ฮ่องเต้จาวเหรินทรงโบกพระหัตถ์อย่างเหนื่อยพระทัย "เรื่องตราลัญจกรเจ้าไปคุยกับพระเจ้าหลวงเองเถอะ ดูว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร"
เมื่อเสียนอ๋องมีกำหนดเวลาให้สามวัน จึงไม่ได้ขัดขวางอวิ๋นหลิงอีก อนุญาตให้นางเข้าออกตำหนักฉางหนิงได้ตามอำเภอใจ
อวิ๋นหลิงเองก็เป็นห่วงความปลอดภัยของตาแก่น้อยอยู่ จึงไม่ได้อยู่กับฮ่องเต้จาวเหรินนานนัก เร่งรีบไปยังตำหนักฉางหนิงทันที
ทันทีที่ย่างเท้าเข้าตำหนัก ก็ได้ยินเสียงตาแก่น้อยที่คุ้นเคยลอยมาอย่างสบายอารมณ์
"ผ่านไปตั้งหลายปี ฝีมือเดินหมากของเจ้าก็ยังไม่เอาไหน เทียบไม่ได้กระทั่งปลายเล็บของข้าเสียด้วยซ้ำ"
ตามด้วยน้ำเสียงกังวานหนักแน่นของชายอีกผู้หนึ่ง ซึ่งแฝงด้วยอารมณ์หงุดหงิดของความพ่ายแพ้ และมีเสียงตัวหมากร่วงกราวลงพื้นอีกต่างหาก
"ไม่เล่นแล้ว! ไม่เห็นจะสนุกตรงไหนเลย!"
อวิ๋นหลิงรู้สึกแปลกใจ จึงก้าวไปยังตำหนักด้านนอก เห็นพระเจ้าหลวงอยู่ใต้ต้นดอกท้อกำลังเดินหมากกับชายชราอีกคน และหมากดำหมากขาวก็เกลื่อนกระจายไปอยู่ที่พื้น
เป็นชายชราที่ผมขาวโพลน อายุราวหกสิบเศษแต่สีหน้าเปล่งปลั่ง ดูกระฉับกระเฉงนัก
ลักษณะรูปกายกำยำล่ำสัน แต่งกลายด้วยชุดของชาวทูเจวีย เสื้อตัวนอกมีภาพหมาป่าตัวใหญ่แลดูสง่างาม เห็นชัดว่าฐานะคงไม่ธรรมดา
พระเจ้าหลวงลูบเคราเล็กน้อย ยิ้มแย้มอย่างพอใจ รูปร่างที่ผอมบางอยู่ต่อหน้าชายชราดูคล้ายกับเป็นเด็กมากกว่า
"เว่ยฉือโม่ เจ้าก็ยังเอาแต่ใจเหมือนเดิมไม่มีผิด"
เว่ยฉือ? อวิ๋นหลินสะดุ้งในใจ จำได้ว่าเป็นแซ่ของราชสำนักทูเจวียนี่นา
ฐานะของชายชราเบื้องหน้าเริ่มเป็นที่เปิดเผยแล้ว
พอเห็นอวิ๋นหลิงเข้ามา พระเจ้าหลวงก็ดีพระทัยนัก "อ้าว นังหนูอวิ๋นมาแล้วรึ?"
ชายชรารีบหันมาเร็วพลัน สายตาคมกริบราวกับเหยี่ยวเพ่งพินิจอวิ๋นหลิงตั้งแต่หัวจรดเท้า พลางหรี่ตาเล็กน้อย
"เจ้าก็คือพระชายาจิ้งอ๋องที่ทำร้ายเว่ยฉือเหลียนสองแม่ลูกคนนั้นน่ะหรือ? ดูแล้วก็ไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษ พวกนางยังพ่ายแพ้ให้แก่เจ้า ช่างไม่เอาไหนจริง ๆ"
ไม่รอให้อวิ๋นหลิงเอ่ยปาก พระเจ้าหลวงรีบขัดจังหวะเสียก่อน "ภาษิตว่าเชื้อไม่ทิ้งแถว พวกนางก็เพียงแต่สืบทอดนิสัยของเจ้ามา นังหนูอวิ๋น รีบมาคารวะท่านข่านเร็วเข้า"
บุคคลเบื้องหน้าคืออ๋องทูเจวียผู้เฒ่าจริง ๆ
อวิ๋นหลิงเดินมาแสดงการคำนับ พลางถามว่า "เสด็จปู่กับท่านข่านเป็นเพื่อนเก่ามาก่อนอย่างงั้นหรือ?"
"ไม่เพียงเป็นเพื่อนเก่า ยังสนิทกันมากด้วย สมัยก่อนข้าเคยช่วยชีวิตเขาไว้ ตอนนั้นบ้านเมืองเกิดสงคราม ที่ไหน ๆ ก็มีคนขโมยอาหาร จนมีอยู่คืนหนึ่งข้าได้ยินเสียงเอะอะในเล้าหมู จึงรีบไปดู ปรากฏว่ามีคนกำลังแย่งอาหารกับหมูอยู่..."
พระเจ้าหลวงยิ่งเล่าก็ยิ่งสนุก แต่อ๋องทูเจวียผู้เฒ่ากลับหน้าง้ำ รีบขัดจังหวะเสียโดยเร็ว
"พอที ๆ จู่ ๆ ไปเอ่ยถึงเรื่องนี้ทำไมอีก?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...
ชอบมากเลยค่ะ นางเอกเก่ง❤...