ครั้นได้ยินฝูกงกงพูดว่าอวิ๋นหลิงมาแล้ว พระเจ้าหลวงก็ลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงียโดยผมขาวสีดอกเลายุ่งกระเซอะกระเซิงคล้ายเล้าไก่ ก่อนจ้องมองด้วยความสับสน
ตาแก่น้อยยังไม่ทันลืมตาดี ปากก็เริ่มพึมพำก่อนแล้ว
“เจ้าเด็กใจร้าย! ตั้งนานไม่รู้จักมาเยี่ยมข้าบ้างเลย แค่ไม่กี่วันก็ลืมข้าเสียสนิทเลยหรือ”
อวิ๋นหลิงคลี่ยิ้มพลางเข้าไปรับหน้า “พักก่อนข้ายุ่งมากจนแทบจะงอกสามเศียรหกกรออกมา พอว่างปุ๊บก็เข้าวังมาเยี่ยมท่านทันที ดูสิ ข้าตั้งใจห่อบ๊ะจ่างตั้งหลายไส้มาฝากท่านเยอะแยะเลย”
เห็นว่าพระเจ้าหลวงยังไม่ได้เสวย อวิ๋นหลิงจึงเรียกนางกำนัลเข้ามา ให้พวกเขาต้มน้ำนึ่งบ๊ะจ่าง
“กระหม่อมถวายพระพรพระชายาจิ้งอ๋อง!”
ขันทีน้อยที่ใบหน้าดูใจดีและน่าเอ็นดูเดินเข้ามา รีบยกน้ำชาและเทน้ำมาให้อวิ๋นหลิงอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงไปปรนนิบัติพระเจ้าหลวงล้างหน้าบ้วนปาก
อวิ๋นหลิงเห็นหน้าไม่คุ้น จึงเอ่ยถามอย่างนึกสงสัย “มาใหม่หรือ”
ฝูกงกงแย้มยิ้มพลางอธิบายว่า “ทูลพระชายา นี่คือเสี่ยวจินจื่อ เป็นศิษย์ที่กระหม่อมพามาเองกับมือ ปกติเป็นคนทำงานคล่องแคล่วและช่างพูดช่างเจรจา พระเจ้าหลวงมักจะรู้สึกว่าในวังน่าเบื่อเหลือเกิน เบื่อกระหม่อมหน้าเก่าซ้ำซากจำเจแล้ว จึงเรียกคนหนุ่มมาปรนนิบัติให้กระชุ่มกระชวย”
แน่นอนว่าความกระชุ่มกระชวยไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด เสี่ยวจินจื่อผู้นี้เป็นคนสนิทที่พระเจ้าหลวงคัดเลือกและฝึกฝนให้อวิ๋นหลิงกับสามี
ถึงแม้พระเจ้าหลวงจะรามือแล้ว แต่เรื่องที่ควรใส่ใจก็ไม่ได้ละทิ้ง
เสี่ยวจินจื่อผู้นี้เป็นศิษย์ที่ฝูกงกงพาเข้ามา มีภูมิหลังสะอาดและเชื่อถือได้ เมื่อทั้งคู่ย้ายเข้าตำหนักบูรพาในเดือนหน้าก็จะมีคนไว้ใช้สอย
อวิ๋นหลิงฟังแล้วก็อดรู้สึกละอายใจเล็กน้อยไม่ได้ ยามปกติก็ยุ่งง่วนกับภารกิจจนเกินไป ทั้งไม่มีเวลาอยู่กับลูกๆ และละเลยดูแลพระเจ้าหลวงที่เหงาเดียวดายอีกด้วย
“ประเดี๋ยวกลับไปข้าจะบอกแม่นมเฉิน ให้นางพาลูกทั้งสองมาพักที่ตำหนักฉางหนิงเป็นเพื่อนท่านสักหว่างหนึ่ง”
ตอนนี้ต้าเป่าเอ้อร์เป่าอายุได้เจ็ดเดือนแล้ว พามาที่นี่จะดูแลง่ายกว่าตอนแรกมากทีเดียว
พระเจ้าหลวงล้างหน้าบ้วนปากเสร็จก็โบกมือพลางกล่าวว่า “เอาละเลิกพูดเล่นไปเรื่อย เดือนหน้าพวกเจ้าก็ควรย้ายเข้าตำหนักบูรพาได้แล้ว คงไม่ช้าไปกว่านี้หรอก”
เมื่อถึงตอนนั้น เขาก็จะใช้ชีวิตกับหลานๆ ได้อย่างสนุกสนานทุกวัน
ขณะกำลังกินบ๊ะจ่างไส้ถั่วแดงหอมหวานเหนียวนุ่ม พระเจ้าหลวงก็ซักถามอวิ๋นหลิงเรื่องการบ้านช่วงนี้
“วิ่งไปโน้นมานี้ทั้งวัน ลืมไปแล้วหรือว่าต้องเรียนรู้อะไรบ้าง อย่าลืมว่าเมื่อถึงเวลาข้าจะทดสอบเจ้าด้วย”
อวิ๋นหลิงหัวเราะฮ่าๆ แล้วตอบว่า “ไม่มีทางลืมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหนก็ไม่ลืมคำแนะนำดีๆ ของท่าน”
อันที่จริงหมู่นี้นางงานยุ่งตัวเป็นเกลียว ไม่มีเวลาไปเข้าเรียนกับกู้ฉางเซินนานแล้ว
แต่อย่างไรเสียนางก็มี ‘คู่มือสอบ’ ถ้าท่องจำก่อนสอบ คิดว่าจะผ่านได้ไม่ยาก
พระเจ้าหลวงหรี่ตาลง มองทะลุปรุโปร่งแต่ไม่ได้พูดอะไร แค่ส่ายหัวไปมา ก่อนเอ่ยด้วยเสียงดังทุ้มลึก
“ลำพังท่องจำอย่างเดียวไม่พอ โดยเฉพาะกฎเกณฑ์และมารยาทในวังทั้งหลาย ต่อให้เจ้าจะมีนิสัยเอาแต่ใจรักสบาย ก็ยังต้องท่องจำให้ขึ้นใจเผื่อไว้ใช้ยามจำเป็นด้วย จะได้ไม่ทำเรื่องตลกให้ผู้อื่นจับได้ อย่าเพิ่งรังเกียจว่าเหนื่อย ใครให้เจ้าไม่ไปเรียนที่สำนักศึกษาก่อนหน้านี้ ทีนี้พอจวนตัวก็ได้แต่จุดธูปไหว้พระ”
ได้ยินคำพูดที่แฝงความนัยเช่นนี้ หัวใจของอวิ๋นหลิงก็เต้นระรัว พลันนึกถึงบุตรสาวตระกูลหลี่ขึ้นมาได้
อีกฝ่ายมีผลการเรียนดีเยี่ยมที่สำนักศึกษาเป่ยลู่ มีทักษะดีทุกด้าน ได้รับการอบรมเลี้ยงดูตามแบบฉบับสตรีชาววัง
จู่ๆ นางก็เข้าใจเจตนาของพระเจ้าหลวง เข้าใจว่าเหตุใดจึงรู้ว่านางไม่ชอบกฎที่จุกจิกหยุมหยิมพวกนั้น แต่ก็ยังไม่วายให้ฝูกงกงส่งหนังสือกองหนึ่งมาบังคับให้นางเรียนรู้ แล้วจะทำการทดสอบด้วยตนเอง
สัมผัสถึงความตั้งใจดีเช่นนี้ อวิ๋นหลิงก็รู้สึกอบอุ่นและปลาบปลื้มใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...