พระอาทิตย์ส่องแสงเจิดจ้ากลางฤดูร้อน ดอกไม้นานาพรรณในสวนหลวงเบ่งบานสวยงาม ดึงดูดให้เหล่าผีเสื้อบนมาดอมดมไม่หยุด
อาจจะเป็นเพราะว่าอากาศร้อนเกินไป เหล่าองครักษ์ที่เฝ้าเวรและนางกำนัลต่างก็เข้าไปหลบอยู่ในร่มเงาชายคาตำหนัก รอบข้างเงียบสงัดไร้ผู้คน
เสวียนจียืนอยู่บนถนนที่ปูด้วยหินเขียว ยื่นมือโค้งตัวทำท่าออกกำลังกาย พลางใช้พลังจิตเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับประสาทสัมผัสทั้งห้า
แม้จะมีระยะห่างกันกว่าร้อยก้าว แต่ก็ได้ยินการสนทนาของทั้งสองคนได้อย่าชัดเจน
หน้าผากที่เกลี้ยงเกลาของหลี่เมิ่งเอ๋อร์มีเหงื่อเม็ดเล็กๆผุดออกมาเต็มไปหมด ปากก็บ่นว่า “แสงแดดแรงจ้าจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะไม่ได้มาเยี่ยมท่านป้านานแล้ว ข้าก็คร้านจะเข้าวัง”
ส่วนเรื่องที่ว่าหลี่เมิ่งชูจะสามารถแต่งเข้าจวนเยี่ยนอ๋องได้หรือไม่นั้น นางไม่ได้ใส่ใจนัก แค่อยากจะเข้ามาเดินเล่นในวังเป็นหลัก รวดขอของดีๆจากพระสนมหลี่ด้วย
สาวรับใช้รีบพูดอย่างเป็นห่วงว่า “จากที่นี่ไปถึงตำหนักแสงซียังอีกไกลนัก มิสู้ให้บ่าวไปบอกกับคนในวังให้เตรียมรถม้าให้ท่านสักคันดีไหมเจ้าคะ”
“ไม่ต้อง ในรถม้าอึดอัดจะตาย ข้ายอมเดินดีกว่า”
หลี่เมิ่งเอ๋อร์แบะปาก ตอนที่นางเดินทางเข้าวังก็นั่งรถม้ามาเป็นเวลาครึ่งชั่วยามแล้ว ร่างกายของนางเต็มไปด้วยเหงื่อที่เหนียวเหนอะหนะ
สาวรับใช้เอ่ยยิ้มๆ “รอให้ถึงภายหน้าที่ท่านได้แต่งเข้าตำหนักบูรพาอย่างราบรื่น อยากจะไปที่ตำหนักของพระสนมหลี่ก็เป็นเรื่องสะดวกมากแล้ว”
เสวียนจีกำลังออกกำลังกายยืดกล้ามเนื้อ พอได้ยินเช่นนั้นท่าทางก็ชะงักไป
นี่มันอะไรกัน คิดไม่ถึงเลยว่าห่านหัวโตตัวนี้อยากจะแต่งงานกับพี่เขยสาม
ช่างดีจริงๆดีจนนางรู้สึกปวดเอวเลยล่ะ
นางกำลังคิดอย่างรังเกียจ ก็พบว่าเงาร่างสีส้มของหลี่เมิ่งเอ๋อร์ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
ในสวนหลวงไม่มีผู้คนแม้แต่คนเดียว เสวียนจีจึงดูสะดุดตามาก บวกกับนางยังทำท่าออกกำลังกายยืดกล้ามเนื้อ ท่าทางแปลกประหลาดนั้นดึงดูดสายตาของหลี่เมิ่งเอ๋อร์ได้ในไม่ช้า
เดิมทีหลี่เมิ่งเอ๋อร์แค่เดินผ่านเท่านั้น เหลือบไปมองเสวียนจีอย่างไม่ตั้งใจแวบหนึ่ง จู่ๆสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ชะงักฝีเท้าลงทันควัน
เหมือนนางจะเห็นนางเด็กขอทานคนนั้น
สาวรับใช้เกือบจะชนแผ่นหลังของนาง ตกใจสะดุ้งโหยง “คุณหนู ท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะ”
หลี่เมิ่งเอ๋อร์ไม่สนใจนาง สายตาจ้องมองไปยังเงาร่างสีชมพูเขม็ง จากนั้นก็เดินเข้าไปหาด้วยความเร็วอย่างกะทันหัน
“เจ้าเป็นบ่าวของตำหนักไหน มายืนตรงนี้ซะดีๆ ให้ข้าดูให้ละเอียดหน่อย”
น้อยมากที่เสวียนจีจะสวมใส่เสื้อผ้าที่มีรูปแบบซับซ้อนและล้ำค่าเหล่านั้น เพราะเคลื่อนไหวไม่สะดวก จะเป็นอุปสรรคต่อการทดลองของนาง แต่เสื้อผ้าของพวกนางกำนัลกลับมีรูปแบบที่เรียบง่ายใส่สบาย เหมาะสำหรับทำงานมาก ชนะใจนางไปเลย
หลี่เมิ่งเอ๋อร์เห็นนางสวมชุดของนางกำนัล จึงคิดว่านางเป็นนางกำนัลของตำหนักใดตำหนักหนึ่ง
เสวียนจีหมุนตัวไป กะพริบตาให้นางปริบๆ “นางกำนัล เจ้ากำลังเรียกข้าหรือ”
หลี่เมิ่งเอ๋อร์เดินเข้าไปดูใบหน้าของนางใกล้ๆ แค่เสี้ยววินาทีดวงตาของนางก็มีเปลวไฟแห่งโทสะผุดขึ้นมา น้ำเสียงแหลมสูงจนแทบจะทะลุแก้วหู
“เป็นเจ้าจริงๆด้วย นางเด็กขอทาน ถึงว่าคนของข้าค้นหาเจ้าทุกซอกทุกมุมก็หาไม่พบ ที่แท้ก็ขายตัวเข้ามาเป็นนางกำนัลในวังนี่เอง สวรรค์มีตา ในที่สุดวันนี้ข้าก็จับเจ้านางเด็กต่ำช้าได้แล้ว”
นางกำนัลตรงหน้าแม้ผิวพรรณจะดำและตัวผอมโซ แต่ใบหน้าก็คล้ายกับนางเด็กขอทานที่ทำให้นางต้องกลายเป็นตัวตลกในตลาดวันนั้นกว่าเจ็ดส่วน หลี่เมิ่งเอ๋อร์สามารถมั่นใจได้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่นางกำลังตามหาอยู่
เสวียนจีไม่รีบร้อน สายตาเผยแววสงสัยอย่างพอเหมาะพอดี “แม่นางหัวโต ท่านจำคนผิดหรือไม่ ข้าเป็นถึงศิษย์น้องของราชครูเฟิ่งเหมียนแห่งแคว้นตงฉู่ ชื่อเสวียนจี ไม่ใช่นางกำนัลและขอทาน”
แม่นางหัวโตอย่างนั้นหรือ
พอหลี่เมิ่งเอ๋อร์ได้ยินคำเรียกขานเช่นนี้ ก็แทบจะกระอักเลือดออกมา ไฟโทสะพุ่งสูงขึ้นมาทันที
“ช่างบังอาจยิ่งนัก ถึงกับกล้าพูดจาเหลวไหล ยังคิดจะเอาชื่อเสียงของท่านราชครูแห่งแคว้นตงฉู่มาขู่ข้า เจ้าคิดว่าข้าจะถูกทำให้ตกใจง่ายๆ แล้วปล่อยเจ้าไปอย่างนั้นหรือ จูเอ๋อร์ เจ้าไปจับนางคนชั้นต่ำคนนี้เอาไว้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...