พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 46

ฮูหยินเฟิงแทบจะกระอักโลหิตออกมา นางไม่มีความหวังในตัวอวิ๋นหลิงอีกต่อไป จึงหันไปขอความช่วยเหลือจากรุ่ยอ๋อง

“ท่านอ๋อง! รีบไปช่วยญาติผู้น้องของท่านเถิด ท่านจะทนเห็นเหยียนเอ๋อร์ตายไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้นะ!”

รุ่ยอ๋องได้รับการปกป้องจากฮองเฮาอย่างดีมาตลอด ไม่เคยเห็นเหตุการณ์เลวร้ายเช่นนี้กับตา จึงมองเซียวปี้เฉิงและอวิ๋นหลิงอย่างทำตัวไม่ถูกอยู่บ้างไปครู่หนึ่ง

“ฉู่อวิ๋นหลิง นี่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ที่สำคัญน้าสะใภ้ออกปากในยามนี้ออกจะประหลาดอยู่บ้าง ไยเจ้าไม่...ใจอ่อนสักครั้ง ช่วยเหลือสักหน่อยเป็นอย่างไร”

อวิ๋นหลิงแค่นหัวเราะหยัน “คิดว่าข้าโดนลาเตะมาเลยสมองโง่เหมือนท่าน ไปช่วยคนที่คิดปองร้ายข้าอย่างนั้นหรือ”

“แต่ว่าการอยู่เฉยๆ เช่นนี้ก็ไม่ใคร่ดีนัก ประเดี๋ยวหลังจากที่คุณชายเฟิงตัวเย็นชืดแล้ว ข้าจะขันอาสาช่วยฮูหยินเฟิงเก็บศพให้แล้วกัน”

มุมปากของเซียวปี้เฉิงสั่นกระตุก ปีศาจสาวผู้นี้ปากร้ายนัก ชวนให้เขานึกสงสัยว่าเฟิงเหยียนยังไม่ทันจะตัวเย็น ฮูหยินเฟิงจะถูกนางยั่วโทสะจนตายไปเสียก่อน

จริงดังคาด ครั้นฮูหยินเฟิงได้ยินประโยคนี้ก็โกรธจนเจียนจะหน้ามืดทันที

“นางคนต่ำช้า! นางหญิงสารเลวใจร้ายใจดำอย่างเจ้านี่! ไม่ได้ตายดีแน่!”

ฮูหยินเฟิงเลิกเพ้อฝันกับอวิ๋นหลิงโดยสิ้นเชิง แล้วเริ่มสาปแช่งเสียงดัง ประเดี๋ยวร่ำไห้ประเดี๋ยวสบถด่าอยู่พักหนึ่ง

อวิ๋นหลิงยักไหล่โดยไม่เก็บคำพูดของฮูหยินเฟิงมาใส่ใจเลย

เมื่อได้ยินเสียง หลินซินรีบรุนรถเข็นไม้ของเยียนอ๋องไปที่ห้องโถงหลัก

พอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หลินซินมองไปทางอวิ๋นหลิงด้วยแววตาโกรธขึ้งที่ไม่อาจปกปิดได้

“หมอเป็นผู้มีเมตตา หนึ่งชีวิตอยู่ต่อหน้า เจ้าไม่สะทกสะท้านเลยหรือ ต้องโหดเหี้ยมเพียงใด!”

เซียวปี้เฉิงสีหน้าบึ้งตึง กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เป็นข้าเองที่ไม่อนุญาตให้อวิ๋นหลิงรักษาเขา ข้ามาที่นี่เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ใครหน้าไหนก็ตามที่ช่วยเฟิงเหยียนในวันนี้ ก็คือผู้สมรู้ร่วมคิดกับนักโทษ!”

ในใจเยียนอ๋องตื่นตระหนก พี่สามทำเช่นนี้ก็เจตนาให้เห็นว่าหมายจะเอาชีวิตเฟิงเหยียน!

หลินซินทอดสายตาไปทางเซียวปี้เฉิงอย่างไม่อยากจะเชื่อ ราวกับนึกไม่ถึงว่าศิษย์ที่เคารพอาจารย์เสมอมาผู้นี้จะไม่เชื่อฟังนาง

“ปี้เฉิง...”

“ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ความจริงก็คือเฟิงเหยียนนำงูพิษเข้ามาในจวนจิ้งอ๋อง เคราะห์ดีที่วันนี้อวิ๋นหลิงพบเข้าโดยบังเอิญ หากวันดีคืนดีงูพิษตัวนี้โผล่ออกมาโดยไม่มีใครสังเกตเห็น แล้วกัดอวิ๋นหลิง กัดอวี้จือ ถึงขั้นกัดเสด็จปู่ ใครจะรับผิดชอบไหว!”

วาจาของเซียวปี้เฉิงราวกับอสนีบาตฟาดพสุธาดังเปรี้ยง ได้ปลุกผู้คนที่หวั่นไหวจนเกิดใจสงสารเฟิงเหยียนเพราะอาการสาหัสในบัดดล

ถูกต้อง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ผู้ที่นำงูพิษมาที่จวนจิ้งอ๋องก็คือเฟิงเหยียน

สีหน้าเซียวปี้เฉิงเยียบเย็นราวกับอสุรกาย “เฟิงเหยียนกำลังสังหารเชื้อพระวงค์ ถ้าพระเจ้าหลวงมีอันเป็นไป ไม่เพียงเฟิงเหยียนจะตาย ต่อให้เป็นเสนาบดีฝ่ายซ้ายก็อย่าหมายจะรอดพ้น”

“ฮูหยินเฟิง เจ้าควรจะดีใจว่าคนที่ถูกกัดคือเฟิงเหยียน หากเป็นคนอื่น ตระกูลเฟิงของพวกเจ้าคงหายนะมาเยือน!”

ฮูหยินเฟิงทรุดลงกับพื้นอย่างสิ้นเรี่ยวแรงด้วยสีหน้าอิดโรย เห็นชัดว่านางเข้าใจถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้

นางพึมพำทั้งน้ำตา “หรือว่า...เหยียนเอ๋อร์จะต้องตาย?”

อวิ๋นหลิงถอนหายใจแผ่วเบา “งูตัวนี้พิษร้ายแรง คิดจะขับพิษนั้นไม่ง่าย แต่ก็ยังมีวิธีที่จะช่วยชีวิตคุณชายของท่านได้”

ดวงตาของฮูหยินเฟิงทอประกายด้วยความหวังอีกครั้ง “วิธีอะไร”

อวิ๋นหลิงเอ่ยเสียงหนัก “ฉวยโอกาสที่พิษงูในร่างกายยังไม่ลุกลาม ตัดแขนขวาของเขาทิ้งเสียเดี๋ยวนี้”

เฟิงเหยียนตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หลั่งน้ำตาฟูมฟายอีกครั้ง

“ท่านแม่! ข้าไม่เอา ข้าไม่อยากเป็นคนพิการ!”

หลินซินมองนางด้วยสายตาที่ไม่เห็นพ้องด้วย “การช่วยชีวิตคนดีกว่าการสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น ทั้งที่เจ้าขับพิษให้เขาได้ชัดๆ ไยต้องตัดแขนเขาด้วยเล่า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ