น้ำหยดลงจากเส้นผมรุ่ยอ๋องลงพื้น
แม้แสงแดดจ้ามาก ทว่าร่างกายเขากลับรู้สึกหนาวเหน็บ รวมทั้งหัวใจเขาด้วย
“ตอนที่เสด็จแม่ยังอยู่ ไม่ว่าข้าเดินไปที่ไหน ทุกคนก็จะเข้ามาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม พูดจาประจบประแจง พวกเขาชมว่าข้าเป็นวิญญูชน มีความรู้สูง ข้าจึงคิดว่าพวกเขาเคารพข้าอย่างไร้เดียงสา ยกยอข้าจากใจจริง แต่ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว พวกเขาเอาใจข้าเพราะเบื้องหลังข้ามีอำนาจ เมื่อข้าไร้ความเอ็นดูของเสด็จพ่อและไม่มีแรงสนับสนุนของเสด็จแม่ ข้าก็ไม่สำคัญอะไรเลย”
รุ่ยอ๋องหัวเราะเยาะตัวเอง มองพื้นอย่างเหม่อลอย เสียงเบาราวกับสายลม
“หลักการง่ายๆแบบนี้ ข้าโตมายี่สิบกว่าปีถึงจะเข้าใจ ข้าโง่เหลือเกิน”
คนอื่นเข้ามาประจบประแจง เขาก็คิดว่าคนอื่นพูดจากใจจริง คิดว่าตัวเองวิเศษวิโสจริง
แต่หลังจากฮองเฮาเฟิงเสียชีวิต ตระกูลเฟิงก็เสียหายอย่างหนักอีกครั้ง ทันทีที่โดนลิดรอนอำนาจ คนพวกนั้นก็เผยธาตุแท้อันดุร้ายออกมา
เขาคิดว่าโลกเปลี่ยนไป แต่ต่อมาถึงจะตระหนักได้ว่าโลกเป็นเยี่ยงนี้เสมอมา แค่เขาโง่อยู่ในโลกจอมปลอมที่ตัวเองมโนขึ้นมาเอง
เซียวปี้เฉิงรู้สึกทุกข์ใจเมื่อเห็นรุ่ยอ๋องหมดอาลัยตายอยาก
ไม่ว่าอย่างไร อีกฝ่ายก็เป็นหนึ่งในองค์ชายที่คนอื่นนับถือมาหลายปี
“พี่ใหญ่อย่าท้อแท้สิ พรุ่งนี้ข้ากับตระกูลหรงจะฟ้องร้องพวกเขา ไม่ว่าอย่างไรท่านก็เป็นองค์ชายใหญ่แห่งต้าโจว ปล่อยให้คนอื่นรังแกไม่ได้”
รุ่ยอ๋องดวงตาแดงก่ำ กระตุกมุมปากแล้วเอ่ย “อันที่จริงท่าทีของคุณชายจางก็ไม่เท่าไหร่เลย ข้าอยู่ในกรมขุนนางเจอแบบนี้จนชินแล้ว”
หลายเดือนมานี้ เขาเจอเรื่องที่หนักกว่านี้มาแล้ว
เขาในฐานะสมาชิกพรรคเสนาบดีซ้ายเฟิง ถึงแม้รุ่ยอ๋องจะถ่อมตัว พยายามไม่กระทบกระทั่งใคร แต่หลังจากไม่เป็นที่โปรดปรานก็ยากที่จะเลี่ยงการกลั้นแกล้งจากคนต่างพรรคได้
ตอนแรกคนพวกนั้นก็ไม่ได้ทำเกินไป แต่ไม่เห็นจักรพรรดิจาวเหรินใส่ใจและแสดงท่าทีประการใด คนเหล่านั้นก็วิ่งกำเริบเสิบสาน จับกลุ่มมารังแกเขาเป็นประจำ
ส่วนพรรคที่ไม่อยู่ฝ่ายใด ถึงแม้จะไม่ร่วมกันรังแกเขา แต่ก็ทำหน้าเย็นชาเหมือนมองไม่เห็น ไม่ยื่นมือเข้าช่วย ต่อให้คนที่รุ่ยอ๋องเคยช่วยเหลือ คนพวกนั้นก็ไม่คิดจะช่วยรุ่ยอ๋อง
กระทั่งตระกูลเฟิงก็ไม่สนใจรุ่ยอ๋อง พวกเขาย่อมไม่อยากบาดหมางกับเสนาบดีขวาหลี่เพราะองค์ชายที่ไม่เป็นที่เอ็นดู
ช่วงเวลาร้อยวันอันสั้นๆนี้ รุ่ยอ๋องสัมผัสรสชาติชีวิตมานับไม่ถ้วน
เขาได้สติก็กระตุกมุมปาก “ปี้เฉิง ไม่จำเป็นต้องสร้างความเดือดร้อนให้ตัวเองเพราะข้า ข้าดูแลตัวเองได้ หากเจ้าไปบาดหมางพรรคเสนาบดีขวาหลี่เข้า กลัวว่าพวกเขาจะจู่โจมเจ้าได้”
อวิ๋นหลิงไม่ชอบฟังคนพูดแบบนี้ที่สุด รู้สึกผิดหวังในความไม่เอาไหน “ดูท่านพูดสิ คนกลุ่มนั้นควรโดนสั่งสอน แต่ท่านกลับทน ไม่เท่ากับสร้างบารมีให้พวกเขาหรอกหรือ?”
รุ่ยอ๋องโดนอวิ๋นหลิงตำหนิก็หัวหด พูดเสียงเบา “แต่ตอนนี้เสด็จพ่อไม่เอ็นดูข้าแล้ว เสด็จรู้ว่าข้าชกต่อยกับผู้อื่นที่ห้องสมุดแล้วจะโกรธหรือเปล่า?”
รุ่ยอ๋องคิดว่าจักรพรรดิจาวเหรินผิดหวังและโกรธเขามาก หาไม่แล้วคงไม่เพิกเฉยเยี่ยงนี้หรอก
อวิ๋นหลิงเม้มปาก ไม่พูดความจริงของจุดนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...