ความตรงไปตรงมาของชายาจิ้งอ๋องผู้นี้ ช่างดูคล้ายคลึงกับหลิวฉิงยิ่งนัก
"ทุกคนอย่ามายืนตากลมที่หน้าประตูอีกเลย" เซียวปี้เฉิงรีบออกหน้าพร้อมกับผายมือเชื้อเชิญ "พี่กู้ เข้าจวนแล้วค่อยคุยเถอะ"
กู้ฉางเซินพยักหน้าเห็นชอบด้วย พลางยิ้มให้แก่อวิ๋นหลิงอย่างมีมรรยาท
อวิ๋นหลิงตั้งสติกลับมาและกล่าวยิ้ม ๆ "เชิญเข้ามาก่อน ข้าจะให้เด็ก ๆ เตรียมน้ำชาและของว่างไว้"
คนที่อยู่ในรถม้าอีกหลายคนก็ทยอยตามลงมา
แม่นมเฉินกับตงชิงอุ้มเด็กน้อยสองคน สีหน้าตื่นตระหนกรีบเร่งเดินมา
"พระชายา!"
อวิ๋นหลิงรับลูกสองคนมาสู่อ้อมอก เจ้าหมูน้อยยังคงหลับอุตุ ไม่รับรู้ว่าภายนอกเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ถ้าคำนวณกันดี ๆ นางกับลูกจากกันเพียงสี่ห้าวันเท่านั้น แต่หลายวันนี้ก็เกิดเรื่องมากมาย จนคล้ายกับยาวนานเป็นปี
เห็นลูกหลับสนิทอยู่ อวิ๋นหลิจึงสั่งตงชิงเสียงเบา "อุ้มพวกเขาไปที่เรือนหลันชิงก่อน"
ทุกคนต่างทยอยเดินเข้าจวน บรรดาบ่าวไพร่และสาวใช้ต่างก็วิ่งวุ่นกับการยกน้ำชา จวนจิ้งอ๋องกลับคืนสู่ความคึกคักเหมือนเดิมอีกครั้ง
อวิ๋นหลิงเดินนำพวกกู้ฉางเชินไปยังเรือนเยี่ยนหุย "นี่คือเรือนรับรองที่เตรียมไว้สำหรับพวกท่าน ล้วนแต่ทำความสะอาดไว้หมดแล้ว"
แต่เดิมที่นี่เป็นเรือนพักฟื้นของเยี่ยนอ๋อง และเป็นเรือนรับรองแขกที่ดีที่สุดในจวนจิ้งอ๋องด้วย นับแต่เยี่ยนอ๋องไปแล้วก็กลายเป็นเรือนร้าง บัดนี้เอามาต้อนรับท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการจึงนับว่าเหมาะสมที่สุด
แต่เขามีผู้ติดตามแค่เย่ว์อิ่นและซิงเฉินสองคน เซียวปี้เฉิงจึงเป็นฝ่ายแสนอแนะว่า "ไว้ข้าจะให้เฉียวเย่จัดหาบ่าวไพร่มาอีกหลายคน"
กล่าวจบก็หันไปมองหลิวฉิง "ศิษย์พี่ของหลิงเอ๋อก็เช่นกัน หากคิดว่าเด็กรับใช้ไม่เพียงพอ ข้าจะหามาให้อีก"
เฉียวเย่ที่ตามหลังมากล่าวยิ้ม ๆ "ถ้าบ่าวไพร่ในจวนไม่พอใช้ เดี๋ยวซักพักบ่าวจะไปหาซื้อในตลาดมาอีกหลายคน"
หลิวฉิงเอามือกอดอก รีบส่ายหน้าเร็วไว "ข้ามีมือมีเท้าไม่ต้องให้ใครมาปรนนิบัติหรอก เจ้าหวังก็เช่นกัน แค่ถูกพิษไม่ได้พิการเสียหน่อย อย่าเป็นภาระให้ศิษย์น้องดีกว่า"
นางอยู่เป่ยฉินก็เคยได้ยินมาว่า ชาวต้าโจวยากจนยิ่งนัก อวิ๋นหลิงยังมีลูกอีกสองคนต้องเลี้ยงดูอีก
เซียวปี้เฉิงมองดูท่าทีอึกอักของเย่ว์อิ่นกับซิงเฉินแล้ว จึงได้กล่าวยิ้ม ๆ "พี่กู้ต้องรักษาตัว จะไม่มีสาวใช้ที่รู้งานคอยปรนนิบัติได้อย่างไร?"
กู้ฉางเซินมองดูหลิวฉิงแล้ว ไม่ได้โกรธนางซ้ำยังเออออด้วยอีก "ไม่เป็นไร ข้าต้องการรักษาตัวเงียบ ๆ อยู่แล้ว มากคนก็ยิ่งมากความ มีเพียงเย่ว์อิ่นกับซิงเฉินก็พอแล้ว"
"นั่นสิ ไม่ต้องไปซื้อหาบ่าวไพร่ที่ไหนหรอก เก็บเงินไว้เป็นค่าเลี้ยงลูกยังดีกว่า น้องเขยสาม" หลิวฉิงเอื้อมมือมาตบบ่าของเซียวปี้เฉิง แสดงความหวังดีต่อเขา
"ถ้าวันไหนขาดคนจริง ๆ ข้าก็พอช่วยได้บ้าง ขอเพียงไม่ใช่งานเย็บปักถักร้อยหรือทำอาหาร งานแบกงานหามข้าก็ทำได้หมด รับรองว่าใช้หนึ่งคนก็เหมือนสิบคน ซ้ำยังไม่ต้องเสียเงินจ้างอีก"
นางอยากช่วยอวิ๋นหลิงประหยัดเงิน เท่าไหร่ก็เท่านั้น
นิ่งไปครู่หนึ่ง หลิวฉิงจึงได้กล่าวต่ออีก "แต่ข้าเป็นคนกินจุหน่อย ถ้าคิดว่ากินล้างกินผลาญเกินไป แต่ละมื้อข้าจะยอมลดหมั่นโถวลงซักลูกสองลูก ดื่มน้ำเปล่าก็อิ่มแทนได้เช่นกัน"
เซียวปี้เฉิง "..."
เขาไม่รู้ว่าควรจะขอบคุณความมีน้ำใจของหลิวฉิงดี หรือควรกลับห้องไปส่องคันฉ่องดูหน้าตัวเองดีกว่า
หน้าตาเขาบ่งบอกว่าเป็นคนยากจนกระนั้นหรือ?
อวิ๋นหลิงซาบซึ้งยิ่งนัก เพราะชาติที่แล้วพี่ฉิงก็ดูแลพวกนางพี่น้องเช่นนี้เหมือนกัน
หลิวฉิงเป็นคนมัธยัสถ์ สมัยก่อนเงินที่ได้จากการปฏิบัติภารกิจก็มักจะเก็บออมไว้หมด และปกตินางก็ไม่นิยมหาความบันเทิงใส่ตัว เสื้อผ้าใส่ไปใส่มาก็วนอยู่ไม่กี่ตัว
แต่กับศิษย์น้องทั้งสามคน หลิวฉิงกลับใจกว้างยิ่งนัก ทุกครั้งที่งานวิจัยต้องใช้เงินช่วยเหลือ นางจะไม่รีรอในการสนับสนุนด้วยทุนทรัพย์เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...