พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 553

หลี่เมิ่งเอ๋อร์อดพูดอย่างมีน้ำโหไม่ได้ “เหลวไหลเกินไปแล้ว นี่มันเงื่อนไขบ้าบออะไรกัน”

“บังอาจ! เจ้าจะบอกว่าพระชายารัชทายาทกดขี่ประชาชนอย่างนั้นหรือ” ตงชิงถลึงตาใส่นาง ก่อนตะคอกเสียงแข็ง “ล้วนเป็นความสมัครใจที่จะสมัครเข้าเรียนในสำนักศึกษาเอง พระชายารัชทายาทไม่ได้บังคับใครนะ!”

ตั้งแต่มาเป็นหัวหน้าดูแลตำหนักบูรพา ทุกคนจะต้องเรียกนางด้วยความเคารพว่า ‘กูกู’ ตอนนี้ตงชิงทำงานเหมือนซวงหลีมากขึ้นทุกที ไม่ใช่สาวใช้ตัวน้อยที่ทำงานจิปาถะและปรนนิบัติรับใช้ผู้คนอย่างแต่ก่อนอีกแล้ว

ถึงแม้หลี่เมิ่งเอ๋อร์จะโกรธจัด แต่ก็ไม่กล้าไม่เคารพอวิ๋นหลิงต่อหน้าธารกำนัล ความหยิ่งยโสก็พลอยหดหายไปในทันใด

“หม่อมฉันมิกล้า”

นางข่มกลั้นเพลิงโทสะ ขึงตาใส่หลี่เมิ่งชูอย่างเคียดแค้นวูบหนึ่ง

หลี่หยวนเส้ารู้สึกว่าไม่ถูกต้องนัก “ค่าผิดสัญญาสามร้อยตำลึงทองต่อปี เช่นนั้นสามปีก็ควรเป็นเก้าร้อยตำลึงทองไม่ใช่หรือ ไฉนจึงต้องจ่ายค่าปรับหนึ่งพันตำลึง”

“ถึงอย่างไรหลี่กุ้ยเฟยก็เป็นเสด็จแม่ของปี้เฉิง มีบุญคุณที่เลี้ยงดูเขามา เพื่อตอบแทนความมีน้ำใจของตระกูลหลี่ ข้าเห็นแก่หน้าพวกท่าน จะลดราคาให้สักหน่อย ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก”

เสนาบดีขวาหลี่ “?”

หลี่หยวนเส้า “...”

เป็นการลดราคาให้ก็จริง แต่ฟังๆ ดูแล้วเหตุใดจึงไม่เป็นที่พอใจนัก

หลี่เมิ่งเอ๋อร์ฉุนจัดจนเกือบจะร้องเสียงห่านออกมา นางพอฟังออกว่าอวิ๋นหลิงกำลังยั่วยุอย่างเปิดเผย

นางตั้งใจเอ่ยถึงหลี่กุ้ยเฟยโดยเฉพาะ เห็นชัดว่านางไม่พอใจตระกูลหลี่เนื่องจากความขัดแย้งครั้งก่อน

อวิ๋นหลิงมองหนึ่งชายชราและหนุ่มสาวอีกสามคน ก่อนเตือนสติด้วยเสียงนุ่มนวล “ท่านเสนาบดีขวา หากตัดสินใจได้แล้วละก็ จะต้องชดใช้ค่าผิดสัญญาทั้งหมดในวันมะรืนนี้ ไม่เช่นนั้นจะมีดอกเบี้ยหนึ่งตำลึงทองต่อวัน จริงสิ สำนักศึกษารับเฉพาะทองคำเท่านั้น ไม่รับแลกพวกเหรียญเงินหรือทองแดงนะ”

ราชวงศ์ซีโจวนับว่ามีทรัพยากรแร่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ แต่เหมืองทองคำยังขาดแคลน การค้าขายก่อนหน้านี้ยังไม่พัฒนา ดังนั้นอัตราส่วนการแลกเปลี่ยนทองคำและเงินจึงสูงจนน่าตกใจ

หากชาวบ้านธรรมดาสามัญกับตระกูลคนรวยได้ทองก็จะเปลี่ยนเป็นเครื่องประดับและของตกแต่งอื่นๆ เพื่อเก็บสะสม ทองคำที่เป็นสกุลเงินใช้หมุนเวียนในตลาดก็น้อยเสียยิ่งกว่าน้อย

คำพูดนี้ทำให้สีหน้าของเสนาบดีขวาหลี่ดูเหยเกราวกับกินแมลงวันเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น

ตระกูลหลี่ไม่ได้ยากจน แต่ไม่รวยพอจะหยิบหนึ่งพันตำลึงทองออกมาใช้ได้อย่างง่ายดาย!

ลดได้รวมๆ แล้วก็สามสี่หมื่นตำลึงเงิน เทียบเท่ากับสินเจ้าสาวของลูกอนุหลายคนเลยทีเดียว!

หลี่เมิ่งชูมองไปยังอวิ๋นหลิงอย่างไม่แสดงสีหน้า ทั้งสองสบตากัน แอบยิ้มให้กันอย่างอดมิได้

นางรู้จักนิสัยท่านปู่เป็นอย่างดี ขณะนี้น่าจะกำลังคำนวณผลกำไรขาดทุนอยู่ในใจ รอเขาคิดบัญชีให้กระจ่างชัด เขาก็จะไม่คัดค้านให้นางเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงอี้

หลี่เมิ่งเอ๋อร์ร้อนใจอยู่บ้าง “ท่านปู่ต้องคิดให้ละเอียด เมื่อถึงเวลานั้นจะอธิบายกับฝั่งตระกูลจางอย่างไร ต่อให้ท่านจะไม่สนใจตระกูลจาง แต่ท่านจะไม่เหลียวแลการแต่งงานของพี่สาวอย่างนั้นหรือ ขืนให้เรียนที่สำนักศึกษาสามปี นางจะกลายเป็นสาวแก่ทึนทึกไปเสียกระมัง!”

“เจ้าเป็นห่วงเป็นใยพี่สาวถึงเพียงนี้ มิสู้มอบหนึ่งพันตำลึงทองแทนนางจะดีกว่า ถึงอย่างไรเจ้าก็ยังเด็ก ไม่ต้องรีบร้อนออกเรือน ยังมีเวลาเก็บสินเจ้าสาวได้อีกถมเถ”

อวิ๋นหลิงพูดประโยคนี้ออกมาเบาๆ หลี่เมิ่งเอ๋อร์ก็เงียบเสียงไปทันที

นางจะมีปัญญาเอาเงินที่ไหนมาช่วยหลี่เมิ่งชู ถ้าไม่ใช่สินเจ้าสาวที่พ่อแม่นางสะสมไว้ให้ นางคงจะไม่เสียสละเงินของตัวเองเพื่อไปให้อีกฝ่ายหรอก

จากนั้นเห็นเสนาบดีขวาหลี่คิดคำนวณสะระตะอย่างหนักใจครู่หนึ่ง ในที่สุดก็พรูลมหายใจยาวพร้อมยอมแพ้โดยดุษณี

“ช่างเถอะๆ ข้าตกลงให้เด็กคนนี้ไปสำนักศึกษาแล้วกัน ในเมื่อนางฉายแววโดดเด่น แล้วจะไปตัดอนาคตนางก็คงไม่ได้”

เขารู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟถ้าให้หลี่เมิ่งชูไปสำนักศึกษาชิงอี้ แต่ถ้าไม่ปล่อยนางไป เขาจะเสียเงินมหาศาล

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ