“พวกเขามาทำอะไร”
เฉียวเย่ตอบเสียงเบา “ฮูหยินเฟิงและคุณชายเฟิงนำของขวัญมาเต็มคันรถ พวกเขาบอกว่าตั้งใจมาที่นี่เพื่ออวยพรเรื่องที่พระชายาตั้งครรภ์และถือโอกาสนำของขวัญมาขอขมาจวนจิ้งอ๋องสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้พ่ะย่ะค่ะ”
“เรื่องมันผ่านมาตั้งเดือนหนึ่งแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่ยอมมา ทำไมถึงมาเอาป่านนี้ ต่อหน้าทำเป็นรักใคร่ห่วงใย แต่ในใจมุ่งร้ายไม่หวังดี”
เซียวปี้เฉิงและอวิ๋นหลิงคิดแบบเดียวกัน ฮูหยินเฟิงรักลูกเท่าชีวิต ครั้งก่อนที่เฟิงเหยียนเสียท่าให้คนทั้งสอง ทางนั้นไม่มายุ่มย่ามกับพวกเขาก็ถือว่าดีแล้ว แล้วจะมาขอโทษกันได้อย่างไร
แต่ที่ฮูหยินเฟิงมาที่นี่ด้วยตนเองก็ชัดเจนแล้วว่านางมาในนามของจวนเสนาบดีซ้าย ดังนั้นพวกเขาจะไม่ไว้หน้าอีกฝ่ายก็คงไม่ได้
เซียวปี้เฉิงรู้ดีแก่ใจว่าจวนเสนาบดีซ้ายหูตากว้างขวาง พวกเขาน่าจะรู้ว่าดวงตาของเขาจะกลับมามองเห็นได้จึงมาที่นี่เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการตรวจสอบด้วยตนเอง
“เฉียวเย่ เข้าไปรองรับฮูหยินเฟิงที่โถงใหญ่ก่อน เดี๋ยวข้าตามไป”
อวิ๋นหลิงหรี่ตา นางผลักรุ่ยอ๋องไปข้างๆ และพยุงเซียวปี้เฉิงไปที่โถงใหญ่
ทันทีที่เข้าไปในประตู เขาเห็นกล่องสีแดงขนาดเล็กใหญ่จำนวนมากกองพะเนินเหมือนเนินเขาอยู่ในโถงใหญ่
ฮูหยินเฟิงเป็นผู้หญิงที่มีตาหงส์และใบหน้ารูปไข่ นางดูแลตัวเองอย่างดี ดูเหมือนคนอายุสามสิบต้นๆ เท่านั้น
เมื่อเห็นอวิ๋นหลิง นางก็ซ่อนความเย็นชาในสายตาที่แวบขึ้นมาชั่วขณะเอาไว้และทักทายนางด้วยรอยยิ้มอย่างอบอุ่น
“ไม่ได้พบกันนานเชียว ท่านอ๋องและพระชายาสบายดีหรือไม่”
เซียวปี้เฉิงมีสีหน้าเฉยเมย เขาตอบอย่างเฉยชาว่า “ขอบคุณในความห่วงใยของฮูหยินเฟิง ข้าสบายดี”
เมื่ออีกฝ่ายพูดจบ แววตาของฮูหยินเฟิงก็ฉายแววความพอใจเมื่อเห็นรุ่ยอ๋องตามหลังมา
“บังเอิญจริงเชียว รุ่ยอ๋องก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ”
รุ่ยอ๋องทักทายเขาด้วยท่าทางไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไรนัก “เทียนอวี้ทำความเคารพน้าสะใภ้ใหญ่”
ฮองเฮาคนปัจจุบันเป็นสตรีจากตระกูลเฟิง รุ่ยอ๋องและเฟิงเหยียนจึงเป็นลูกพี่ลูกน้องทางสายเลือด แต่เฟิงเหยียนมีชื่อเสียงไม่ดีและความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
ตรงกันข้าม กลับเป็นฮูหยินเฟิงที่กระตือรือร้นอยู่เสมอจนรุ่ยอ๋องแทบรับมือไม่ไหว
แล้วก็เป็นไปตามคาด ทันทีที่เห็นรุ่ยอ๋อง ฮูหยินเฟิงก็สลัดเรื่องของเซียวปี้เฉิงและภรรยาทิ้งไปและดึงเขาไปคุยเรื่องสัพเพเหระ
“ช่วงนี้ฮองเฮาสบายดีหรือไม่”
“ได้ยินว่าองค์หญิงหกไปปฏิบัติกรรมฐานที่วัดหานซาน นางจะกลับมาเมื่อไรหรือ พี่น้องของพวกเรากำลังรอให้นางไปเป็นแขกที่จวนอยู่นะ”
“สีหน้าของรุ่ยอ๋องดูไม่ค่อยดีเลย ช่วงนี้อ่านตำราช่วงกลางคืนอีกแล้วรึ”
ขณะที่รุ่ยอ๋องกำลังปวดหัวกับการรับมือฮูหยินเฟิง อวิ๋นหลิงก็สัมผัสได้ถึงสายตามุ่งร้ายราวกับงูพิษที่เยือกเย็นกำลังจ้องมองนางจากที่ไกลๆ
นางหันไปมองตามสัญชาตญาณและเฟิงเหยียนที่สบตาเข้ากับนางก็รีบลดสายตาลงทันที
“ข้ารู้สึกมาตลอดว่าแม่ลูกคู่นี้ไม่ได้มีเจตนาดี”
เมื่อได้ยินเสียงกระซิบของนาง เซียวปี้เฉิงก็ลดเสียงลงและพูดว่า “ทางที่ดีอย่าใช้ของที่ตระกูลเฟิงเอามาให้จะดีกว่า พอรับมาแล้ว วันหลังค่อยหาเหตุผลเอาไปขายแลกเงินเสีย”
อวิ๋นหลิงพยักหน้าเบาๆ และใช้พลังจิตตรวจสอบกองภูเขาแห่งของขวัญกองนี้
ไม่ลองก็ไม่รู้ พอลองแล้วก็ต้องตกใจ
แววตาของนางมืดลง นางรีบกระซิบบอกเซียวปี้เฉิง “มีสิ่งมีชีวิตซ่อนอยู่ในกล่องของขวัญพวกนี้”
พลังจิตของนางมีความสามารถที่ต่างจากคนปกติเล็กน้อย นั่นคือการสัมผัสถึงสิ่งมีชีวิตรอบข้าง
ชาติที่แล้วตอนที่อวิ๋นหลิงอยู่ในองค์กร ความสามารถนี้เป็นวิชาบังคับสำหรับพวกเขา เด็กทุกคนที่ได้พัฒนาพลังจิตล้วนมีความสามารถนี้
“เจ้ารู้ได้อย่างไร”
เฟิงเหยียนที่เป็นมนุษย์ล่องหนอยู่ในมุมมานานค่อยๆ เดินอืดอาดออกมาข้างหน้าและพูดอย่างไม่เต็มใจ
“เมื่อเดือนที่แล้วที่หน้าจวนเหวินกั๋วกง ข้าน้อยพูดจาจองหองกับจิ้งอ๋องและพระชายา หลังจากโดนท่านปู่ทำโทษ ข้าน้อยก็รู้ตัวว่าทำผิดพลาดครั้งใหญ่ที่ไปล่วงเกินพวกท่าน ข้าน้อยจึงมาขอประทานอภัย”
ก่อนที่เซียวปี้เฉิงและอวิ๋นหลิงจะได้ตอบ ฮูหยินเฟิงก็ชิงพูดด้วยความรู้สึกผิดขึ้นมาก่อน “ลูกชายของข้ายังเด็กและยังไม่รู้เรื่องรู้ราว จิ้งอ๋องอย่าถือสาเขาเลย รุ่ยอ๋องเองก็อ่อนโยนกับผู้อื่นเสมอ ให้ความสำคัญกับความสงบสุขในทุกๆ เรื่อง ท่านเป็นพี่ชาย เห็นแก่น้าสะใภ้ ช่วยพูดให้น้องชายทั้งสองของท่านดีกันเถอะนะ”
อวิ๋นหลิงยิ้มออกมา แต่ในใจก็อยากจะกลอกตามองบนสักที ฮูหยินเฟิงผู้นี้ลอยหน้าลอยตาจริงๆ
เห็นได้ชัดว่ารุ่ยอ๋องไม่ชำนาญในการรับมือกับคนหน้าหนาแบบนี้ เขามองเซียวปี้เฉิงและอวิ๋นหลิงอย่างลังเล “น้องสาม ในเมื่อน้าสะใภ้พูดแบบนี้แล้ว...”
“ในเมื่อฮูหยินเฟิงและคุณชายเฟิงก้มหัวขอขมาด้วยความจริงใจแบบนี้ แล้วเราจะไม่ยอมให้เรื่องเล็กน้อยแค่นี้จบสิ้นได้ยังไง”
อวิ๋นหลิงตอบรับด้วยรอยยิ้ม แต่ฮูหยินเฟิงกลับจ้องมองนางอย่างแฝงความนัย
นางเด็กปลิ้นปล้อน นางไปก้มหัวขอขมาตอนไหนกัน
รุ่ยอ๋องมองอวิ๋นหลิงด้วยความตกใจ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เข้าใจถึงนิสัยกะล่อนของนางและไม่คิดว่านางจะพูดตรงๆ แบบนี้
เซียวปี้เฉิงพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ฮูหยินเฟิงเตรียมของขวัญมามากมายเช่นนี้แสดงให้เห็นถึงความจริงใจ ถ้าถือสากับคุณชายรุ่นเดียวกัน ข้าก็คงจะดูใจแคบ”
เซียวปี้เฉิงรู้จักอวิ๋นหลิงดี ไม่มีทางที่ปีศาจสาวคนนี้จะวางมือเรื่องนี้ง่ายๆ เขาจึงตามน้ำไปตามคำพูดของนาง
“แต่ไม่รู้ว่าของขวัญหนึ่งคันรถนี้ คุณชายเฟิงเตรียมอะไรมาบ้าง”
เซียวปี้เฉิงดูสนใจเรื่องนี้มาก ฮูหยินเฟิงเลิกคิ้วก่อนจะแนะนำของมีค่าในกล่องของขวัญด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างหยิ่งยโสและโอ้อวด
ตระกูลเฟิงมีทรัพยากรทางการเงินที่แข็งแกร่ง แม้แต่ชนชั้นสูงหรือขุนนางทั่วๆ ไปก็เทียบพวกเขาไม่ได้
ขณะที่ฮูหยินเฟิงกำลังพูด ตงชิงก็กลับมาที่โถงใหญ่อย่างเงียบๆ และส่งยาหม่องกระปุกเล็กให้อวิ๋นหลิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...