เรื่องที่กงจื่อโยวได้รับบรรดาศักดิ์เป็นอ๋องก็ยุติลงเช่นนี้
ตามที่คาดไว้ ประชาชนไม่คัดค้านเรื่องนี้ หลังอาหารก็พูดคุยกันสักพัก กระแสความสนใจใคร่รู้ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ถึงแม้มรสุมพายุจะผ่านไปอย่างราบรื่น แต่กงจื่อโยวซาบซึ้งใจไม่หาย ในใจยังรู้สึกเกรงใจอยู่หลายส่วน
“ทำให้พวกเจ้าลำบากแล้ว เพื่อช่วยข้าทำเรื่องนี้ หมู่นี้พวกเจ้าต้องสิ้นเปลืองแรงกายแรงใจไปไม่น้อย”
อวิ๋นหลิงโบกมือพลางกล่าวยิ้มๆ “ตาแก่พวกนั้นไม่เหลือบ่ากว่าแรงพวกเราอยู่แล้ว เจ้าไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ โดยเฉพาะเรื่องแต่งงานกับหลงเย่นี้ ข้าโน้มเอียงมาทางเจ้ามากกว่าน้องหก”
ถึงอย่างไรกงจื่อโยวก็รู้จักมักคุ้นกับหลงเย่มานาน ทั้งยังชื่นชมอีกฝ่าย จนถึงขั้นหวิดจะเสียชีวิตเพราะนาง มองอย่างไรก็เหมาะสมกว่าองค์ชายหกที่ดูกึ่งเด็กกึ่งผู้ใหญ่อยู่ดี
ฟังคำพูดนี้แล้ว กงจื่อโยวรู้สึกตื้นตันใจเล็กน้อย ดูท่าอวิ๋นหลิงจะรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ มั่นคง และเชื่อถือได้คนหนึ่ง การยกหลงเย่ให้เขาก็ยิ่งวางใจมากขึ้น
กงจื่อโยวจัดระเบียบความคิดเสร็จเรียบร้อย กำลังจะเอ่ยคำทำนองว่า ‘ข้าจะดูแลหลงเอ๋อร์อย่างดีแน่นอน’ ก็ได้ยินอวิ๋นหลิงบ่นไม่หยุดปากว่า
“อย่างไรเสียน้องหกยังเด็กอยู่ จริงๆ แล้วพี่ใหญ่ไม่ชอบความรักที่หญิงอายุมากกว่าชาย อีกอย่างถ้าแต่งงานปลอมๆ ตอนนี้ ต่อไปตอนหย่าร้างกันจะทำอย่างไร”
“เขาอายุน้อยขนาดนี้ยังไม่เคยสัมผัสความงดงามของความรักที่แท้จริงเลย ก็จะกลายเป็นเด็กหนุ่มที่แต่งงานใหม่อย่างน่าสงสารเสียแล้ว จะถูกกดราคาอย่างหนักในตลาดหาคู่ พวกเราใช้บุญคุณเป็นข้ออ้าง ให้น้องหกยอมสละอนาคตของตนเพื่อปูทางให้พี่ใหญ่นั้น เช่นนี้ไม่ใคร่ดีเหมือนกัน”
“ต่างจากเจ้าที่สมัครใจทำ”
กงจื่อโยว “...”
เขาตระหนักถึงความจริงอันโหดร้ายและบีบคั้นหัวใจจากคำพูดของอวิ๋นหลิง ต่อให้เรื่องจะคลี่คลาย เขากับหลงเย่ก็เป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ ยังไม่ได้รับการยอมรับจากคนงามอย่างแท้จริง
เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองกลายเป็นตาเฒ่าที่แต่งงานรอบสองในภายหน้า เขาต้องเพียรพยายามหาทางเอาชนะใจหลงเย่ต่อไป
เฮ้อ...หนทางตามหาภรรยานั้นช่างยาวไกลและยากลำบากนัก
อวิ๋นหลิงไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้ากึ่งดีใจกึ่งกังวลของเขาเลย จากนั้นหยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกจากกล่องแล้วยื่นให้เขา
“นี่คือจดหมายตอบกลับของพี่ใหญ่ ในนั้นมีรายละเอียดการเตรียมการของทางเรา เจ้าให้สำนักทิงเสวี่ยส่งจดหมายให้นางแล้วกัน”
กงจื่อโยวได้สติกลับมาแล้วเก็บจดหมาย กระแอมเบาๆ คราหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ท่านบอกหลงเย่ในจดหมายหรือเปล่า ว่าข้ารู้สึกว่าแคว้นต้าโจวน่าสนใจ อยากจะได้คนที่มีฐานะจริงๆ มาช่วยพวกเจ้าสองสามีภรรยาทำงาน เพื่อตอบแทนบุญคุณที่ช่วยชีวิตไว้ ด้วยเหตุนี้จึงบริจาคเงินรับตำแหน่งราชการ”
เขาไม่ต้องการกดดันหลงเย่ แค่บอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาทุ่มเทความพยายามมากถึงเพียงนี้ เพราะจงใจทำเพื่อนาง
อวิ๋นหลิงแววตากรุ้มกริ่ม สีหน้าปกติดังเดิม “อืม ข้าบอกนางแล้ว ท่านก็ถือโอกาสช่วยนางแล้วกัน”
แต่พี่ใหญ่หาใช่คนโง่ไม่ จะเดาไม่ออกได้อย่างไร
กงจื่อโยวจึงถอนใจด้วยความโล่งอก เผยรอยยิ้มที่สบายๆ แกมเกียจคร้านตามปกติออกมา
“ขอบคุณมาก เช่นนั้นท่านคงจะยุ่ง ข้าจะให้คนไปตกแต่งจวนจินอ๋องอย่างดี”
ที่ตั้งของจวนจินอ๋องนั้นเซียวปี้เฉิงเป็นผู้เลือกเอง อยู่ใกล้กับจวนจิ้งอ๋อง ห่างกันประมาณแปดร้อยเมตร ทำให้ศิษย์ของสำนักทิงเสวี่ยดูแลสมุนไพรแปลกใหม่ในเรือนเกษตรได้ง่ายขึ้น
กงจื่อโยวตัดสินใจจะฉวยโอกาสหนนี้รั้งหลงเย่ให้อยู่ข้างกายตน ขั้นตอนแรกคือจัดการจวนจินอ๋องก่อน
ถึงอย่างไรจวนอ๋องแห่งนี้ก็ซื้อมาด้วยทองคำ กินพื้นที่ขนาดใหญ่ การจัดวางฮวงจุ้ยก็ไม่เลวเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...