัวก็เดินเข้าไปในโถง
“แขกทั้งสองเชิญนั่งก่อนขอรับ ข้านำเมล็ดกาแฟมาจากบ้านเกิด เมื่อรู้ว่าพวกท่านจะมา ข้าจึงได้ชงกาแฟไว้ล่วงหน้าเพื่อต้อนรับพวกท่านขอรับ”
ขณะที่อ้ายเต๋อหัวไปเอากาแฟอยู่นั้น อวิ๋นหลิงก็ไม่สามารถกลั้นเสียงหัวเราะได้อีกต่อไป นางกระซิบข้างหูเซียวปี้เฉิงเพื่ออธิบายมารยาทของขุนนางตะวันตก
“เจ้าทึ่ม การจับมือกันของชาวตะวันตก ยิ่งกำมือแน่นเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ดีมากเท่านั้น”
ปากของเซียวปี้เฉิงกระตุกขึ้น “…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...
ชอบมากเลยค่ะ นางเอกเก่ง❤...