พระเจ้าหลวงยิ้มจนตาหยี “หลิงเอ๋อร์เป็นเด็กดีจริงๆ ทั้งกตัญญูทั้งรู้ความ ไม่เหมือนสองพี่น้องที่อยู่ข้างๆนั่น วันๆไม่ทำงานทำการ ชอบทำแต่เรื่องลักเล็กขโมยน้อย”
เยี่ยนอ๋องที่ดูอยู่ไกลๆได้แต่ถอนหายใจออกมา ทำหน้าน่าสงสารที่ถูกด่าอย่างไร้สาเหตุ จากนั้นก็นั่งเงียบๆอยู่บนรถเข็นไม้ค่อยๆหมุนตัวจากไป
เขาคิดว่าเสด็จปู่ไม่ค่อยอยากจะเห็นหน้าเขาสักเท่าไหร่ ไม่ไปรบกวนจะดีกว่า
หลังจากที่ช่วยพระเจ้าหลวงขุดดินจนได้เป็นแปลงเล็กๆ อวิ๋นหลิงก็เริ่มลงมือเข้าครัวทำอาหารกลางวัน
พอพระเจ้าหลวงได้ยินว่านางจะเข้าครัว ก็ดีใจจนไปเฝ้าอยู่ข้างเตาไฟและเดินวนไปมา ยังช่วยอวิ๋นหลิงฆ่าไก่หนึ่งตัวปลาสองตัวด้วยตัวเองอีกด้วย
แม้ว่าห้องครัวจะเรียบง่าย เทียบไม่ได้กับห้องครัวของชาติที่แล้วที่มีอุปกรณ์ทันสมัยครบครัน แต่ก็ไม่ยากเกินมืออวิ๋นหลิง
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสิ้นสุดเดือนสี่เข้าสู่เดือนห้า กำลังเป็นฤดูที่ลิ้นจี่สุก อวิ๋นหลิงจึงทำหมูลิ้นจี่หนึ่งจาน นอกจากนั้นก็มีเส้นมันฝรั่งผัดและข้าวเหนียวแปดสมบัติอย่างละหนึ่งจาน
“อร่อย อร่อย ข้าจะเอาอีก”
เหมือนพระเจ้าหลวงจะทรงชอบเส้นมันฝรั่งผัดเป็นพิเศษ ถือจานที่เปล่าที่อวิ๋นหลิงให้เขาลองชิมจนหมดเกลี้ยงเอาไว้
“อย่ากินเยอะ ขออร่อยยังมีอีก”
เยี่ยนอ๋องชอบรสชาติเค็มเผ็ดจัดจ้าน อวิ๋นหลิงจึงทำหุยกัวโร่วแบบดั้งเดิม ต้มเนื้อ เครื่องในไก่ผัดเผ็ด
แม่นมเฉินกินอาหารรสจืด จึงทำปลานึ่ง กุ้งผัดชาหลงจิ่งและผัดยอดผักกาด
เซียวปี้เฉิงกินได้ทุกอย่าง จึงไม่ได้ทำอะไรพิเศษให้เขา
สุดท้ายก็ตักน้ำแกงไก่ตุ๋นเมล็ดบัวกับพุทราขึ้นมา เมื่อทำกับข้าวทั้งสิบอย่างเสร็จก็เป็นเวลาเที่ยงพอดี
กระทั่งผู้ชมที่มารอดูกับลูกมืออย่างตงชิงและพระเจ้าหลวงน้ำลายไหลยืดหกเต็มพื้นตั้งนานแล้ว ต่างก็ถือถ้วยยืนอยู่ข้างๆมองนางอย่างมีความหวัง
“ตงชิง เจ้าเอากับข้าวชุดนี้ไปส่งให้เยี่ยนอ๋องและอาจารย์หลินซินที่อยู่เรือนเยี่ยนหุย”
ดูจากสถานการณ์ตรงหน้าแล้ว หากจะให้พระเจ้าหลวงทรงกินข้าวโต๊ะเดียวกับเซียวปี้เฉิงคงเป็นไปไม่ได้
อวิ๋นหลิงจึงหันไปพูดเกลี้ยกล่อมว่า “พระเจ้าหลวงเพคะ แม่นมเฉินกับตงชิงจะกินข้าวเป็นเพื่อนท่านที่เรือนหลันชิงนะเพคะ ข้าจะมาสายสักหน่อย ไม่ต้องรอนะเพคะ”
ดีที่พระเจ้าหลวงมีนิสัยเป็นเด็ก มีของอร่อยอยู่ตรงหน้า ก็จะค่อนข้างเชื่อฟัง
“ได้ ถ้าเช่นนั้นหลิงเอ๋อร์ก็รีบกลับมา ข้าจะปอกผลปี่แป่ให้”
อวิ๋นหลิงสั่งการเสร็จแล้ว ก็เรียกตัวเยี่ยเจ๋อเฟิงมา นำกล่องอาหารที่เหลือไปยังเรือนซู่สือ
เยี่ยเจ๋อเฟิงมองอวิ๋นหลิงด้วยสีหน้าไร้อารมณ์แวบหนึ่ง
เขาคิดไม่ถึงว่าอวิ๋นหลิงจะมีฝีมือการทำอาหารดีเช่นนี้ ทำให้รู้สึกชื่นชมมาก
ภายในเรือนซู่สือ ทวนยาวปะทะลมจนสั่นไหว
แม้ว่าดวงตาจะมองไม่เห็น แต่เซียวปี้เฉิงก็ยังคงรักษานิสัยการฝึกฝนช่วงเช้าเสมอมา
เขาเชี่ยวชาญอาวุธทุกอย่าง แต่ที่เก่งที่สุดคือการใช้ทวนยาวและธนู
เมื่อฝึกกระบวนท่าของทวนยาวจนหมด ก็รู้สึกโล่งสบายมาก เขาถามขึ้นมาว่า “ลู่ฉี ทำไมวันนี้ห้องครัวจึงยังไม่ส่งอาหารมา”
“กระหม่อมจะไปดูที่ห้องครัวพ่ะย่ะค่ะ”
ลู่ฉีรีบเดินออกไป เมื่อคืนเขาถูกลงโทษด้วยการให้กวาดลานบ้านทั้งคืน ข้าวก็ไม่ได้กิน ตอนเช้าได้กินแค่โจ๊กหนึ่งชามกับหมั่นโถวสองลูก หิวจนท้องกิ่วตั้งนานแล้ว
ลู่ฉีเพิ่งจะเดินไปถึงหน้าประตูเรือน ก็พบเงาร่างของอวิ๋นหลิงกับเยี่ยเจ๋อเฟิงกำลังเดินมา บ่าวรับใช้ที่เดินตามมาด้านหลังถือกล่องอาหารไว้หลายใบ
“กลิ่นอะไร หอม......หอมมาก”
ลู่ฉีใช้แรงในการสูดดมกลิ่นหอมที่ลอยอบอวลอยู่ในอากาศ สุดท้ายสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่กล่องอาหาร น้ำลายแทบจะไหลยืดออกมา
“ท่านอ๋อง เมื่อวานข้าผิดเอง วันนี้ข้าเข้าครัวเป็นการเฉพาะ เพื่อเป็นการขอโทษท่าน”
อวิ๋นหลิงยิ้มพลางยื่นกล่องสองใบให้กับลู่ฉี “นี่เป็นส่วนของเจ้ากับองครักษ์เยี่ย”
ลู่ฉีดีใจและไม่คาดฝัน “อะ อะไรนะ ส่วนของข้ากับคุณชายเยี่ยหรือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...
ชอบมากเลยค่ะ นางเอกเก่ง❤...