พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 536

คำถามนี้น่าสนใจมาก ตามความหมายของคำถามก็จะรู้ว่า คนทั้งสองหมู่บ้านจะไม่พูดปดวันเดียวกันแน่นอน

หมายความว่าจากสองคนที่ตอบ คนหนึ่งบอกความจริง อีกคนหนึ่งโกหก ด้วยการคำนวณเพียงเล็กน้อยก็จะรู้ได้ว่าวันที่เสี่ยวหมิงถามนั้นเป็นวันจันทร์

ถ้าคนในหมู่บ้านดอกท้อโกหกวันจันทร์ เช่นนั้นวันก่อนก็จะเป็นวันเสาร์ที่พูดความจริง

คนในหมู่บ้านดอกซิ่งพูดความจริงวันจันทร์ แต่ก่อนวันเสาร์กลับพูดโกหก

ศิษย์ที่อยู่ข้างๆ ขมวดคิ้ว เอาพู่กันเกาหัวแกรกๆ เอ่ยด้วยความสับสน

“โอ๊ย...”

เห็นชัดว่าไม่เคยประสบพบเจอปริศนาประเภทนี้มาก่อน ติดมาอยู่สักระยะหนึ่งแล้ว

หลังจากเฟิงอู๋จีตอบคำถามนี้เสร็จ ก็สนใจมากขึ้นเรื่อยๆ พลิกอ่านกระดาษทดสอบต่อไปด้วยความสนใจใคร่รู้

ขณะนี้ เขารู้สึกแต่ว่าการสมัครเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงอี้เป็นเรื่องฉลาดที่สุดที่เขาเคยทำมา

ได้ยินว่าวันหน้าพระชายารัชทายาทจะไปสอนที่สำนักศึกษาด้วยตนเอง เฟิงอู๋จีก็รู้สึกค่อนข้างตื่นเต้นอยู่บ้าง ตั้งตารอคอยมากกว่าเดิม

......

อีกห้องหนึ่ง เซียวปี้เฉิงกำลังเดินไปรอบๆ ห้องสอบพร้อมกับอวิ๋นหลิง

มีดรุณีไม่ถึงยี่สิบคนที่สมัครสอบ อวิ๋นหลิงจึงจัดให้พวกนางอยู่ในห้องสอบเดียวกัน

เฉียงเวยได้รับคำสั่งจากกงจื่อโยวให้มาช่วยอวิ๋นหลิงคุ้มสอบโดยเฉพาะ นางนั่งอยู่บนเก้าอี้หวายด้วยรูปร่างอรชรอ้อนแอ้น จับพู่กันขีดๆ เขียนๆ วาดภาพบนกระดาษ ท่าทางเกียจคร้านตามปกติของนางนั้นจริงจังอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

เซียวปี้เฉิงชะโงกหน้าไปดู พบว่าที่แท้นางกำลังคำนวณปริศนาซูโดกุเก้าช่องที่อวิ๋นหลิงตั้งโจทย์เองบนกระดาษ

กระทั่งอวิ๋นหลิงเดินไปอยู่ข้างๆ ในที่สุดเฉียงเวยก็รู้สึกตัว

“อุ๊ย! พวกท่านมาได้อย่างไร”

เสียงของเฉียงเวยแผ่วเบายิ่งนัก แต่ก็ยังดึงดูดความสนใจของดรุณีทั้งหลาย พวกนางเห็นรัชทายาทกับพระชายาเดินมา ก็ลุกขึ้นยืนทำความเคารพโดยไม่รู้ตัว

อวิ๋นหลิงยกมือขึ้นเป็นเชิงบอกให้พวกนางนั่งลง คลี่ยิ้มนุ่มนวลกระซิบว่า “ไม่เป็นไร ตอบคำถามของพวกเจ้าไปเถอะ ข้ากับรัชทายาทแค่แวะมาดู”

ที่สำคัญคือนางอยากรู้จักดรุณีที่ชื่อหลี่เมิ่งชู จึงเข้ามาดูด้วยตนเอง

บรรดาหญิงสาวที่กำลังสอบก็นั่งลง สายตาที่อยากรู้อยากเห็นกวาดมองอวิ๋นหลิงกับพระสวามีเป็นครั้งคราว

เฉียงเวยคลึงขมับแล้วกระซิบ “คำถามสุดท้ายของท่านแก้ยากชะมัด ข้าคำนวณมาตั้งหนึ่งถ้วยชาแล้ว แต่ยังแก้ไม่ได้เลย”

เซียวปี้เฉิงอดเอ่ยไม่ได้ “นับประสาอะไรกับหนึ่งถ้วยชา วันนั้นข้าใช้เวลาตั้งสองถ้วยชากว่าจะคิดออก”

อวิ๋นหลิงหัวเราะ นางจัดปริศนาซูโดกุเก้าช่องสำหรับทดสอบคณิตศาสตร์มาโดยเฉพาะ

ซูโดกุเป็นเกมคณิตศาสตร์ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในศตวรรษที่สิบแปด ใช้ฝึกฝนความสามารถในการคิดเชิงตรรกะของผู้คน

ที่นางจัดมาทดสอบเป็นซูโดกุระดับกลาง ต่อให้เป็นผู้ช่ำชองที่เคยเล่นเกมประเภทนี้ก็ต้องใช้เวลาครึ่งชั่วโมงกว่าจะแก้ได้

หนึ่งถ้วยชาใช้เวลาประมาณสิบนาที เฉียงเวยเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเล่นเกมซูโดกุเป็นครั้งแรก แก้ไม่ได้ย่อมเป็นเรื่องปกติ

มีเพียงเด็กที่สมองอัจฉริยะอย่างน้องเล็กเท่านั้นถึงจะแก้ซูโดกุขั้นสูงได้อย่างง่ายดายภายในหนึ่งนาที

ขณะที่เซียวปี้เฉิงและเฉียงเวยกำลังคุยกัน อวิ๋นหลิงก็พลิกเปิดสมุดรายชื่อผู้เข้าสอบ

สำรวจมองไปรอบๆ นางก็พบตำแหน่งของหลี่เมิ่งชูตามหมายเลขสอบด้านบน

เห็นดรุณีผู้หนึ่งนั่งข้างหน้าต่างตรงกลางทางด้านซ้าย เกล้าผมเป็นมวยสองข้างปอยผมสยายลงมาประบ่า สวมกระโปรงผ้าโปร่งสีฟ้า

รูปร่างหน้าตาของนางจัดว่างามอยู่ แต่เรือนผมสีดำขลับ ช่วยขับเน้นให้รูปโฉมงามเจ็ดส่วนของนางดูโดดเด่นขึ้นเป็นเก้าส่วน ท่าทีโดยรวมยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจและผ่อนคลาย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ