ตอนที่เกิดเรื่องชุลมุนริมสระบัว หรงฉานก็เห็นความเคลื่อนไหวตรงนี้แล้ว
ถึงแม้จะอยู่ห่างกันพ่อสมควร และมองหน้าตาไม่ชัดเจน ทว่านางก็ยังคงจำร่างอันคุ้นเคยได้อย่างแม่นยำ
ระหว่างที่คนยืนดูห้ามและวิพากษ์วิจารณ์ หรงฉานก็มั่นใจสถานะของอีกฝ่ายจากเสียงอันวุ่นวายนี้ จึงอดลงมาดูไม่ได้
ระหว่างทางนางก็คิดว่าเขาเป็นคนใจเย็นอย่างนั้นทำไมถึงชกต่อยกับผู้อื่นได้?
ทว่ากลับไม่คิดว่านางเป็นตัวจุดชนวนของเรื่อง
“เสี่ยวฉาน ไม่เจอกันนานเลยนะ”
อวิ๋นหลิงเดินเข้าไปมองหรงฉาน เห็นสีหน้าอีกฝ่ายไม่เลว จึงรู้ว่าได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
“ต่อไปถ้าไม่มีคนอยู่ด้วย ห้ามเจ้าขึ้นลงบันไดหรือเดินเนินเขาคนเดียว ถ้าเกิดเดินสะดุดขึ้นมาจะทำเช่นไร? เจ้าก็รู้ว่าตัวเองเท้าแบน สะดุดล้มง่าย”
หรงฉานระงับอารมณ์ซับซ้อนในใจ แย้มยิ้มเอ่ยว่า “ตอนนี้เวลาข้าเดินข้าระวังเสมอ พวกพี่วางใจได้”
หรงจั้นเห็นนางไม่เป็นอะไรก็โล่งอก มองเศษถ้วยแล้วย่นคิ้ว
“ประเดี๋ยวข้าให้คนไปซื้อลอดช่องให้เจ้าใหม่”
“ไม่ต้องแล้วพี่ชาย ข้าไม่กินแล้ว พวกเรากลับไปพักผ่อนที่จวนกันเถอะ วันนี้ข้าเหนื่อยแล้ว”
หรงฉานส่ายหน้า เมื่อมีความในใจก็ไม่อยากกินแล้ว
ปากนางกำลังคุยกับหรงจั้นอยู่ ทว่าสายตากลับมองไปอีกฝ่าย ซึ่งแม้มองไปไกลเท่าไหร่ก็ไม่เห็นเงาใครเลย
หรงจั้นพยักหน้า หันไปพูดเสียงจริงจังกับเซียวปี้เฉิง “ปี้เฉิง ข้าส่งฉานเอ๋อร์กลับจวนก่อน รบกวนท่านช่วยพวกนี้ไปที่ศาลต้าหลี่หน่อย ข้าจะไปไต่สวนด้วยตัวเอง”
ตระกูลหรงทำตัวเรียบง่ายมาแต่ไหนแต่ไร แต่ใช่ว่าจะรังแกได้ง่าย
หรงฉานเป็นหลานสาวของอาลักษณ์กรมอาญา หากอาลักษณ์กรมพิธีการไม่ขอโทษ พวกเขาทั้งสองตระกูลก็จะเป็นอริกัน
เซียวปี้เฉิงพยักหน้า “เรื่องที่เหลือก็รบกวนเจ้าจัดการแล้ว”
เห็นทีห้องสมุดต้องกำหนดกฎระเบียบอย่างเข้มงวดแล้ว ต้องให้ทุกคนรู้จุดจบของการก่อกวนที่นี่
ไม่เพียงแต่ต้องเข้าบัญชีดำ ยังโดนลากตัวไปยังศาลต้าหลี่อีกด้วย
คุณชายจางโดนทุบหัวจนเลือดตกยางออก หมดสติอยู่บนพื้น เซียวปี้เฉิงจึงยังสั่งให้ทหารนำตัวไปยังศาลต้าหลี่ แล้วเรียกผู้ดูแลจับหนังสือที่ตกอยู่แถวนี้
ผู้ดูแลรีบกระโดดลงสระบัวแล้วเก็บหนังสือใต้ดอกบัวขึ้นมา มองปราดหนึ่งแล้วก็โล่งอก
“ยังดีที่เป็นหนังสือทั่วไป ไม่ใช่คำอธิบายเพิ่มเติมของท่านรุ่ยอ๋อง หาไม่แล้วตกน้ำแบบนี้ก็เสียดายแย่ หนังสือเล่มนี้แช่น้ำจนเป็นแบบนี้แล้ว คงเอาไปอ่านต่อไม่ได้แล้ว ต้องทิ้งอย่างเดียว”
ผู้ดูแลพูดด้วยความเสียดาย ถึงแม้จะเป็นนิยายทั่วไป แต่ก็ใช้เงินตีพิมพ์ออกมา
หรงฉานโดยพยุงเดินไป เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ดูแลกล่าวก็หันไปมองแล้วต้องชะงักงันกับที่
ถึงแม้หนังสือเล่มนั้นจะเปียกจนหมดสภาพ น้ำหมึกซึมออกมา แต่นางก็ยังคงเห็นตัวหนังสือโตๆบนหน้าปกว่า ‘ราตรีกระจกพิชิตใจบุปผา’
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่นางอยากอ่านมาก จำได้ว่านางอ่านภาคที่แล้วเมื่อฤดูใบไม้ผลิของปีที่แล้ว
ตอนนั้นรุ่ยอ๋องนั่งอ่านเป็นเพื่อนนาง
หรงจั้นเห็นหรงฉานหยุดเดินกะทันหันก็ถามด้วยความห่วงใย “เสี่ยวฉานไม่สบายตรงไหนหรือไม่?”
หรงฉานดึงตัวเองกลับมา พยายามระงับความรู้สึกมากมายแล้วส่ายหน้า
“ทิ้งก็เสียดายให้ข้าดีกว่า”
ผู้ดูแลได้ยินก็ยืนหนังสือนิยายให้นางอย่างมีสัมมาคารวะ “พระชายารุ่ยระวังเปื้อนมือด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
หรงฉานกลับไม่สนใจ ถือหนังสือนิยายไว้ในมือแล้วกวาดสายตามองหนังสือในมือของผู้ดูแล
หนังสือส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่นางชอบอ่านทั้งนั้น
ทันใดนั้นหัวใจก็เปิดอารมณ์แปลกๆ ทั้งซาบซึ้ง หดหู่และโมโห
หรงฉานแสบจมูก ทว่าใบหน้ายังคงนิ่งเฉย พูดเสียงธรรมชาติว่า “พี่ชาย พวกเรากลับกันเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...