พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 407

จื่อเถาระบายยิ้มเล็กน้อย “พระชายาเห็นความสำคัญของข้าเกินไปแล้ว”

อวิ๋นหลิงมองนาง ในใจอดรู้สึกเสียดายแทนองค์ชายห้าไม่ได้

ทั้งที่ทุ่มหมดหน้าตักถึงขนาดนั้น เสียหน้าไปจนป่นปี้ หมดโอกาสจะคว้าภรรยาไว้ จะใช้คำว่าน่าอนาถคำเดียวเอ่ยพรรณนาได้อย่างไร

แต่ในเมื่อจื่อเถาได้ตัดสินใจแล้ว อวิ๋นหลิงก็ไม่ฝืนใจอีก “เจ้าอยากตามข้ากลับจวนหรือไม่”

จื่อเถาส่ายหน้า “ข้าสัญญากับองค์ชายห้าไว้ก่อนหน้าว่าจะปรนนิบัติอยู่ข้างกายเขาครึ่งปี ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกสามเดือนกว่า ข้ารับปากเขาว่าจะรักษาสัญญา”

นี่เป็นคำขอเดียวขององค์ชายห้าในยามนี้ สุดท้ายนางก็ใจอ่อนไม่บอกปัด

“เอาละ เช่นนั้นคราวนี้ข้าจะไม่พาเจ้ากลับจวนไปด้วย”

จื่อเถารีบพูดต่อ “ข้ายังมีอีกเรื่องหนึ่งจะขอ พระชายาจำซวงหลีได้หรือไม่”

อวิ๋นหลิงมุ่นคิ้วเล็กน้อย จำได้ว่าเป็นนางในใหญ่คนนั้นที่รายงานข่าวให้องค์ชายหกอย่างลับๆ จากนั้นก็ช่วยเหลือจื่อเถาโดยอยู่ใต้อาณัติของเหลียงเฟย

“เดิมทีซวงหลีเป็นนางในใหญ่ของตำหนักจิ่งเหริน ปกติดูแลข้าเป็นอย่างดี คราวที่แล้วนางไปรายงานองค์ชายหกให้ช่วยข้า แต่พระสนมเหลียงเฟยรู้เรื่องเข้า จึงถูกลดตำแหน่งไปทำงานที่หน่วยซักล้างเสื้อผ้าพร้อมกับหน่วนซิ่ง องค์ชายห้ากำลังจะออกจากวังไปสร้างจวน แต่เขาลังเลไม่อยากพาซวงหลีออกไป ข้าจึงใคร่ขอพระชายาช่วยออกหน้าพูดให้ซวงหลีด้วยเถิดเจ้าค่ะ”

อวิ๋นหลิงพยักหน้า รับปากอย่างรวดเร็ว “ง่ายมาก ข้าจะไปขอจากสนมเหลียงเฟยดูสักครั้ง ตอนนี้ข้าขาดคนข้างกายอยู่พอดี”

ดูจากสถานการณ์ยามนี้ เหลียงเฟยจะไม่เห็นแก่หน้านางเป็นแน่

ก่อนจะไปพบเหลียงเฟย อวิ๋นหลิงไปหาองค์ชายห้าก่อน

องค์ชายห้าทราบจุดประสงค์ที่นางมา ก็ระบายลมหายใจโล่งอก “เดิมทีข้าอยากจะฝากฝังซวงหลีให้กับพี่สะใภ้สาม แต่ข้าได้ยินว่าพี่สามไม่ชอบมีสาวใช้ในจวนมากเกินไป จึงลังเลไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้…”

อันที่จริงไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากช่วยซวงหลี แต่เวลานี้เขากำลังหนักใจอยู่เช่นกัน

ถึงแม้ซวงหลีจะเป็นนางในใหญ่ของตำหนักจิ่งเหริน แต่เหลียงเฟยเป็นผู้มอบให้ เขาไม่เคยยอมรับนางเป็นสาวต้นห้อง ดังนั้นซวงหลียังคงเป็นคนของเหลียงเฟย สิทธิ์ขาดในการจัดการจึงขึ้นอยู่กับเหลียงเฟย

ขณะนี้สองแม่ลูกทะเลาะกันอย่างน่าอึดอัดใจ องค์ชายห้าจึงยากจะเอ่ยปากไปชั่วขณะ

เขาเห็นแก่ตัวไม่อยากให้จวนอ๋องมีผู้หญิงมากเกินไป ไม่เช่นนั้นเขาจะรู้สึกไม่สบายใจและหวาดหวั่น

ทว่าการปล่อยให้ซวงหลีอยู่ในวังก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ชีวิตที่หน่วยซักล้างเสื้อผ้านั้นยากลำบากนัก

องค์ชายห้ายิ้มอย่างเกรงใจ “ถ้าพี่สะใภ้สามยินดีจะรับซวงหลี เช่นนั้นคงจะดีมาก สาวใช้ผู้นี้เอาการเอางานและรู้ความ ทำงานรอบคอบและเชื่อถือได้ ถึงขั้นไว้วางใจได้เลยทีเดียว”

ซวงหลีมีฝีมือจัดการเรื่องงานโดดเด่นยิ่งนัก หากไม่มีเหตุผลพิเศษอะไร เขาก็คงทำใจมอบนางให้อวิ๋นหลิงไม่ลง

อวิ๋นหลิงพยักหน้าเล็กน้อย “ฟังเจ้าพูดเช่นนี้ข้าก็เบาใจ นอกจากเรื่องของจื่อเถา...”

“ข้ารู้ว่านางพะวักพะวน แต่ข้าจะไม่ยอมแพ้” องค์ชายห้าถอนใจเบาๆ สายตาแน่วแน่ “สักวันหนึ่ง เถาเอ๋อร์จะรู้ว่าข้าไม่ได้ทำตามอารมณ์ชั่ววูบ”

เมื่อเห็นพวกเขาทั้งสองจิตใจมั่นคง แต่ละคนมีความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ อวิ๋นหลิงก็รู้สึกวางใจ ไม่พูดอะไรอีก

เซียวปี้เฉิงกล่าวไว้ว่า เรื่องของความรักนั้นขึ้นอยู่กับพรหมลิขิต บังคับกันไม่ได้ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติจะดีเอง

จากนั้นอวิ๋นหลิงก็ไปยังตำหนักของเหลียงเฟย สถานะของเซียวปี้เฉิงตอนนี้แตกต่างจากแต่ก่อน เหลียงเฟยย่อมไม่หาเหตุมาปั้นปึ่งใส่นาง

แม้จะอยู่ในที่คุมขังก็ยังแย้มยิ้มได้ ให้การต้อนรับขับสู้อย่างอบอุ่น หลังจากฟังนางขอซวงหลีแล้วก็ตอบตกลงทันที

เซียวปี้เฉิงรออยู่ในรถม้าตรงหน้าประตูวังพักใหญ่ เห็นอวิ๋นหลิงชักช้าอยู่นานสองนาน แต่ก็ไม่ได้พาจื่อเถาออกมา กลับพานางกำนัลที่ไม่คุ้นตากลับมาคนหนึ่งด้วยสีหน้าค่อนข้างตึงเครียด

รออวิ๋นหลิงขึ้นรถม้าแล้ว เขาก็รีบซักถาม “นางกำนัลคนนั้นเป็นใคร”

อวิ๋นหลิงอธิบายที่มาให้ฟัง จากนั้นกล่าวว่า “วางใจเถิด หยวนโม่บอกว่านางซื่อสัตย์มาก ไม่เหมือนหน่วนซิ่งกับชิวซวง”

ก้นบึ้งหัวใจนางเป็นคนติดตลกเล็กน้อย ทำไมจึงเผยเงามืดในใจเช่นนี้ออกมาเสียเล่า

เซียวปี้เฉิงถอนใจด้วยความโล่งอก “ซื่อสัตย์ก็ดี”

ไม่ใช่ว่าหลงตัวเอง แต่เขารู้สึกว่าตนเองหน้าตาดีจริงๆ ยิ่งตอนนี้มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งรัชทายาทลงมาแล้วก็ต้องระวัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ