คำถามนี้น่าสนใจมาก ตามความหมายของคำถามก็จะรู้ว่า คนทั้งสองหมู่บ้านจะไม่พูดปดวันเดียวกันแน่นอน
หมายความว่าจากสองคนที่ตอบ คนหนึ่งบอกความจริง อีกคนหนึ่งโกหก ด้วยการคำนวณเพียงเล็กน้อยก็จะรู้ได้ว่าวันที่เสี่ยวหมิงถามนั้นเป็นวันจันทร์
ถ้าคนในหมู่บ้านดอกท้อโกหกวันจันทร์ เช่นนั้นวันก่อนก็จะเป็นวันเสาร์ที่พูดความจริง
คนในหมู่บ้านดอกซิ่งพูดความจริงวันจันทร์ แต่ก่อนวันเสาร์กลับพูดโกหก
ศิษย์ที่อยู่ข้างๆ ขมวดคิ้ว เอาพู่กันเกาหัวแกรกๆ เอ่ยด้วยความสับสน
“โอ๊ย...”
เห็นชัดว่าไม่เคยประสบพบเจอปริศนาประเภทนี้มาก่อน ติดมาอยู่สักระยะหนึ่งแล้ว
หลังจากเฟิงอู๋จีตอบคำถามนี้เสร็จ ก็สนใจมากขึ้นเรื่อยๆ พลิกอ่านกระดาษทดสอบต่อไปด้วยความสนใจใคร่รู้
ขณะนี้ เขารู้สึกแต่ว่าการสมัครเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงอี้เป็นเรื่องฉลาดที่สุดที่เขาเคยทำมา
ได้ยินว่าวันหน้าพระชายารัชทายาทจะไปสอนที่สำนักศึกษาด้วยตนเอง เฟิงอู๋จีก็รู้สึกค่อนข้างตื่นเต้นอยู่บ้าง ตั้งตารอคอยมากกว่าเดิม
......
อีกห้องหนึ่ง เซียวปี้เฉิงกำลังเดินไปรอบๆ ห้องสอบพร้อมกับอวิ๋นหลิง
มีดรุณีไม่ถึงยี่สิบคนที่สมัครสอบ อวิ๋นหลิงจึงจัดให้พวกนางอยู่ในห้องสอบเดียวกัน
เฉียงเวยได้รับคำสั่งจากกงจื่อโยวให้มาช่วยอวิ๋นหลิงคุ้มสอบโดยเฉพาะ นางนั่งอยู่บนเก้าอี้หวายด้วยรูปร่างอรชรอ้อนแอ้น จับพู่กันขีดๆ เขียนๆ วาดภาพบนกระดาษ ท่าทางเกียจคร้านตามปกติของนางนั้นจริงจังอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
เซียวปี้เฉิงชะโงกหน้าไปดู พบว่าที่แท้นางกำลังคำนวณปริศนาซูโดกุเก้าช่องที่อวิ๋นหลิงตั้งโจทย์เองบนกระดาษ
กระทั่งอวิ๋นหลิงเดินไปอยู่ข้างๆ ในที่สุดเฉียงเวยก็รู้สึกตัว
“อุ๊ย! พวกท่านมาได้อย่างไร”
เสียงของเฉียงเวยแผ่วเบายิ่งนัก แต่ก็ยังดึงดูดความสนใจของดรุณีทั้งหลาย พวกนางเห็นรัชทายาทกับพระชายาเดินมา ก็ลุกขึ้นยืนทำความเคารพโดยไม่รู้ตัว
อวิ๋นหลิงยกมือขึ้นเป็นเชิงบอกให้พวกนางนั่งลง คลี่ยิ้มนุ่มนวลกระซิบว่า “ไม่เป็นไร ตอบคำถามของพวกเจ้าไปเถอะ ข้ากับรัชทายาทแค่แวะมาดู”
ที่สำคัญคือนางอยากรู้จักดรุณีที่ชื่อหลี่เมิ่งชู จึงเข้ามาดูด้วยตนเอง
บรรดาหญิงสาวที่กำลังสอบก็นั่งลง สายตาที่อยากรู้อยากเห็นกวาดมองอวิ๋นหลิงกับพระสวามีเป็นครั้งคราว
เฉียงเวยคลึงขมับแล้วกระซิบ “คำถามสุดท้ายของท่านแก้ยากชะมัด ข้าคำนวณมาตั้งหนึ่งถ้วยชาแล้ว แต่ยังแก้ไม่ได้เลย”
เซียวปี้เฉิงอดเอ่ยไม่ได้ “นับประสาอะไรกับหนึ่งถ้วยชา วันนั้นข้าใช้เวลาตั้งสองถ้วยชากว่าจะคิดออก”
อวิ๋นหลิงหัวเราะ นางจัดปริศนาซูโดกุเก้าช่องสำหรับทดสอบคณิตศาสตร์มาโดยเฉพาะ
ซูโดกุเป็นเกมคณิตศาสตร์ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในศตวรรษที่สิบแปด ใช้ฝึกฝนความสามารถในการคิดเชิงตรรกะของผู้คน
ที่นางจัดมาทดสอบเป็นซูโดกุระดับกลาง ต่อให้เป็นผู้ช่ำชองที่เคยเล่นเกมประเภทนี้ก็ต้องใช้เวลาครึ่งชั่วโมงกว่าจะแก้ได้
หนึ่งถ้วยชาใช้เวลาประมาณสิบนาที เฉียงเวยเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเล่นเกมซูโดกุเป็นครั้งแรก แก้ไม่ได้ย่อมเป็นเรื่องปกติ
มีเพียงเด็กที่สมองอัจฉริยะอย่างน้องเล็กเท่านั้นถึงจะแก้ซูโดกุขั้นสูงได้อย่างง่ายดายภายในหนึ่งนาที
ขณะที่เซียวปี้เฉิงและเฉียงเวยกำลังคุยกัน อวิ๋นหลิงก็พลิกเปิดสมุดรายชื่อผู้เข้าสอบ
สำรวจมองไปรอบๆ นางก็พบตำแหน่งของหลี่เมิ่งชูตามหมายเลขสอบด้านบน
เห็นดรุณีผู้หนึ่งนั่งข้างหน้าต่างตรงกลางทางด้านซ้าย เกล้าผมเป็นมวยสองข้างปอยผมสยายลงมาประบ่า สวมกระโปรงผ้าโปร่งสีฟ้า
รูปร่างหน้าตาของนางจัดว่างามอยู่ แต่เรือนผมสีดำขลับ ช่วยขับเน้นให้รูปโฉมงามเจ็ดส่วนของนางดูโดดเด่นขึ้นเป็นเก้าส่วน ท่าทีโดยรวมยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจและผ่อนคลาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...