รุ่ยอ๋องได้ยินว่าเทวดาชี้แนะแนวทาง สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นตื่นเต้นขึ้นมา “ท่านอาจารย์เทพถ่ายทอดวิชาเซียนอะไรให้เจ้า?”
“ที่จริงก็ไม่ใช่วิชาเซียนหรอก เป็นวิธีการปรับการพิมพ์เฉยๆ ท่านอาจารย์บอกว่าชื่อเต็มคือการเรียงพิมพ์ด้วยดินเหนียว”
ในศตวรรษที่ยี่สิบสามข้อมูลนี้เรียกได้ว่าเป็นเนื้อหาที่เจอในข้อสอบที่ทุกคนจำขึ้นใจ
อวิ๋นหลิงเล่าตามความทรงจำ พูดถึงหลักการใช้แท่นเรียงพิมพ์ดินเหนียวและข้อดีข้อเสียอย่างละเอียด
โลกใบนี้ยังอยู่ในขั้นการพิมพ์แกะไม้ ถ้าต้องการตีพิมพ์หนังสือสักเล่มหนึ่ง ก็ต้องแกะสลักบนกระดาษไม้หน้าละหนึ่งแผ่นก่อน ทั้งเสียเวลาและสิ้นเปลืองทรัพยากร ถ้าเกิดแกะสลักผิดหนึ่งตัวก็ต้องทิ้งแผ่นแกะสลักอันเดิม แล้วทำใหม่อีกครั้ง
ส่วนการพิมพ์เชิงเรียงพิมพ์นั้นแค่ทำเป็นตัวอักษรโดดๆ เวลาต้องการตีพิมพ์ก็แค่นำตัวอักษรมาประกอบกันตามเนื้อหาในหนังสือ จากนั้นก็เริ่มทำการตีพิมพ์ได้
เซียวปี้เฉิงกับรุ่ยอ๋องฟังสิ่งที่อวิ๋นหลิงอธิบายเงียบๆ สีหน้าพวกเขาล้วนตื้นตันและเข้มขรึม แววตาเป็นประกายแวววาว ดูเหมือนจะเข้าใจเอกลักษณ์การพิมพ์เชิงเรียงพิมพ์แล้ว
เซียวปี้เฉิงกล่าว “วิธีนี้ดีเยี่ยมไปเลย สามารถเอาแม่พิมพ์มาจัดเรียงกันเป็นข้อความได้ หากแม่พิมพ์ใดเสียก็แค่ทำแม่พิมพ์ตัวนั้นๆ ใหม่อีกครั้ง ไม่จำเป็นต้องแกะสลักใหม่ทั้งแผ่น”
แผ่นแกะสลักต้นแบบตัวอักษรก็มีอายุการใช้งาน หากโดนแมลงแทะหรือขาดขึ้นมาก็ต้องโยนทิ้งแล้วทำใหม่
“ดีเยี่ยม ยอดเยี่ยมไปเลย”
รุ่ยอ๋องก็แสดงความดีใจทางสีหน้าอย่างเด่นชัด นัยน์ตาเป็นประกายระยิบระยับ
“ไม่ใช่แค่ประหยัดเวลาและกำลัง ถ้าคิดจะตีพิมพ์หนังสือทั่วไปด้วยก็ย่อมทำได้”
นอกจากตำราที่ได้รับความนิยมแล้ว ยังสามารถตีพิมพ์หนังสือที่มีคนไม่กี่ประเภทสนใจด้วย เพราะมีความยุ่งยากด้านการแกะสลักไม้ ดังนั้นจึงมีการตีพิมพ์หนังสือในปริมาณน้อย แต่ความคิดที่อวิ๋นหลิงเสนอขึ้นมา การเรียงพิมพ์โดยการใช้ดินเหนียวจึงตอบโจรย์พวกเขามาก
อวิ๋นหลิงเห็นท่าทีดีใจของพวกเขาก็แย้มยิ้ม “ต่อไปถ้าต้องการตีพิมพ์หนังสือก็ใช้วิธีแท่นเรียงพิมพ์นี้เถอะ แต่ถ้าต้องการพิมพ์ลวดลายภาพวาด ยังคงจำเป็นต้องใช้แผ่นไม้แกะสลักเหมือนเดิม”
อย่างหนังสือทางการแพทย์กับงานฝีมือต่างๆ ส่วนมากจะมีภาพประกอบด้วย การเรียงพิมพ์ยังไม่สามารถใช้แทนการแกะสลักไม้ในจุดนี้ได้
เซียวปี้เฉิงมองนางด้วยแววตาอ่อนโยน “ความคิดนี้ดีมาก ต่อไปก็จะลดต้นทุนการตีพิมพ์ได้เยอะเลย สำนักขันทีฝ่ายพิธีการก็ไม่ต้องจ้างช่างแกะสลักมากมายเช่นนั้นแล้ว”
เซียวปี้เฉิงแค่นึกได้ว่าประหยัดเงินได้เยอะก็รู้สึกว่าตอนนี้ดีใจเหมือนฉลองวันตรุษจีนเลย
“หลิงเอ๋อร์ เจ้าช่วยราชสำนักประหยัดเงินก้อนโตอีกแล้ว แล้วข้าคิดว่าทั่วทั้งแคว้นต้าโจว...ไม่ใช่สิ คนทั้งใต้หล้าจะขอบคุณเจ้าเป็นอย่างสูงแน่”
เทคนิคการตีพิมพ์นี้ไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงแคว้นต้าโจวเท่านั้น ยังส่งผลต่อทั่วใต้หล้าอีกด้วย
รุ่ยอ๋องมองอวิ๋นหลิงด้วยแววตาชื่นชม ผ่านไปเนิ่นนานกว่าเขาจะปรับอารมณ์ของตัวเองให้ปกติอีกครั้ง จากนั้นก็ลุกขึ้นประสานมือคำนับอวิ๋นหลิงสามครั้ง
“น้องสะใภ้สาม ต้าโจวโชคดีเหลือเกินที่มีเจ้า”
ก่อนหน้านี้อวิ๋นหลิงกับรุ่ยอ๋องไม่เคยอยู่อย่างปรองดองเช่นนี้มาก่อน เจอกันทีไรก็ต้องทะเลาะกันเพราะเหม็นขี้หน้าอีกฝ่ายตลอด
จะว่าไปก็ตลกดี ท่าทีเป็นมิตรของรุ่ยอ๋องยามนี้ ชวนให้นางรู้สึกวางตัวไม่ถูก
แววตาของอวิ๋นหลิงก็อ่อนโยนขึ้นกว่าเดิม ยิ้มประสานมือให้เขา “พี่ใหญ่ชมเกินไปแล้ว ข้าไม่ได้ประดิษฐ์วิธีนี้ขึ้นมาเอง ไม่กล้ารับคำชื่นชมจริงๆ”
“ถ้าไม่ใช่วิชาเซียนแล้วผู้ใดเป็นคนคิดขึ้นมารึ?”
แววตาอวิ๋นหลิงอ่อนโยนมากขึ้น มีประกายแสงรำลึกถึงแวบผ่าน น้ำเสียงมีความภาคภูมิใจเล็กน้อย “วิธีการตีพิมพ์นี้ ท่านอาจารย์รู้ตอนไปท่องโลก ท่านอาจารย์บอกว่าผู้ประดิษฐ์ชื่อปี้เซิง เป็นช่างไม้แกะสลักในร้านหนังสือแห่งหนึ่ง”
ต่อให้นางหน้าด้านเพียงใด ก็ไม่อาจเอาความดีความงามครั้งใหญ่นี้ไปครอบครองได้ จึงแนะนำผู้คิดค้นตามเนื้อหาในประวัติศาสตร์ให้ฟังโดยทางอ้อม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...