อวิ๋นหลิงกับจื่อเถานั่งคุยสัพเพเหระในห้องรับรองของตำหนักฉางหนิงครึ่งวัน
เมื่ออีกครึ่งชั่วยามจะถึงเที่ยง เซียวจิ้งเป่ยที่ประชุมราชการเช้าเสร็จก็มาตำหนักฉางหนิง
“เจ้าจะฟ้องร้องเสด็จแม่เหลียงหรือ?” เซียวจิ้งเป่ยรู้สึกแปลกใจ จากนั้นก็พูดต่อว่า “ฝูกงกงบอกว่าช่วงนี้เสด็จพ่อเตรียมแต่งตั้งน้องห้าเป็นท่านอ๋องแล้วสร้างมอบจวนประจำตำแหน่งให้ หากเจ้าฟ้องร้องเหลียงเฟยเวลานี้ อาจจะส่งผลเสียต่อน้องห้าได้นะ”
อวิ๋นหลิงกลับหัวเราะ “เช่นนี้จักดียิ่ง ข้าจะดูว่าหยวนโม่ตอบสนองเช่นไร?”
เขาจะเลือกอะไรระหว่างผลประโยชน์ของตัวเองกับการปกป้องมารดาผู้ให้กำเนิดอย่างเหลียงเฟย?
เซียวปี้เฉิงเห็นนางไม่มีทีท่าจะเปลี่ยนใจก็เลิกคิ้วกล่าว “เจ้าจะไปร้องเรียนที่ห้องพระอักษรจีนหรือ? ยังไม่ต้องพูดถึงน้องห้า แค่เจ้าทำเยี่ยงนี้ก็เท่ากับแตกคอกับเหลียงเฟยแล้ว”
“ข้าเคยไว้หน้านางแล้ว หากไม่เห็นแก่หน้าหยวนโม่ เมื่อครู่ข้าก็จะไปฟ้องร้องที่ตำหนักทองหลวงแล้ว ไม่รอให้พวกท่านประชุมเสร็จหรอก”
เซียวปี้เฉิงหัวเราะ ไม่เพียงแต่ไม่ห้ามอวิ๋นหลิง ทางกลับกันยังมีความสุขบนความทุกข์คนอื่นด้วย
“งั้นข้าจะไปห้องตำราเป็นเพื่อนเจ้า ฮ่าๆๆ เสด็จพ่อต้องปวดหัวแน่?”
จะว่าไปชีวิตท่านพ่อก็อาภัพเหมือนกัน วังหลังของท่านมีพระสนมไม่กี่คน ทว่าโดนอวิ๋นหลิงเล่นงานเกือบครึ่ง
ยามนี้ยังไม่ถึงอาหารกลางวัน อวิ๋นหลิงจึงไปหาจักรพรรดิจาวเหรินที่ห้องตำรา
ก่อนนางไปยังไม่วายกำชับจื่อเถาว่า หากองค์ชายห้ามาหาก็ห้ามให้เขาห้องรับรอง
......
ด้านในห้องตำรา หมอกจันทร์หอมพวยพุ่งขึ้นไป
จักรพรรดิจาวเหรินถอนหายใจ “เห้อ! เพิ่งจะควบคุมสถานการณ์ทางการเมืองได้อย่างยากลำบาก ยามนี้ก็เกิดเรื่องที่วังหลังเสียแล้ว ช่วงนี้ปัญหาประเดประดังเข้ามาไม่ขาดสายเสียจริง”
ฝูกงกงรู้ว่ายามนี้ฮองเฮากับจักรพรรดิจาวเหรินกำลังงอนกัน จึงจงใจไม่พูดถึงเรื่องนี้
“องค์ชายห้ามีความสามารถ อีกสักพักเขาก็ได้เข้าร่วมราชการอย่างเป็นทางการแล้ว ฝ่าบาทก็จะผ่อนคลายขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อพูดถึงองค์ชายห้า จักรพรรดิจาวเหรินก็นึกเสียดาย
“เจ้าห้าเก่งใช้ได้ แต่เสียดายที่ไม่เคยฝึกเขาแต่เนิ่น ๆ โชคดีที่ทำยามนี้ก็ยังไม่สาย”
เดิมทีเขาไม่เคยฝากความหวังกับลูกชายคนนี้ ไหนเลยจะคิดว่ายามนี้ทำให้เขาตะลึงในความสามารถได้เพียงนี้
งานเลี้ยงฉลองวันเกิดของจักรพรรดิจาวเหรินปีที่แล้ว องค์ชายห้าที่ก่อนหน้านี้แสร้งโง่มาตลอด ได้แสดงความสามารถอย่างเปิดเผย
จักรพรรดิจาวเหรินจึงให้เขาไปทำงานที่สำนักศึกษาฮั่นหลิน จากที่จักรพรรดิจาวเหรินสังเกตมาครึ่งปี องค์ชายห้าโดดเด่นจริง จักรพรรดิจาวเหรินพอใจมาก จึงเตรียมจะแต่งตั้งยศอ๋องและพระราชทานจวนให้
จักรพรรดิจาวเหรินรู้สึกผิดต่อลูกชายคนนี้เล็กน้อย
โดยเฉพาะหลังจากรู้สาเหตุที่เสียนอ๋องกบฏแล้ว เขาก็เริ่มให้ความสำคัญต่อองค์ชายห้าขึ้นมา ช่วงนี้มักจะเรียกเขามาคุยในห้องตำราบ่อย ๆ
เพื่อเป็นการฝึกปรือ แนะนำและชดใช้ความละอายใจที่เคยละเลยในอดีต
หลังจากองค์ชายห้าได้รับความสนใจและกำลังใจจากเขา องค์ชายห้าก็ขยันหมั่นเพียร ทำให้จักรพรรดิจาวเหรินปลาบปลื้มใจมาก
“ถ้าเจ้าห้าเข้าร่วมราชการอย่างเป็นทางการแล้ว ก็จะสามารถแบ่งเบาภาระของเจ้าสามได้ หาไม่แล้วข้ากลัวเจ้าสามจะเหนื่อยตายไปเสียก่อน”
เซียวปี้เฉิงพอใจในตัวเซียวปี้เฉิงมากเช่นเดียวกัน เขาละเลยหน้าที่คนเป็นพ่อต่อลูกชายคนนี้มากที่สุด แต่กลับเป็นผู้ที่โดดเด่นที่สุด
ถึงแม้เขาจะเคยชดเชยบ้างแล้ว แต่จักรพรรดิจาวเหรินคิดว่าควรเคร่งกับรัชทายาทในใจให้มากจะดีกว่า
ฝูกงกงถอนหายใจ “ช่วงนี้ท่านอ๋องจิ้งลำบากและเหนื่อยที่สุดจริงพ่ะย่ะค่ะ”
“ใช่ โชคดีที่เขายังหนุ่มยังแน่น มีกำลังวังชา หากเป็นผู้อื่นคงเหนื่อยหมดแรงจนนอนสลบไปแล้ว”
จักรพรรดิจาวเหรินก็เห็นว่าเซียวปี้เฉิงมีพลังงานมากกว่าคนปกติเยอะ ทว่าเขาไม่ได้คิดอะไรมาก เข้าใจว่าเป็นเพราะฝึกยุทธ์มาหลายปี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...