สรุปเนื้อหา ตอนที่ 386 พระโอรสห้ากับเหลียงเฟยทะเลาะกันแล้ว – พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ โดย Anchali
บท ตอนที่ 386 พระโอรสห้ากับเหลียงเฟยทะเลาะกันแล้ว ของ พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายโรแมนติกโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Anchali อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
อวิ๋นหลิงกระโดดออกมาจากอ้อมอกของเซียวปี้เฉิง นั่งลงข้างกายหลิวฉิง “กินได้ตามใจ ข้าสั่งให้ห้องครัวทำเอาไว้มาก พอกิน!”
นางโมโหลูกทั้งสองคนจนไม่อยากกินอะไร จึงเอาเค้ก ไก่ทอดและน้ำผลไม้ผลักมาไว้ที่หน้าหลิวฉิงทั้งกอง
กู้ฉางเซินที่เห็นอยู่ไม่ไกล อวิ๋นหลิงก็เอื้อมมือไปทักทายอีกฝ่าย
“พี่ใหญ่เข้ามากินข้าว!”
กู้ฉางเซินถอนหายใจอย่างไร้ร่องรอย เดินไปยอมรับชะตากรรมและนั่งลงในที่ว่างสุดท้าย
เมื่อเห็นหลิวฉิงกินอย่างเอร็ดอร่อย ในใจของเขาก็หวั่นไหวเล็กน้อย มองอวิ๋นหลิงที่อยู่ด้านข้างด้วยรอยยิ้ม
“อาหารสด ๆ เหล่านี้บนโต๊ะไม่รู้ว่าน้องสาวสามทําออกมาได้อย่างไร ข้าขอคําแนะนําจากเจ้าได้หรือไม่?”
อวิ๋นหลิงพูดด้วยความแปลกใจ “พี่ใหญ่เองก็ทำอาหารเป็นด้วยหรือ?”
“ข้าทำอาหารไม่เป็น เพียงแค่ในวังหลวงของแคว้นเป่ยฉินมีไทเฮาคนหนึ่งสนิทกับข้าเป็นพิเศษ นางหลงใหลในฝีมือการทําอาหารและสนใจอาหารต่าง ๆ มาก เจ้าอาหารที่เจ้ากินพวกนี้ก็อร่อยมาก ข้าอยากเรียนบ้าง หลังจากกลับไปแคว้นเป่ยฉินจะทำให้นางลองชิม”
เมื่อได้ยินดังนั้น หลิวฉิงก็อดที่จะเหลือบมองกู้ฉางเซินไม่ได้
นางอยู่ที่วังหลวงแคว้นเป่ยฉินนานมากขนาดนั้น ยังไม่เคยได้ยินว่าไทเฮาคนไหนไม่เพียงสนใจในการทำอาหาร ยังสนิทกับเขามากเป็นพิเศษด้วย?
หลิวฉิงสงสัยในใจ แต่ว่าตอนนี้นางยัดไก่ทอดเต็มอยู่ในปาก จึงไม่ได้สนใจถาม
หลังจากที่เซียวปี้เฉิงได้ยินดังนั้นก็พูดว่า “เรื่องนี้ง่ายมาก ในจวนจิ้งอ๋องเสน่ห์ปลายจวักของแม่นมเฉินดีที่สุด ของพวกนี้รสชาตที่นางทำออกมาได้ไม่แตกต่างกับหลิงเอ๋อร์ ถ้าหากสหายกู้ชอบล่ะก็ ประเดี๋ยวข้าจะไปบอกกับแม่นม”
กู้ฉางเซินประสานมือขอบคุณ แบบนี้ดีมากที่สุด เดิมทีอวิ๋นหลิงก็ยุ่งเหมือนลูกข่างทุกวัน อีกทั้งเขาเองก็ไม่อยากรบกวนอีกฝ่ายมากเกินไป
ดวงตาทั้งคู่ของหลิวฉิงสว่างขึ้น ในที่สุดก็กลืนไก่ทอดในปากลงไปได้ จากนั้นก็ตบไหล่กู้ฉางเซิน
“เพื่อนคนดี พยายามเรียนเข้า ข้าดูเจ้าอยู่!รอให้เจ้าทำของพวกนี้เป็น ข้าก็จะได้กินและดื่มได้บ่อย ๆ แล้ว!”
กู้ฉางเซินไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี การที่เขาเรียนสิ่งเหล่านี้ก็เพื่อนาง ดังนั้นไทเฮาที่กล่าวถึงก็แค่ข้ออ้างเท่านั้น
“เจ้าเองก็ไม่ใช่คนที่ตะกละตะกลาม เหตุใดเจ้าถึงมีจุดอ่อนกับพวกของกินเหล่านี้?”
หลิวฉิงพูดอธิบายว่า “ปกติข้าออกกำลังกายมาก ประจวบกับการใช้พลังจิตจะสิ้นเปลืองพลังงานร่างกายเป็นอย่างมาก จึงนิยมรับประทานอาหารที่มีแคลอรี่สูงเหล่านี้”
นี่เป็นความพิเศษของผู้มีพลังจิต ถึงแม้แต่ผู้สูงอายุที่มีรูปร่างบอบบางและอ่อนแอที่สุด ปริมาณอาหารก็มากกว่าผู้หญิงทั่วไปมาก
แต่ก็มีข้อดีด้วย นั่นก็คือต่อให้พวกนางจะกินอย่างไรก็อ้วนยาก
กู้ฉางเซินพยักหน้า วินาทีนั้นความคิดลอยไปไกล
เมื่อเรียนรู้ฝีมือจากอวิ๋นหลิงที่นี่ หลังจากที่กลับไปแคว้นเป่ยฉินเขาก็จะสั่งให้เหล่าพ่อครัวเรียนทำอาหารด้วย แบบนี้ต่อให้วันธรรมดาที่เขาไม่ว่าง หลิวฉิงเองก็จะได้กินตลอดเวลา
หลังจากที่พูดถึงเรื่องนี้ไป กู้ฉางเซินก็ตามแม่นมเฉินไปเรียนรู้ฝีมือทำอาหารจริง ๆ
เย่ว์อิ่นและซิงเฉินไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตกใจมาก
จะต้องรู้ว่า มือทั้งสองข้างของอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนถือเพียงดาบและพู่กันมายี่สิบกว่าปี บัดนี้กลับจะเปลี่ยนมาเป็นตะหลิวและกระทะแทน!
เขายืนอยู่หน้าเตาเผา ตั้งใจทำตามที่แม่นมเฉินระบุไว้อย่างจริงจัง ราวกับเซียนที่เย็นชามีแสงไฟในโลกมนุษย์แต่งเติมเล็กน้อย
จากการมองของเย่ว์อิ่นและซิงเฉิน ช่างไร้สาระและเป็นเรื่องจริง
ฝ่ายกู้ฉางเซินก็รู้สึกผ่อนคลาย เวลาผ่านไปอย่างเงียบสงบ
วันหยุดของเซียวปี้เฉิงก็สิ้นสุดลง ทว่ากลับยุ่งอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน
“พี่ใหญ่รู้จักคนไม่ชัดเจนหลงผิดเชื่อฉู่อวิ๋นหาน อีกทั้งบุกรุกคุกใต้ดินโดยไม่มีคำสั่งอีก มีเสียงไม่พอใจในราชสำนักมากมาย อีกทั้งหรงจั้นยังไปฟ้องเขาต่อหน้าทุกคนเมื่อเช้านี้อีก เกรงว่าคำลงโทษของเสด็จพ่อน่าจะลงมาเร็ว ๆ นี้แล้ว”
“มีบทเรียนความล้มเหลวของเสียนอ๋องก่อนหน้านี้ ฮองเฮากังวลพี่ใหญ่เองก็จะถูกจัดการด้วย ดังนั้นสองวันมานี้จึงอาละวาดต่อหน้าเสด็จพ่อมาก”
อวิ๋นหลิงจึงพอเข้าใจที่มาที่ไปโดยประมาณ ก้นบึ้งของหัวใจอดไม่ได้ที่จะยินดีในความโชคร้ายของคนอื่น
“นี่เป็นสิ่งที่เสด็จพ่อของท่านโอ๋จนเคยชินออกมา ให้เขาค่อย ๆ ปวดหัวไปเองก็แล้วกัน ยังมีเรื่องอะไรอีกไหม?”
เซียวปี้เฉิงสีหน้าจริงจังเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงหนักใจว่า “วันนี้ตอนที่เลิกราชสำนักข้าไปหาน้องหกที่นั่น เขาบอกว่าเมื่อคืนน้องห้าทะเลาะครั้งใหญ่กับเหลียงเฟย ดูเหมือนว่าจะเพราะจื่อเถา”
“จื่อเถา?เกิดอะไรขึ้น?”
เซียวปี้เฉิงส่ายหัว “รายละเอียดข้าเองก็ไม่ชัดเจน ได้ยินเพียงว่าเนื่องจากจื่อเถาชนเข้ากับเหลียงเฟยจึงถูกลงโทษ”
ในใจของอวิ๋นหลิงกังวลเล็กน้อย จึงรีบถามว่า “ร้ายแรงไหม?”
“ไม่รู้ว่านางพูดว่าอะไรทำให้เหลียงเฟยกริ้วมาก จากนั้นก็โดนตบไป หลังจากที่น้องห้ารู้ก็ทะเลาะกับนางใหญ่โต”
เมื่อได้ฟังตรงนี้ สีหน้าของอวิ๋นหลิงก็อึมครึมลงมาเล็กน้อย
นางมีความทรงจำที่ไม่ดีต่อเหลียงเฟยมากนัก แต่ก็ไม่ถือว่าแย่ คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะกล้าลงมือกับคนของนาง
จะต้องรู้ว่าจื่อเถาเป็นสาวใช้ใหญ่คนที่สองของจวนจิ้งอ๋อง แม้จะเหิมเกริมเหมือนหวงกุ้ยเฟยมากแค่ไหนเกะกะหน้าตาของนาง ก็ไม่มีทางไปหาเรื่องจื่อเถาได้ง่าย ๆ
บัดนี้เหลียงเฟยสั่งให้คนมาโบยนาง?
“พรุ่งนี้เช้าข้าจะเข้าวังไปดูกับท่านเสียหน่อย”
จากนิสัยของจื่อเถา อวิ๋นหลิงมั่นใจว่า แม่นางจื่อเถานั่นไม่มีทางไปทำให้เหลียงเฟยทรงกริ้วง่าย ๆ แน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...