จะอยู่ต้าโจวต่อหรือว่ากลับเผ่าทูเจวีย เป็นทางเลือกที่ไม่ต้องคิดมากเลย เพราะทันทีที่ตระกูลเว่ยฉือตามมาพบเข้า เว่อฉือโม่ก็กลับไปยังทุ่งหญ้าอีกครั้ง
"เขาอยู่กับข้าได้เรียนรู้หลายอย่าง ไม่นานก็ได้แสดงความสามารถโดดเด่นยิ่งกว่าใคร พร้อมกับรวบรวมเผ่าเล็กเผ่าน้อยจนกลายเป็นเผ่าทูเจวียตะวันออกโดยสมบูรณ์ และได้รับการเชิดชูให้เป็นท่านข่านใหม่”
หลังจากนั้น เว่ยฉือโม่เคยกลับมายังต้าโจวหลายครั้ง เสนอเงินทองและผลประโยชน์ให้พระเจ้าหลวงตามเขากลับไปทุ่งหญ้าด้วยกัน แต่พระเจ้าหลวงปฏิเสธ
"เขาหวังให้ข้าช่วยรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งเสียด้วยซ้ำ ช่างฝันหวานจริง ๆ ข้าจะช่วยเขาโจมตีต้าโจวได้อย่างไร"
จากจุดยืนที่เปลี่ยนไป ทำให้พวกเขากลายเป็นอริโดยอัตโนมัติ เว่ยฉือโม่เป็นคนทะเยอทะยาน คิดฉวยโอกาสที่ต้าโจวเกิดความวุ่นวาย มาแทรกแซงเพื่อจะยึดครองต้าโจวซะ
กล่าวถึงตรงนี้ พระเจ้าหลวงก็แทบยิ้มปริ่ม "สิ่งที่เขาเรียนรู้ก็มาจากข้าสอนให้ทั้งนั้น จะมีปัญญาแค่ไหนกันเชียว บอกเลยว่าแค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว"
พระเจ้าหลวงรู้นิสัยเว่ยฉือโม่เป็นอย่างดี จะเล่นงานก็ไม่ยาก หรือแม้กระทั่งตอบโต้กลับจนตีไปถึงเผ่าทูเจวีย สร้างผลงานยึดครองห้าเมืองของพวกเขาได้หมด
และก็เพราะศึกนี้ ที่ทำให้พระเจ้าหลวงได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ของแคว้นต้าโจว
แต่ทั้งหมดนี้กลับกลายเป็นความอัปยศสำหรับเว่ยฉือโม่ เพราะสิ่งที่เขาเรียนรู้มาจากพระเจ้าหลวง ทำให้สามารถพิชิตเผ่าเล็กเผ่าน้อยของทูเจวียได้หมด กลายเป็นวีรบุรุษคนใหม่แห่งทุ่งหญ้าที่ได้รับการยกย่องเชิดชู
เมื่อความฮึกเหิมและทะเยอทะยานพุ่งขึ้นถึงขีดสุด กลับถูกปฏิเสธคำเชื้อเชิญราวกับตกจากสวรรค์สู่เหวลึก นับแต่นั้นมา การเอาชนะพระเจ้าหลวงจึงกลายเป็นปมในใจและเป้าหมายสูงสุดในชีวิตของเว่ยฉือโม่
และนี่คือต้นตอที่้ต้องส่งฮูหยินเหลียนและไส้ศึกอื่น ๆ มากบดานอยู่ในแคว้นต้าโจวถึงยี่สิบกว่าปี เพื่อวางแผนก่อการร้าย
พระเจ้าหลวงถอนหายใจเบา ๆ "เจ้ารองก็ช่างไร้เดียงสานัก เผ่าทูเจวียจะพอใจเพียงแค่ยึดครองหกเมืองของเราได้ยังไง เป้าหมายคือการกลืนแคว้นต้าโจวของเราต่างหาก!"
อวิ๋นหลิงนั่งฟังเงียบ ๆ อยู่ด้านข้าง แม้ไม่ได้มีประสบการณ์ร่วมกับพระเจ้าหลวงในอดีต แต่ก็พอรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของเขาได้
ดูแล้วยังสนุกกว่าความสัมพันธ์พ่อลูกอันวุ่นวายระหว่างฮ่องเต้จาวเหรินกับเสียนอ๋องหลายเท่านัก
เมื่อนึกถึงข้อแลกเปลี่ยนระหว่างอันชิงอ๋องกับอ๋องทูเจวียผู้เฒ่าแล้ว อวิ๋นหลิงก็เล่าเรื่องการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างเสียนอ๋องกับฮ่องเต้จาวเหรินให้พระเจ้าหลวงได้รับฟัง
"เสด็จปู่ สมัยก่อนฮองเฮาเฟิงเคยต้องสงสัยปองร้ายองค์ชายลับหลัง เสด็จพ่อทรงลำเอียงถึงเพียงนั้นจริงหรือ?"
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ เหตุการณ์ที่เกิดในวันนี้ อวิ๋นหลิงคงได้แต่บอกว่าสมน้ำหน้า
"ใช่ แต่ก็ไม่เชิงว่าลำเอียงเสียทีเดียว" พระเจ้าหลวงทรงพ่นควันออกมาเป็นวงกลม นัยน์ตาหรี่เล็กน้อย "เสด็จพ่อเจ้าก็ต้องเข้าข้างฮองเฮาบ้าง แต่สมัยนั้นเขาเองก็ตรากตรำเพื่อราชสำนักและบ้านเมือง จนไม่มีเวลาไปใส่ใจเรื่องของฝ่ายใน"
ฮ่องเต้จาวเหรินทรงเป็นจักรพรรดิที่ขยันขันแข็ง มีสนมนางในรวมกันแค่สิบกว่าคนเท่านั้น เพียงเท่านี้ยังแทบไม่มีเวลาให้ถวายงานได้ทั่วถึง อย่าว่าแต่มัวตรวจฎีกาจนไม่อาจใส่ใจความขัดแย้งของฝ่ายในได้เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...