พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 363

ความตรงไปตรงมาของชายาจิ้งอ๋องผู้นี้ ช่างดูคล้ายคลึงกับหลิวฉิงยิ่งนัก

"ทุกคนอย่ามายืนตากลมที่หน้าประตูอีกเลย" เซียวปี้เฉิงรีบออกหน้าพร้อมกับผายมือเชื้อเชิญ "พี่กู้ เข้าจวนแล้วค่อยคุยเถอะ"

กู้ฉางเซินพยักหน้าเห็นชอบด้วย พลางยิ้มให้แก่อวิ๋นหลิงอย่างมีมรรยาท

อวิ๋นหลิงตั้งสติกลับมาและกล่าวยิ้ม ๆ "เชิญเข้ามาก่อน ข้าจะให้เด็ก ๆ เตรียมน้ำชาและของว่างไว้"

คนที่อยู่ในรถม้าอีกหลายคนก็ทยอยตามลงมา

แม่นมเฉินกับตงชิงอุ้มเด็กน้อยสองคน สีหน้าตื่นตระหนกรีบเร่งเดินมา

"พระชายา!"

อวิ๋นหลิงรับลูกสองคนมาสู่อ้อมอก เจ้าหมูน้อยยังคงหลับอุตุ ไม่รับรู้ว่าภายนอกเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ถ้าคำนวณกันดี ๆ นางกับลูกจากกันเพียงสี่ห้าวันเท่านั้น แต่หลายวันนี้ก็เกิดเรื่องมากมาย จนคล้ายกับยาวนานเป็นปี

เห็นลูกหลับสนิทอยู่ อวิ๋นหลิจึงสั่งตงชิงเสียงเบา "อุ้มพวกเขาไปที่เรือนหลันชิงก่อน"

ทุกคนต่างทยอยเดินเข้าจวน บรรดาบ่าวไพร่และสาวใช้ต่างก็วิ่งวุ่นกับการยกน้ำชา จวนจิ้งอ๋องกลับคืนสู่ความคึกคักเหมือนเดิมอีกครั้ง

อวิ๋นหลิงเดินนำพวกกู้ฉางเชินไปยังเรือนเยี่ยนหุย "นี่คือเรือนรับรองที่เตรียมไว้สำหรับพวกท่าน ล้วนแต่ทำความสะอาดไว้หมดแล้ว"

แต่เดิมที่นี่เป็นเรือนพักฟื้นของเยี่ยนอ๋อง และเป็นเรือนรับรองแขกที่ดีที่สุดในจวนจิ้งอ๋องด้วย นับแต่เยี่ยนอ๋องไปแล้วก็กลายเป็นเรือนร้าง บัดนี้เอามาต้อนรับท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการจึงนับว่าเหมาะสมที่สุด

แต่เขามีผู้ติดตามแค่เย่ว์อิ่นและซิงเฉินสองคน เซียวปี้เฉิงจึงเป็นฝ่ายแสนอแนะว่า "ไว้ข้าจะให้เฉียวเย่จัดหาบ่าวไพร่มาอีกหลายคน"

กล่าวจบก็หันไปมองหลิวฉิง "ศิษย์พี่ของหลิงเอ๋อก็เช่นกัน หากคิดว่าเด็กรับใช้ไม่เพียงพอ ข้าจะหามาให้อีก"

เฉียวเย่ที่ตามหลังมากล่าวยิ้ม ๆ "ถ้าบ่าวไพร่ในจวนไม่พอใช้ เดี๋ยวซักพักบ่าวจะไปหาซื้อในตลาดมาอีกหลายคน"

หลิวฉิงเอามือกอดอก รีบส่ายหน้าเร็วไว "ข้ามีมือมีเท้าไม่ต้องให้ใครมาปรนนิบัติหรอก เจ้าหวังก็เช่นกัน แค่ถูกพิษไม่ได้พิการเสียหน่อย อย่าเป็นภาระให้ศิษย์น้องดีกว่า"

นางอยู่เป่ยฉินก็เคยได้ยินมาว่า ชาวต้าโจวยากจนยิ่งนัก อวิ๋นหลิงยังมีลูกอีกสองคนต้องเลี้ยงดูอีก

เซียวปี้เฉิงมองดูท่าทีอึกอักของเย่ว์อิ่นกับซิงเฉินแล้ว จึงได้กล่าวยิ้ม ๆ "พี่กู้ต้องรักษาตัว จะไม่มีสาวใช้ที่รู้งานคอยปรนนิบัติได้อย่างไร?"

กู้ฉางเซินมองดูหลิวฉิงแล้ว ไม่ได้โกรธนางซ้ำยังเออออด้วยอีก "ไม่เป็นไร ข้าต้องการรักษาตัวเงียบ ๆ อยู่แล้ว มากคนก็ยิ่งมากความ มีเพียงเย่ว์อิ่นกับซิงเฉินก็พอแล้ว"

"นั่นสิ ไม่ต้องไปซื้อหาบ่าวไพร่ที่ไหนหรอก เก็บเงินไว้เป็นค่าเลี้ยงลูกยังดีกว่า น้องเขยสาม" หลิวฉิงเอื้อมมือมาตบบ่าของเซียวปี้เฉิง แสดงความหวังดีต่อเขา

"ถ้าวันไหนขาดคนจริง ๆ ข้าก็พอช่วยได้บ้าง ขอเพียงไม่ใช่งานเย็บปักถักร้อยหรือทำอาหาร งานแบกงานหามข้าก็ทำได้หมด รับรองว่าใช้หนึ่งคนก็เหมือนสิบคน ซ้ำยังไม่ต้องเสียเงินจ้างอีก"

นางอยากช่วยอวิ๋นหลิงประหยัดเงิน เท่าไหร่ก็เท่านั้น

นิ่งไปครู่หนึ่ง หลิวฉิงจึงได้กล่าวต่ออีก "แต่ข้าเป็นคนกินจุหน่อย ถ้าคิดว่ากินล้างกินผลาญเกินไป แต่ละมื้อข้าจะยอมลดหมั่นโถวลงซักลูกสองลูก ดื่มน้ำเปล่าก็อิ่มแทนได้เช่นกัน"

เซียวปี้เฉิง "..."

เขาไม่รู้ว่าควรจะขอบคุณความมีน้ำใจของหลิวฉิงดี หรือควรกลับห้องไปส่องคันฉ่องดูหน้าตัวเองดีกว่า

หน้าตาเขาบ่งบอกว่าเป็นคนยากจนกระนั้นหรือ?

อวิ๋นหลิงซาบซึ้งยิ่งนัก เพราะชาติที่แล้วพี่ฉิงก็ดูแลพวกนางพี่น้องเช่นนี้เหมือนกัน

หลิวฉิงเป็นคนมัธยัสถ์ สมัยก่อนเงินที่ได้จากการปฏิบัติภารกิจก็มักจะเก็บออมไว้หมด และปกตินางก็ไม่นิยมหาความบันเทิงใส่ตัว เสื้อผ้าใส่ไปใส่มาก็วนอยู่ไม่กี่ตัว

แต่กับศิษย์น้องทั้งสามคน หลิวฉิงกลับใจกว้างยิ่งนัก ทุกครั้งที่งานวิจัยต้องใช้เงินช่วยเหลือ นางจะไม่รีรอในการสนับสนุนด้วยทุนทรัพย์เลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ