พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 463

เมื่อเผชิญกับคุณหนูตระกูลขุนนางที่ไม่คุ้นหน้าผู้นี้ ตงชิงก็เอ่ยถามอย่างนึกสงสัยด้วยน้ำเสียงสุภาพ “ผู้เป็นนายข้าคือพระชายาจิ้งอ๋องจริงๆ ขอถามได้หรือไม่ว่าแม่นางเป็นคุณหนูตระกูลใด”

นางเน้นย้ำถึงศักดิ์ฐานะของอวิ๋นหลิงเล็กน้อย โดยบอกเป็นนัยให้หญิงสาวตรงหน้าโค้งคำนับ

จากนั้นหลี่เมิ่งเอ๋อร์ก็ดึงสติกลับมาได้ มองใบหน้าของอวิ๋นหลิงด้วยสายตาสับสนรอบหนึ่ง ก่อนค้อมกายโค้งคำนับ

มารยาทของนางในท่าทางนี้เต็มพิธีการ ถึงตงชิงจะเห็นคุณหนูหญิงงามที่มีชื่อเสียงจนชินตา ก็รู้สึกว่าท่าทางของอีกฝ่ายดูน่าเจริญตาเจริญใจ

แต่ใบหน้าที่เชิดขึ้นเล็กน้อย สองตาคู่นั้นมองตรงไปที่อวิ๋นหลิงโดยไม่หลบเลี่ยงแม้แต่น้อย ทำให้รู้สึกอึดอัดยิ่งนัก

หลี่เมิ่งเอ๋อร์เม้มปาก พูดเสียงดังฟังชัดว่า “หลี่เมิ่งเอ๋อร์จวนอัครเสนาบดีหลี่ คารวะพระชายาจิ้งอ๋อง”

ได้ยินชื่อนี้ อวิ๋นหลิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยจนมิอาจสังเกต เข้าใจในบัดดลว่าทำไมดรุณผู้นี้ถึงดูดุดันขนาดนี้ มาด้วยเจตนามาดร้ายอยู่ในที

คุณหนูของตระกูลเสนาบดีหลี่หรือนี่

แววตาของตงชิงตกตะลึง คนผู้นี้ตกเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างดุเดือดในจวนจิ้งอ๋องเมื่อสองวันก่อน ไม่นึกว่าจะได้พบเจอกันในระหว่างทางเร็วขนาดนี้

นางมองไปยังอวิ๋นหลิงโดยไม่รู้ตัว แต่เห็นอีกฝ่ายไม่ได้ขมวดคิ้วด้วยซ้ำ ใบหน้าเจือรอยยิ้มแจ่มใส

อวิ๋นหลิงกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ที่แท้เป็นคุณหนูตระกูลเสนาบดีขวานี่เอง”

นางพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเดินผ่านหลี่เมิ่งเอ๋อร์ไป สีหน้าของฝ่ายหลังพลันแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย มองแผ่นหลังของอวิ๋นหลิงด้วยความเหลือเชื่ออยู่บ้าง

ไปแบบนี้เลยหรือ

ทั้งที่รู้ว่าอีกไม่นานนางจะกลายเป็นชายารองขององค์รัชทายาท แต่ตอนพบกันกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เลย?

ในใจหลี่เมิ่งเอ๋อร์รู้สึกฉุนเฉียวอย่างอธิบายไม่ถูกที่ถูกเมินเฉย ลอบขบฟันกรอด ข่มเพลิงโทสะในอกแล้วไล่ตามไป

อวิ๋นหลิงหันกลับไป ปรายตามองนาง “คุณหนูหลี่มาหาข้ามีธุระอันใดหรือ”

หลี่เมิ่งเอ๋อร์ขยำผ้าเช็ดหน้าแน่น เหลือบมองบรรดาบ่าวที่กำลังตัดแต่งกิ่งและรดน้ำดอกไม้ในสวนหลวง แล้วจู่ๆ ก็ขึ้นเสียง

“หมู่นี้มีห้องสมุดผุดขึ้นในเมืองหลวง ผู้คนในเมืองหลวงและเหล่าศิษย์ในสำนักศึกษาต่างชื่นชมกันไม่ขาดปาก ได้ยินว่าห้องสมุดแห่งนี้ได้พระชายาจิ้งอ๋องเป็นผู้เสนอและดำเนินการสร้าง เมิ่งเอ๋อร์ได้ยินกิตติศัพท์ของพระชายาจิ้งอ๋องมานานแล้ว เลื่อมใสอยู่ในใจยิ่งนัก”

“พระชายาจิ้งอ๋องรวบรวมหนังสือตำราล้ำค่ามากมายทั่วหล้า คิดว่าจะต้องเก่งรอบรู้เป็นพหูสูตแน่นอนกระมัง เมิ่งเอ๋อร์เคยเรียนที่สำนักศึกษาเป่ยลู่ ในเมื่อวันนี้มีวาสนาได้พบกัน อยากจะใคร่ขอความรู้จากพระชายาจิ้งอ๋องสักหน่อย”

นางพูดจาฉะฉาน เสียงดังก้องกังวาน บ่าวไพร่กับองครักษ์ทั้งหลายบริเวณใกล้เคียงได้ยินคำขอเชิงท้าทายที่ตรงไปตรงมาระคนใจกล้าบ้าบิ่นเช่นนี้ ต่างพากันหันไปมองอย่างเงียบๆ เงี่ยหูฟังอย่างสงสัยใคร่รู้

หลังจากอวิ๋นหลิงได้ยินคำนี้ ก็รู้สึกว่าหลี่เมิ่งเอ๋อร์ผู้นี้ค่อนข้างน่าสนใจ

ถึงแม้จะยังเด็ก แต่ค่อนข้างแตกต่างจากพวกฉู่อวิ๋นหานกับเฟิงจิ่งเหวยที่เคยต่อกรในอดีต

นางมองประเมินอีกสองสามครั้ง เห็นว่าใบหน้าของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความมั่นใจอันเป็นเอกลักษณ์ของดรุณีวัยสิบหกปี นัยน์ตาฉายแววเจตจำนงต่อสู้กับเจตนายั่วยุที่ไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย แฝงกลิ่นอายลูกวัวแรกเกิดไม่กลัวเสืออยู่ในที

เห็นอวิ๋นหลิงไม่เอื้อนเอ่ยวาจา หลี่เมิ่งเอ๋อร์ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก้นบึ้งดวงตาเผยรอยยิ้มดูแคลนอยู่บ้าง

“พระชายาจิ้งอ๋องไม่กล้าหรือ เมิ่งเอ๋อร์จะไม่ถามปัญหายากแต่อย่างใด แค่อยากจะใช้โอกาสนี้พูดคุยกับพระชายาจิ้งอ๋องให้สนิทสนมขึ้นก็เท่านั้นเอง”

อวิ๋นหลิงคลี่ยิ้มในใจ อย่างไรเสียก็ยังเยาว์เกินไปจึงสงบสติอารมณ์ไม่อยู่

ดังที่เซียวปี้เฉิงกล่าวไว้ไม่ผิด ถอดนิสัยมาจากหลี่กุ้ยเฟยพิมพ์เดียวกัน ทว่ายังไม่ถึงระดับหลี่กุ้ยเฟย แต่ก็หยิ่งผยองไม่น้อย

อวิ๋นหลิงคลี่ยิ้มละไม พยักหน้าด้วยความยินดี “การรอคนอยู่ที่นี่มันน่าเบื่อ หากคุณหนูหลี่มีคำถามอะไรก็เชิญถามได้เลย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ