อวิ๋นหลิงไม่รู้เกี่ยวกับความคิดของกู้ฉางเซิน
นางไม่กล้าคิดหรอกว่าเป็นถึงท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการจะยินดีมาเป็นอาจารย์ให้กับแคว้นที่อยู่ห่างไกลบ้านเกิดเมืองนอนเพียงนี้
อวิ๋นหลิงได้ยินความคิดของพี่น้องแล้วก็แย้มยิ้ม เผยฟันอันขาวสะอาดสะอ้าน
“พี่ฉิงเก่งขนาดนี้ ถ้าให้เป็นครูฝึกก็เสียดายความสามารถแล้ว ต้องแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพถึงจะถูก”
คำพูดนี้หากคนอื่นได้ยินแล้วอาจจะตกใจเล็กน้อย ทว่าอวิ๋นหลิงพูดจริงจังมาก
ถึงพี่ฉิงจะใจเสาะด้านความรัก แต่ฝีมือในการต่อสู้นั้นเลิศล้ำ ตอนนี้โดนจับไปเป็นพระสนมวังหลัง ช่างเสียดายความสามารถยิ่ง
เซียวปี้เฉิงยกยิ้มจางๆ พูดเห็นด้วย “ในประวัติศาสตร์ต้าโจวก็ไม่เคยมีแม่ทัพหญิงมาก่อน แต่ฝีมือของหลิวฉิงสูงกว่าตำแหน่งแม่ทัพ หากเกิดในกลียุค อย่าว่าแต่เป็นแม่ทัพเลย ยังเป็นท่านอ๋องเป็นท่านโหวได้อย่างสบายมาก”
เขาก็เป็นคนฝึกยุทธ์ที่ผ่านสมรภูมิรบมาแล้ว เวลาคุยเรื่องการรบเป็นครั้งคราว มักจะมีความเห็นตรงกับหลิวฉิง นางมีภูมิฐาน เยือกเย็นกว่าฟงเสี่ยวเม่ยเยอะ
ฟงเสี่ยวเม่ยเติบโตในค่ายทหารตั้งแต่เด็ก มีพรสวรรค์กว่าพี่ชายทั้งสองคน
หากฟงเสี่ยวเม่ยไม่ช่วยจักรพรรดิเป่ยฉินจนแขนซ้ายเสียการทรงตัว และไม่โดนแผนร้ายเล่นงาน จนโดนบีบไปเป็นพระสนม นางก็มีโอกาสเป็นแม่ทัพหญิงแห่งยุคสูง
ในสายตาเซียวปี้เฉิง พรสวรรค์ของหลิวฉิงสูงกว่าฟงเสี่ยวเม่ย เพราะนางยังควบคุมสัตว์ได้ด้วย ขาดเพียงโอกาสแสดงความสามารถเท่านั้น
โชคดีที่หลิวฉิงไม่คิดอยู่ที่แคว้นเป่ยฉิน ยืนยังหัวชนฝาว่าจะอยู่กับอวิ๋นหลิง
ได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ดวงตาเสวียนจีก็เป็นประกายระยิบระยับ พูดด้วยความปรารถนาสูง “แล้วข้าล่ะ? พี่เขยสาม ข้าก็อยากเป็นเจ้าคนนายคนบ้าง?”
อวิ๋นหลิงเก็บรอยยิ้ม ก่อนจะถลึงตาใส่นาง “เป็นเจ้าคนนายคนอะไรกัน? ไม่ต้องแต่งตั้งยศอื่นให้เจ้าหรอก เพราะเกินมียศเกิดท่านอ๋องผู้ทำลายล้างแล้ว”
เพราะอวิ๋นหลิงคำนึงถึงสุขภาพกายใจของบัณฑิต หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็จะไม่ให้เสวียนจีเข้าร่วมงานในสำนึกศึกษาแน่
เด็กไปเล่นดินโคลนตามประสาเด็กเถิด
เสวียนจีแลบลิ้น ยังไม่ลืมคิดเผื่อจงจื่อโยวด้วย “แล้วเศรษฐีหนุ่มล่ะ?”
‘เศรษฐีหนุ่ม’คือคำที่ใช้เรียกกงจื่อโยว และเสวียนจีจะเรียกเมื่ออยู่ลับหลังเขาเท่านั้น
“เขาไม่ต้องทำอะไรหรอก แค่เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณก็พอ เดี๋ยวข้าจะทำรูปปั้นไว้ที่ลานสำนักศึกษา ทุกคนเห็นแล้วจะเคารพต่อเทพเจ้าแห่งทรัพย์สินนี้”
กู้ฉางเซินเลิกคิ้ว “น้องสามยอมทุ่มเงินสร้างรูปปั้นทองคำให้เขาเชียวรึ มันเหนือความคาดหมายของข้ายิ่ง”
อวิ๋นหลิงโบกมือ “ทำรูปปั้นด้านในว่างเปล่าไง ใช้ทองแดงหลอมกับทองคำก็พอ แค่แสดงน้ำใจก็พอ”
กู้ฉางเซิน “...”
เซียวเปี้เฉิงเห็นแววตาเขาแล้วก็ไม่เปลี่ยนสี แก้ต่างแทนภรรยาด้วยใบหน้าเป็นการเป็นงานว่า
“อันที่จริงหลิงเอ๋อร์ทำเยี่ยงนี้เพื่อกงจื่อโยวนะ เพราะตอนนี้พวกเราใช้เงินของเขา ทำแบบนี้เท่ากับเป็นการประหยัดเงินในกระเป๋าเขา”
กู้ฉางเซินกระตุกหางตา หากเขาไม่รู้จักนิสัยใจคอสองผัวเมียคู่นี้ เขาก็ต้องเชื่อในสิ่งที่ได้ยินแน่
กงจื่อโยวทราบข่าวนี้แล้วก็ดีใจยิ่งนัก
“พวกเจ้าดูสิ ข้าพูดถูกไหมเล่า? แค่เราเอาใจเข้าแลกก็จะได้รับความจริงใจแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...