พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 548

ภายในตำหนักบูรพา

วันนี้อวิ๋นหลิงได้พักผ่อนแต่เช้าในรอบหลายๆเดือน เซียวปี้เฉิงคิดจะร่วมรักกับอวิ๋นหลิง ทว่าหลังจากที่พวกเขาสองคนอาบน้ำเสร็จก็ได้ยินซวงหลีรายงานว่าเยี่ยนอ๋องกับภรรยามาขอเข้าพบ

เซียวปี้เฉิงได้แต่สวมเสื้อตัวนอก “เหตุใดพวกเขาวิ่งเข้าวังกลางดึกทำไม?”

สองคนนี้เหมือนฝาแฝดตัวติดกันอย่างไรอย่างนั้น ไปไหนก็ไปเป็นคู่ตลอด

ไม่ง่ายเลยกว่าคืนนี้เขาจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับภรรยา แต่สองคนนี้ไม่ไปกระหนุงกระหนิงต่อ ดันมาโอกาสทองของเขาพังแทน

เมื่อเยี่ยนอ๋องมาถึงตำหนักหลักก็เปรยเจตนาการมาเยือนด้วยความรีบร้อน หยิบจดหมายของความช่วยเหลือจากเฟิงอู๋จี

“พี่สาม พี่สะใภ้สาม ลูกศิษย์ของพวกท่านโดนจับกุมไป ถ้าไม่ไปช่วยออกมา พรุ่งนี้จะถูกคาราวานพ่อค้าส่งตัวไปที่เมืองสุยแล้ว”

เซียวปีเฉิงได้ยินว่าเกิดเรื่องกับเฟิงอู๋จีสีหน้าพลันแปรเปลี่ยน มัวแต่อาลัยอาวรณ์ค่ำคืนอันหอมหวานไม่ได้แล้ว

“เฉียวเย่ไปเตรียมรถม้า บอกให้เจ๋อเฟิงพาทหารคุ้มกันไปหนึ่งชุดด้วย ออกไปให้การช่วยเหลือที่จวนเฟิงโดยด่วน”

อวิ๋นหลิงก็รีบเปลี่ยนชุดลำลอง เดินไปพร้อมกับถามว่า “พวกเจ้าได้ข่าวจากที่ใด?”

“เป็นจดหมายจากน้องเมิ่งซู” เยี่ยนอ๋องรีบเดินตามแล้วตอบว่า “เมิ่งซูมาหาข้ากลางดึก บอกว่าตอนที่นางผ่านจวนเฟิง นางบังเอิญเก็บจดหมายขอความช่วยเหลือของเฟิงอู๋จีได้”

อวิ๋นหลิงพูดพึมพำกับตัวเอง ช่างเป็นเด็กเคราะห์ร้ายเสียจริง ยังไม่ถึงวันประกาศผลสอบ มารดาสายหลักก็รู้เรื่องสมัครสอบแล้วหรือ?

โชคดีที่หลี่เมิ่งซูผ่านโดยบังเอิญ หาไม่แล้วหากนางรู้ช้าไปสองวัน เขาก็ต้องถูกขายไปขุดเหมืองแร่ที่ซีเกอปี้แล้ว

เซียวปี้เฉิงขมวดคิ้วมุ่นโดยสังเกตเห็นยาก

ไม่ว่าจะตระกูลเฟิงหรือตระกูลหลี่ล้วนมีลูกหลานเป็นโขยง จวนตระกูลเฟิงตั้งอยู่ในถนนเสวียนหวู่ มีพื้นที่กว้างขวาง ส่วนจวนตระกูลหลี่นั้นตั้งอยู่ในถนนชิงหลง ซึ่งอยู่ห่างกันคนละซีก จวนหนึ่งอยู่ทิศใต้ของเมืองหลวง ส่วนอีกจวนอยู่ทิศเหนือ ไฉนหลี่เมิ่งซูถึงผ่านจวนตระกูลเฟิงได้?

ตอนที่อวิ๋นหลิงนัดเจอนางก็นัดที่โรงน้ำชาแถวทิศเหนือของเมืองหลวง

ทว่าเป็นเรื่องฉุกเฉิน เซียวปี้เฉิงไม่มีเวลาตรวจสอบรายละเอียดพวกนี้ พาพวกเยี่ยเจ๋อเฟิงตรงไปยังจวนตระกูลเฟิงทันที

......

แสงจันทราส่องสว่างไสว ดวงดาราเปล่งประกายแสงระยิบระยับ

เรือนปีกข้างอันซ่อมซ่อแลดูเปล่าเปลี่ยววังเวงชอบกล เฟิงอู๋จีจับโต๊ะแล้วดันตัวเองลุกขึ้นอย่างด้วยอาการสะลึมสะลือ รู้สึกพวงแก้มร้อนผ่าวราวถูกเผา

เมื่อวานฝนตกกระหน่ำ เดิมทีเรือนหลังนี้ก็อับชื้นอยู่แล้ว บัดนี้จึงยิ่งหนักกว่าเดิม คงเป็นเพราะไม่มีเม็ดข้าวสวยตกลงท้องหลายวัน กอปรกับยังไม่ได้ทำแผล ไข้จึงถามหา

เฟิงอู๋จียิ้มให้กับชีวิตอันขมขื่นในใจ หลังคารั่วแล้วยังเจอฝนตกตลอดทั้งคืนอีก

บัดนี้เขาไม่อาจสนใจสิ่งเหล่านี้ได้ ลากสังขารอันหิวโหยและเหนื่อยล้าไปหยิบกระบอกไม้ไผ่แบบพกพาขึ้นมาหนึ่งอัน

วันนี้ตอนกลางวันข้ารับใช้มาป้อนผงเอ็นนิ่มอีกครั้ง เขาแสร้งไม่ให้ความร่วมมือ ปัดขวดเซรามิกตอนอีกฝ่ายกำลังรินน้ำพัง

ถึงแม้การกระทำนี้ทำให้โดนทุบตี แต่ก็สามารถรวบรวมผงที่ตกหล่นบนพื้นได้สำเร็จ ถือว่าคุ้ม

ผงชนิดนี้ไม่เพียงแต่ใช้กินอย่างเดียว ยังสามารถเอามาเผาแล้วทำให้ผู้สูดดมหมดสติได้เช่นกัน

เฟิงอู๋จีปล่อยควันออกทางกระบอกไม้ไผ่อันจิ๋ว ข้ารับใช้นอกประตูหมดสติทันที

ยามนี้เขารู้สึกโชคดีที่ปกติชอบทดลองสิ่งแปลกใหม่และชอบค้นหาเทคนิคใหม่ๆเสมอ

พวกลวดเหล็กกับหินก่อไฟนั้นมีการจัดหามาเก็บไว้ในเรือนตลอด

เฟิงอู๋จีได้ยินเสียงกรนเบาๆของข้ารับใช้นอกประตูก็รู้ว่าเป็นโอกาสในการหนีแล้ว

พรุ่งนี้เช้าแม่เลี้ยงใหญ่ก็จะขายเขาทิ้ง เขาจะฝากความหวังไว้กับคนผ่านทางไม่ได้ และไม่อาจอยู่เฉยๆเหมือนลูกไก่ในกำมือผู้อื่นไม่ได้

เขาจำเป็นต้องหาวิธีช่วยตัวเอง

เรือนปีกข้างจะพังแหล่ไม่พังแหล่และอยู่ห่างไกลมาก ประตูหน้าต่างก็พังเป็นรู เป็นช่องทางให้เฟิงอู๋จีหนีออกไปได้ดีทีเดียว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ