จักรพรรดิจาวเหรินไม่รู้ว่าตนอยู่ในอารมณ์เช่นไรตอนออกจากจวนจิ้งอ๋อง เมื่อกลับถึงวังก็ฟ้ามืดสนิทแล้ว นอนพลิกตัวไปมาบนเตียงข่มตาไม่หลับ
เช้าวันรุ่งขึ้น ทันทีที่ประชุมราชกิจเสร็จ เขาก็ตรงไปยังตำหนักฉางหนิงอย่างอดไม่ได้
“ข้ารู้ว่าเจ้าจะมา เมื่อคืนคงรู้สึกอึดอัดใจที่จวนของนางหนูหลิงสินะ เป็นอย่างไร ตอนนี้คงรู้แล้วกระมังว่าเหตุใดข้าจึงตกปากรับคำกับนางหนูหลิง”
พระเจ้าหลวงกึ่งเอนกึ่งนอนบนเตียง ยกเท้าขึ้นวางพาดบนหัวเข่าอีกข้างแล้วสูบบุหรี่ควันโขมง น้ำเสียงกับสีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความสนุกบนความทุกข์ของผู้อื่น
เห็นชัดว่าเขารู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในจวนจิ้งอ๋องเมื่อคืนนี้
จักรพรรดิจาวเหรินทรงฝืนแย้มสรวลสีพระพักตร์ปูเลี่ยนๆ “เป็นเด็กโง่เขลา สู้เจ้าสามไม่ได้คิดรอบคอบกว่า”
ก่อนไปจวนจิ้งอ๋อง เขาเคยมาพบพระเจ้าหลวง เดิมต้องการถามเหตุผล แต่พระเจ้าหลวงกลับปิดประตูไม่รับแขก จึงไปที่จวนจิ้งอ๋องในคืนนั้นเลย
อันที่จริงเซียวปี้เฉิงพูดถูก เขาไม่อยากให้รุ่ยอ๋องหย่าขาดกับชายา จะต้องมีคนในตระกูลหรงที่ไม่ต้องการให้พวกเขาหย่าร้างเช่นกัน
ทว่าเจิ้นกั๋วกงต้องการหาทางลง ถึงแม้ไม่ได้ตัดความสัมพันธ์กับรุ่ยอ๋องโดยสิ้นเชิง แต่จะปล่อยให้อีกฝ่ายมีอิทธิพลกับหรงจั้นไม่ได้ การมีน้องเขยที่เลอะเลือนและเหลวไหลเช่นนี้ วันหน้าหรงจั้นจะถูกผู้คนในแวดวงราชการหลอกเอาได้ง่าย
หากเขามิอาจลดศักดิ์ศรีเล็กๆ น้อยๆ นั้นได้ จะส่งผลกระทบต่ออนาคตของรัฐทายาทเจิ้นกั๋วกง ในใจเจิ้นกั๋วกงผู้เฒ่าก็ไม่แน่ว่าจะดูแคลนเขาอย่างไร
กล่าวอีกนัยหนึ่ง การที่คู่รักหนุ่มสาวจะคืนดีกันได้หรือไม่นั้นเป็นเรื่องหนึ่ง แต่วิธีที่เขาแสดงท่าทีออกมาก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
หลังจากเข้าใจแล้ว จักรพรรดิจาวเหรินก็ทรงยอมรับความผิดพลาดกับพระเจ้าหลวงอย่างตรงไปตรงมา
พระเจ้าหลวงชำเลืองมองเขาปราดหนึ่ง แล้วเคาะไปป์สูบยา “สมองเจ้าไม่ฉลาดเอาเสียเลย แต่ข้าไม่ได้สนใจประเด็นนี้ของเจ้ามาตั้งแต่แรก”
ในแง่ของความฉลาดกับพรสวรรค์นั้น จักรพรรดิจาวเหรินก็ได้แต่อยู่ระดับกลางๆ ในบรรดาโอรสทั้งเก้าของเขา ส่วนอันชินอ๋องผู้ล่วงลับอยู่รั้งท้ายกว่าเขาเสียอีก
ทว่าจักรพรรดิจาวเหรินทรงมีข้อดีที่หลายคนไม่มี นั่นคือเขารู้ข้อบกพร่องของตน และก็ยอมรับข้อบกพร่องของตนโดยดุษณีด้วยเช่นกัน
เขายังมีข้อบกพร่องอย่างคนธรรมดาสามัญ เช่น ความลำเอียง ความรักหน้า ความฟุ้งเฟ้อเล็กๆ น้อยๆ...
แต่ในด้านประเด็นสำคัญๆ เขาไม่เคยถือทิฐิมานะ รับฟังคำพูดของผู้อื่น แทบจะไม่เคยทำผิดใดๆ
มีข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียวคือเขายืนกรานจะแต่งกับเสี่ยวเฟิง
ถึงแม้จักรพรรดิจาวเหรินจะยอมรับผิด แต่เขาก็ยังนึกถึงถ้อยคำที่อวิ๋นหลิงพูดเมื่อคืนนี้อยู่บ้าง จึงอดเล่าให้พระเจ้าหลวงฟังรอบหนึ่งไม่ได้
“ต่อให้ที่พวกเขาทำจะถูกต้อง แต่นางหนูหลิงก็ไม่ได้พูดเกินไป นางถึงขั้นพูดต่อหน้าคนอื่นว่าลูกๆ ก็เหมือนกับบ่าวไพร่และลูกน้องใต้อาณัติ!”
จักรพรรดิต้าโจวผู้ยิ่งใหญ่ถูกเอาไปเปรียบเทียบกับบ่าวไพร่ข้ารับใช้จริงๆ ไม่ไว้หน้าให้เขาเลยสักนิด!
พระเจ้าหลวงหุบยิ้ม ก่อนกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “นางพูดถูก ข้ามีความคิดเช่นเดียวกับนางหนูหลิง”
คราวนี้ถึงตาที่จักรพรรดิจาวเหรินต้องตะลึงงัน เขาดูประหลาดใจและงุนงง “เสด็จพ่อ...”
“ข้าเกิดมาเป็นชาวนาแร้นแค้นต้องขุดดินในทุ่งนาประทังชีวิต สมัยยังเป็นเด็กก็มักจะสงสัยว่า เหตุไฉนข้าจึงเกิดมาต่ำต้อยกว่าคนอื่นๆ ต้องคุกเข่าค้อมกายก้มกราบกรานพ่อค้าวาณิชผู้มั่งคั่งกับผู้มีอำนาจเหล่านั้น?” พระเจ้าหลวงวางไปป์สูบยาลง แล้วหยิบขนมมากิน “ในใจข้าไม่ยอมศิโรราบ คิดว่าถ้าได้เป็นฮ่องเต้ สักวันหนึ่งข้าก็จะทัดเทียมกับเขา ต่อมาข้าก็ได้เป็นฮ่องเต้สมใจ”
“ในอดีตข้ารู้สึกว่าตัวเองไม่ต่างจากคนพวกนั้น พวกเขาไม่มีเกียรติมากกว่าข้า และข้าเองก็ไม่ได้ด้อยกว่าพวกเขา ความคิดนี้ไม่ได้แปรเปลี่ยนไปจวบจนถึงทุกวันนี้”
พระเจ้าหลวงระบายยิ้ม เงยหน้าขึ้นมองประเมินจักรพรรดิจาวเหรินหลายครั้ง ดวงตาทอประกายวาวโรจน์เป็นพิเศษบนใบหน้าผอมตอบ
“ตอนเจ้าเกิดมาก็ได้เป็นองค์ชายเก้าแล้ว ไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้ย่อมเป็นเรื่องปกติ ข้าไม่โทษเจ้าหรอก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...