พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 520

หาไม่แล้วเหตุใดจวนเหวินกั๋วกงถึงรับเป็นลูกสาวบุญธรรมก่อนพระราชทานสมรส?

อวิ๋นหลิงเห็นว่าเขามองมาก็ยกมุมปากเอ่ย “ใต้เท้าเสนาบดีหลี่เอาแต่จ้องข้าทำไม?”

เสนาบดีขวาหลี่ได้แต่จ้องนางตาเย็นเยียบ เม้มปากไม่พูดสิ่งใด ไม่อยากเสวนากับนาง

ถึงแม้อวิ๋นหลิงจะไม่รู้ว่าเสนาบดีขวาหลี่จ้องนางแบบนี้ทำไม แต่ก็ไม่คิดจะปล่อยเขาไป

“ใต้เท้าเสนาบดีขวาหลี่อย่ามัวแต่จ้องข้าสิ เจอเรื่องมงคลแบบนี้ ท่านรีบอวยพรพวกข้าสิ”

นางเพิ่มระดับเสียงมากขึ้นเล็กน้อย ถึงแม้จะไม่เสียงดัง แต่ก็พอที่จะให้คนอื่นได้ยิน

เสนาบดีขวาหลี่กระตุกหางตา นังหนูคนนี้หน้าด้านหน้าทนจริงๆ

ขุนนางใหญ่อื่นมองมาเยี่ยงนี้ เขาต้องกล่าวคำอวยพรเพื่อรักษาหน้าตาไว้ จากนั้นก็กลับไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง

เมื่อพวกขุนนางทยอยกลับกันหมดแล้ว อาลักษณ์กรมอาญาเข้ามาพูดเสียงเบากับเซียวปี้เฉิงและอวิ๋นหลิง

“สาเหตุที่ตาเฒ่าคนนี้ทำหน้าบึ้ง เพราะตอนแรกเขาเตรียมเสนอให้ฝ่าบาทจัดการคัดเลือกสตรีอีกครั้ง แล้วจะถือโอกาสให้หลานสาวเป็นพระชายาโม่อ๋อง แต่พวกเจ้าสองผัวเมียกลับมาไม้นี้ ทำแผนเขาเสียหมด”

เซียวปี้เฉิงทำหน้าบึ้ง “เขาอยากให้คัดเลือกสตรีอีก?”

จักรพรรดิจาวเหรินอายุสี่สิบหกปีแล้ว ถึงแม้จะมีพระสนมเพิ่มก็ไม่ใช่ปัญหา ทว่าเขาไม่ใช่ชายวัยกลางคนที่ลุ่มหลงดรุณีน้อย

บัดนี้มีคนดำรงตำแหน่งตำหนักบูรพาแล้ว ดังนั้นเป้าหมายในการคัดเลือกสตรีเข้าวังหลังย่อมต้องการคานอำนาจกับรุ่นองค์ชาย

แน่นอนเพื่อต้องการให้หลี่เมิ่งเอ๋อร์เข้าตำหนักบูรพาตามขนบธรรมเนียม

หรงจั้นก็เดินเข้ามาพูดเสียงทุ้มต่ำ “เสนาบดีหลี่วางแผนมานาน รวบรวมรายชื่อขุนนางที่อยากส่งลูกสาวเข้าวังเสร็จแล้ว น่าจะเริ่มแผนในเวลาอันใกล้นี้ เมื่อก่อนฝ่าบาทอาจจะอ้างว่าคลังหลวงมีเงินไม่มากแล้ว แต่ยามนี้กงจื่อโยวบริจาคหนึ่งร้อยตำลึงทองให้แล้ว เกรงว่าคงจะปฏิเสธไม่ได้อีก”

อวิ๋นหลิงได้ยินก็รับไม่ได้ งบประมาณที่นางกับเซียวปี้เฉิงระดมมาอย่างยากลำบาก สุดท้ายก็กลายเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานคัดเลือกสตรีเข้าวังหลัง?

ไม่มีทางเด็ดขาด

หรงจั้นเห็นสีหน้านางแล้วก็พูดต่อไปว่า “ตระกูลหรงกับพรรคของท่านตาจะไม่เข้าร่วมเรื่องนี้”

อาลักษณ์กรมอาญาหรี่ตาพยักหน้า “ข้าไม่สนใจเรื่องการคัดเลือกหญิงงามหรอก หลานสาวของตระกูลหลิ่วใช่ว่าจะแต่งไม่ออกเสียหน่อย ข้าสนใจเรื่องการก่อตั้งสำนักศึกษามากกว่าการคัดเลือกหญิงงาม ได้ยินว่าสำนักศึกษาชิงอี้เริ่มติดป้ายประกาศรับสมัครลูกศิษย์แล้ว ข้ามีลูกหลานที่ดีพร้อมทั้งความรู้และคุณธรรม หากมีโอกาสสอบเข้าสำนักศึกษาชิงอี้ ก็รบกวนรัชทายาทกับพระชายารัชทายาทดูแลด้วย”

อนาคตข้างหน้า บัณฑิตที่จบการศึกษาในสำนักศึกษาชิงอี้ หากผลการเรียนดีจะได้เข้าทำงานในหกกรม

ในเมื่อสามารถใช้ความสามารถเพื่อคว้าอำนาจได้ ไหนเลยจะต้องใช้หลานสาวเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์?

สิ่งที่ตัวเองไขว่คว้ามาจะถูกแย่งชิงได้ยาก อาลักษณ์กรมอาญาหลังว่าลูกหลานตระกูลหลิ่วจะเข้าใจกฎข้อนี้ และเขาก็เชื่อมั่นในความสามารถของลูกหลานมาก

“ใต้เท้าหลิ่วเกรงใจเกินไปแล้ว สำนักศึกษาชิงอี้ไม่ละเลยผู้มีความสามารถหรอก”

อวิ๋นหลิงกับเซียวปี้เฉิงแย้มยิ้ม การที่พวกเขาคิดจะค้ำจุนและสนับสนุนตระกูลหรงนั้นถือว่าเป็นการตัดสินที่ถูกต้อง

อย่างน้อยลำพังด้านนี้ ความคิดของอาลักษณ์กรมอาญาก็ก้าวไกลไปกว่าเสนาบดีทั้งสองคนเยอะเลย

หลังประชุมราชการเช้าเสร็จทุกคนก็แยกย้ายกลับไป

เสนาบดีขวาหลี่หน้าบึ้งตลอดทางกลับจวน ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความคับแค้นใจ

หลี่หยวนเส้าเดินเข้ามาต้อนรับก่อน “ท่านปู่ ฝ่าบาทจัดการเรื่องคุณชายจางเช่นไรขอรับ?”

ถึงแม้เขาไม่ค่อยชอบคุณชายจาง และรำคาญที่เขาตามรังควานน้องสาว หลี่เมิ่งเอ๋อร์ไม่เลิก แต่ก็รู้ว่าตระกูลกับตระกูลหลี่ยืนเรือลำเดียวกัน หากตระกูลใดตระกูลหนึ่งเกิดปัญหา อีกตระกูลก็พลอยเดือดร้อนไปด้วย

เสนาบดีขวาหลี่ถอนหายใจ นวดหน้าผากอันปวดร้าว ก่อนจะเปรยเรื่องที่จักรพรรดิจาวเหรินบันดาลโทสะแบพระราชทานสมรสให้โม่อ๋องฟัง

หลี่เมิ่งเอ๋อร์ตกใจ “ฝ่าบาทสั่งพักงานรองเสนาบดีจาง? แล้วคุณชายจางล่ะเจ้าคะ?”

“ยังโดนขังในศาลต้าหลี่ ตระกูลหรงไม่ยอมปล่อยเขา ข้าก็จนปัญญา” เสนาบดีขวาหลี่โบกมือด้วยความหงุดหงิดใจ พูดด้วยใบหน้าตึงเครียด “ตั้งแต่รัชทายาทกับพระชายารัชทายาทเข้าร่วมการปกครอง สถานการณ์ของตระกูลหลี่ก็แย่ลงอย่างต่อเนื่อง แผนตัดรากถอนโคนของพวกเขาดียิ่งนัก ขนาดตำแหน่งพระชายาโม่อ๋องของเมิ่งซูก็ยังแย่งไป”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ