ไม่เพียงแต่ยื่นฏีกาไม่ไว้วางใจเท่านั้น กระทั่งว่าขณะออกราชการก็ล้วนแต่ถกเถียงกันเรื่องนี้ จนทำให้ไม่อาจดำเนินการเรื่องอื่นต่อไปได้
บางคนคิดว่ากฎการซื้อตำแหน่งขุนนางถูกยกเลิกแล้วและไม่ควรนำกลับมาใช้ใหม่ ไม่เช่นนั้นจะส่งผลเสียเอาได้
บางคนเอ่ยวาจาปลิ้นปล้อน บ่งบอกเป็นนัยว่าเซียวปี้เฉิงใช้วิธีการที่ไม่สุจริตในการบ่มเพาะและหนุนหลังอำนาจของตนเอง
บางคนเอ่ยวาจาตรงไปตรงมา โดยการบอกไปโดยตรงว่าเซียวปี้เฉิงขายตำแหน่งขุนนางและสงสัยว่าเขาใช้วิธีติดสินบนเพื่อหาเงิน
เมื่อมองไปยังตำหนักทองหลวงที่ราวกับตลาดขายผักขายปลา ฝูกงกงก็มองจักรพรรดิจาวเหรินด้วยแววตาสงสัย "ฝ่าบาท นี่..."
“ไม่เป็นไร ให้พวกเขาค่อยๆทะเลาะกันไปเถิด”
จักรพรรดิจาวเหรินมองดูผู้คนด้านล่างอย่างไร้ความรู้สึก ถึงขั้นว่าหาโอกาสหาวยามที่ผู้คนไม่ได้สังเกต
บางทีอาจเป็นเพราะเขาไม่ใช่คนที่ถูกคัดค้าน ยามนี้จักรพรรดิจาวเหรินจึงรู้สึกพอพระทัยไม่น้อย ไม่ได้เกิดโทสะเต็มท้องดังเช่นในอดีต ทว่าบนใบหน้ากลับยังต้องแสร้งทำเป็นสงบนิ่งต่อไป
เขาเหลือบมองไปยังเซียวปี้เฉิง ต้องการดูว่าเจ้าสามจะรับมือกับฉากเบื้องหน้านี้อย่างไร
จักรพรรดิจาวเหรินลดเสียงตรัสว่า "ดูสิ เขายืนกรานที่จะทำเช่นนั้น ข้าเตือนเขาแล้ว แต่เขาไม่เชื่อฟังคนแก่เช่นข้า คราวนี้หนักใจขึ้นมาบ้างแล้วสิ?"
ฝูกงกงใช้สายตาพิลึกพิลั่นลอบมองจักรพรรดิจาวเหริน รู้สึกเหมือนได้ยินน้ำเสียงของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น
คงเป็นภาพลวงตาแน่ๆ เห็นชัดว่าฝ่าบาทแสดงออกว่าเป็นห่วงเป็นใยองค์รัชทายาทมากถึงเพียงนั้น
ในบรรดาผู้ที่คัดค้านในตำหนักทองหลวง ผู้ที่ส่งเสียงดังที่สูงแน่นอนว่าคือเสนาบดีขวาหลี่ เขาเอ่ยวาจาได้อย่างน่าเชื่อถือ
“วิธีการพระราชทานยกย่องคุณธรรมมีอีกหลายวิธี เหตุใดองค์รัชทายาทจึงลำเอียงเสนอให้แต่งตั้งจินฟู่กุ้ยเป็นท่านอ๋องเล่า?”
เป็นเพราะหวาดกลัวสำนักศึกษาชิงอี้ เขาจึงคิดจะทำบางอย่างมานานแล้ว ยามนี้ก็พอดีเลย เซียวปี้เฉิงถึงกับยื่นหอกส่งมาให้เขาถึงที่ ดังนั้นก็อย่าโทษที่เขาไม่เกรงใจแล้วกัน
เขาอยู่ในราชสำนักมานานหลายปี ในใจทราบดีถึงนิสัยและจุดอ่อนของเซียวปี้เฉิง แม้ว่าเขาจะเก่งในการต่อสู้ แต่ฝีปากเขากลับไม่ค่อยดีนัก
เงียบขรึม พูดน้อย เย็นชา ซื่อตรงเกินไป จัดการเรื่องราวอย่างตรงไปตรงมาและไม่รู้จักอ้อมค้อม เขาคิดอยากจะบีบเจ้าเด็กคนนี้ก็มิใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่าย
เสนาบดีขวาหลี่ยิ้มหยันในใจ กล่าวอย่างลำบากใจว่า "ต้องรู้ว่าตั้งแต่สมัยโบราณการซื้อตำแหน่งขุนนางนั้นเทียบได้ว่าเป็นการทุจริตรับสินบน องค์รัชทายาทไม่รู้จักทะนุถนอมตนเองเช่นนี้ ยากที่จะไม่ทำให้ผู้คนสงสัยว่าจริงๆแล้ว จินฟู่กุ้ยผู้นั้นมิใช่ว่าให้ผลประโยชน์มากมายกับท่านหรอกหรือ?”
“ขอองค์รัชทายาทอธิบายมาสักครา เหตุใดต้องนำกฎการซื้อตำแหน่งขุนนางกลับมาด้วย”
วาจานี้อาจหาญยิ่งนัก เท่ากับเป็นการตั้งคำถามอย่างชัดเจนถึงการรับสินบนของเซียวปี้เฉิง
เซียวปี้เฉิงเหลือบมองเขา ตอบกลับด้วยใบหน้าที่สงบ "ใช่ แล้วอย่างไรเล่า"
คำพูดกะทันหันของเขาทำให้เสนาบดีขวาหลี่ชะงักไป ส่วนขุนนางคนอื่นๆก็ตกใจไปตามๆกัน
เซียวปี้เฉิงเอ่ยต่ออย่างไม่เร่งรีบ "มีอีกหลายวิธีในการให้รางวัลยกย่องผู้มีคุณธรรม ข้ารู้ว่าการซื้อตำแหน่งขุนนางง่ายต่อการถูกสงสัยว่าทุจริตติดสินบน เพราะเหตุใดข้าจึงยืนกรานที่จะเสนอแต่งตั้งจินฟู่กุ้ยเป็นท่านอ๋อง หรือข้าอาจจะเป็นคนโง่? เสนาบดีขวาหลี่ท่านโปรดบอกข้าที เหตุใดเป็นเช่นนี้กันเล่า?”
เขาเดินไปรอบๆ จากนั้นก็โยนคำถามเดิมกลับไปให้เสนาบดีขวาหลี่
เสนาบดีขวาหลี่มุมปากกระตุก หากเป็นคนอื่น ขณะนี้คงยากที่จะเอ่ยถึงการติดสินบนของเซียวปี้เฉิง แต่เขาแตกต่างจากผู้อื่น
“หม่อมฉันขอบังอาจทูลว่า เกรงว่าองค์รัชทายาทคงจะได้รับผลประโยชน์อื่นจากทางด้านจินฟู่กุ้ย ดังนั้นจึงทูลเสนอให้สร้างจวนอ๋องให้เขา!”
สีหน้าของเซียวปี้เฉิงไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย "หากข้าต้องการแสวงหาผลประโยชน์ เหตุใดไม่ทำอย่างลับๆ และมายืนกรานตีกลองร้องป่าวให้ทุกคนสงสัยข้ากัน หรือข้าคิดว่าทุกท่านล้วนแต่โง่งมกันหรือ? เสนาบดีขวาหลี่โปรดบอกข้าที นี่เพราะเหตุใดกัน”
"..."
คราวนี้ใบหน้าของเสนาบดีขวาหลี่พลันมืดมนลง กระทั่งมีความคิดอยากทุบตีคนอีกด้วย
เขาคิดไม่ถึงว่าเซียวปี้เฉิงเอาเวลาไหนไปเรียนรู้การก่อกวนอย่างไร้เหตุไร้ผลเช่นนี้มา?
ไม่รอเสนาบดีขวาหลี่ได้กล่าว เซียวปี้เฉิงก็ทอดถอนใจอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า
“เห้อ ข้าเพียงเห็นว่าประชาชนต่างก็ยกย่องคุณชายจิน บัณฑิตที่ยากจนเองก็รู้สึกซาบซึ้งน้ำใจเขามาก เห็นผู้คนต่างก็เรียกเขาว่าเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งจินอ๋อง ข้าจึงคล้อยตามความคิดเห็นจากประชาชน”
“นอกจากนี้จินฟู่กุ้ยยังมีเงิน ก่อนหน้าเขาบริจาคเงินเพื่อสร้างห้องสมุด แต่กลับไม่ได้ร้องขอรางวัลใดๆ กระทั่งไม่ยอมเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนามให้ใต้หล้าได้รับรู้ด้วยซ้ำ คิดเพียงอยากปิดทองหลังพระเท่านั้น”
“ยามนี้เขาต้องการบริจาคเงินเพื่อสร้างสำนักศึกษา นี่มิใช่ว่าเป็นคุณูปการครั้งใหญ่หรอกหรือ ข้าเองก็รู้สึกแย่ที่ต้องแบกรับชื่อเสียงอันดีของประชาชนไว้ผู้เดียว ทั้งได้ยินว่าผู้คนเรียกเขาเช่นนี้ จึงได้ฉุกนึกขึ้นได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...