พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 570

ที่อวิ๋นหลิงเดาไว้ไม่ผิด

ถึงแม้นหลงเย่จะไม่มองไม่สนใจใยดีเขา กงจื่อโยวก็เพียงแค่รู้สึกเศร้าเสียใจเท่านั้น แต่เขาไม่ได้รู้สึกสิ้นหวังเลย

หน้าของเขาหนายิ่งกว่าอะไร ตามติดหลงเย่มาหลายปี จนคุ้นชินกับวิธีการปฏิเสธของนางแทบทุกรูปแบบ ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรถึงเพียงนั้นเลย

ทว่าคืนนี้ภายในจวนอ๋องจินจุดไฟสว่างไสว กงจื่อโยวนั่งอยู่ด้วยใต้ตาดำคล้ำ พร้อมเรียกหลิงซูและคนอื่นๆเข้ามา แต่เมื่อเข้ามาต่างก็อ้าปากหาวตามๆกัน

“พวกเจ้าลองพูดมาสิ เหตุใดหลงเอ๋อร์จึงมีท่าทีเช่นนั้นกับข้า?”

เขาพร่ำคิดอยู่นานแต่ก็หาเหตุผลไม่ได้ จึงเรียกหลิงซูและคนอื่นๆมาปรึกษา

เฉียงเวยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงพูดขึ้น “หรือจะเป็นเพราะเมื่อก่อนท่านจากไปโดยไม่บอกลา จึงทำให้นางโกรธเคือง?”

ในฐานะสตรีเช่นเดียวกัน หากนางเป็นหลงเย่ และสมมุติว่าคนที่ทำเป็นเยี่ยเจ๋อเฟิง นางก็คงโกรธไม่สนใจใครเช่นกัน

กงจื่อโยวพูดขึ้นด้วยความกลัดกลุ้ม “ก็มิใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่อวิ๋นหลิงได้อธิบายเหตุผลในจดหมายไปแล้ว ด้วยนิสัยของหลงเย่ หากนางยังโกรธอยู่คงไม่มีทางตกลงแต่งงานปลอมกับข้า”

หลงเย่รู้แล้วว่าเพราะเขาถูกพิษเย็นจึงต้องออกจากแคว้นถังใต้อย่างไม่มีทางเลือก และพิษเย็นนั่นก็เกิดขึ้นจากการช่วยนาง

หลิงซูคิดอยู่พักหนึ่ง จู่ๆก็พูดขึ้นเสียงลั่น “ข้ารู้แล้ว! นางอาจจะรู้เรื่องที่เราเคยวางแผนลอบสังหารฟงหลิวฉิง ดังนั้นจึงเย็นชากับท่านเช่นนี้!”

เมื่อได้ฟังกงจื่อโยวก็นิ่งไปพักหนึ่ง ใจของเขาเต้นระรัวด้วยความหวาดหวั่น

หลงเย่กับเหล่าเพื่อนพ้องของนางรักใคร่กลมเกลียว แต่ก่อนก็เพราะเขาไม่รู้เบื้องหน้าเบื้องหลังจึงทำเช่นนั้นไป และไม่ง่ายเลยที่อวิ๋นหลิงและหลิวฉิงจะยอมให้อภัยเขา

ทว่าหลงเย่ยังไม่ได้แสดงท่าทีอะไร ไม่แน่ว่านางอาจกำลังตระหนักเรื่องนี้อยู่…

กงจื่อโยวยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าหลิงซูพูดถูก นอกจากเหตุผลนี้แล้ว เขาก็คิดเหตุผลอื่นที่ทำให้หลงเย่เย็นชากับเขาขนาดนี้ไม่ได้แล้วจริงๆ

ทันใดนั้นหน้ากากเงินก็ตะโกนขึ้นอย่างไม่สนใคร “แย่แล้วแย่แล้ว พระชายาจินอ๋องจะได้แต่งเข้ามาหรือไม่ เดิมทีก็ไม่ใช่ชายาที่แท้จริงอยู่แล้ว คงจะไม่ใช่ว่าขนาดชายาปลอมก็หาไม่ได้หรอกกระมัง?”

เขายิ่งพูดสีหน้ากงจื่อโยวก็ยิ่งเข้มขรึมขึ้น คนรอบๆก็เงียบไปตามๆกัน

หน้ากากเงินไม่ตระหนัก ยังคงพูดพล่ามขึ้นอีก “เหมืองทองเราก็บริจาคไปแล้ว ทั้งยังใช้เงินจำนวนมากเพื่อสร้างจวนอ๋องจิน ขออย่าให้ทุกอย่างสูญเปล่าเลย คืนนี้เจ้าสำนักไปที่ตำหนักบูรพา เหตุใดพระชายารัชทายาทจึงไม่ให้ท่านเข้าพบล่ะ พวกนางคงมิได้วางแผนอะไรกันอยู่กระมัง!”

เมื่อพร่ำมาได้ครึ่งทางบนหน้าของเขาก็ได้รอยช้ำเพิ่มที่ตาทั้งสองข้าง หน้ากากเงินรีบหุบปากทันที

กงจื่อโยวกัดฟันแน่น เขาพูดอย่างแน่วแน่ “ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ข้าต้องเจอหลงเอ๋อร์ให้ได้!”

หากเป็นเพราะเรื่องลอบสังหารหลิวฉิง เขาก็จะรับผิดและยอมรับการลงโทษ ขอเพียงแค่อีกฝ่ายหายโกรธ ต่อให้ต้องแลกด้วยครึ่งชีวิตเขาก็ยอม

เขาอดคิดไม่ได้เลยว่า หากไม่ใช่เพราะหลิวฉิงมีความสามารถ ป่านนี้หญ้าบนหลุมศพคงสูงราวสามเมตรได้แล้ว

กงจื่อโยวไม่ได้นอนทั้งคืน เช้าวันรุ่งขึ้นจึงเข้าวังเพื่อ ‘แบกไม้รับโทษ’

วันนี้เป็นวันหยุด จึงไม่ต้องเข้าเฝ้าในท้องพระโรง

อวิ๋นหลิงก็เดาไว้แล้วว่าเขาจะมาตั้งแต่เช้า หลังได้รับรายงานจากบ่าว นางก็ไปรับเขาที่ทางเข้าด้วยตัวเอง

ทันทีที่เห็นกงจื่อโยว อวิ๋นหลิงก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย “เจ้าแบกอะไรไว้ข้างหลัง?”

“ไม้ขนไก่” กงจื่อโยวพูดด้วยสีหน้าสลด “วันนี้ข้ามาแบกไม้รับโทษ อวิ๋นหลิงท่านช่วยเมตตาข้าที ให้ข้าได้พบหลงเอ๋อร์ได้หรือไม่? หลังได้พบแล้วต่อให้นางจะดุด่าหรือทุบตีข้าก็ได้ทั้งนั้น”

เขาแบกไม้ขนไก่ไว้บนหลัง ทว่าเป็นไม้ขนไก่ที่ทำจากทองบริสุทธิ์ทั้งอัน ทั้งยังฝังด้วยเพชรพลอยหลากสี แม้แต่ขนยังทำจากขนนกยูงสีสันฉูดฉาดสวยงาม

ทำให้รู้กันได้ชัดว่า ไม้ธรรมดาไม่คู่ควรกับรูปโฉมของเขา

“แล้วเหตุใดนางถึงต้องตีเจ้าด้วยล่ะ?” อวิ๋นหลิงขมวดคิ้วเล็กน้อย บอกสะบัดมือเบาๆ “ช่างเถอะ รู้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องมา ข้าช่วยเกลี้ยกล่อมนางให้แล้ว นางรอเจ้าอยู่ที่ศาลาหูซินแล้ว”

“แต่เจ้าก็ไม่สนใจข้า และหันหลังเดินหนีไป ข้าหนาวสั่นไปทั้งตัวจนยกขาไม่ขึ้น ข้าตามเจ้าไม่ทันจริงๆ”

หากอีกฝ่ายกลับวังไปคงยากที่จะได้พบอีกครั้ง เพราะหมดหนทางเขาจึงทำได้เพียงบอกกับคนในสำนักไว้ จากนั้นก็พาสี่สาวกประกาศิตจากไป

หลงเย่มองเขาด้วยแววตาสับสน แววตาของชายตรงหน้ายังคงสว่างไสวเช่นเคย ทุกสิ่งที่เขาคิดในใจต่างก็แสดงออกชัดเจนทางสีหน้าของเขาเอง

แม้จะไม่ใช้วิชาอ่านใจ นางก็รับรู้ได้ถึงความคิด ความกังวล การโทษตัวเอง รวมถึงความน้อยอกน้อยใจของอีกฝ่าย

“ท่านไม่กลัวหรือ?”

กงจื่อโยวสะดุ้งเล็กน้อย “อะไรหรือ?”

“ท่านเห็นข้าฆ่าเยว่หลงซิงกับตาตัวเอง ข้าไม่เหมือนกับที่ท่านเคยคิดไว้”

แม้อวิ๋นหลิงจะยืนยันในตัวกงจื่อโยวแล้ว ทว่านางยังต้องการฟังคำตอบจากปากของเขาเอง

แววตากงจื่อโยวซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย หลังเงียบไปครู่หนึ่งเขาก็พูดขึ้นเสียงเบา

“ตอนนั้นข้ายอมรับว่าข้าตกใจมาก เพราะที่ผ่านมาเจ้าพยายามปกป้องเยว่หลงซิงมาโดยตลอด คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะกล้าฆ่านางด้วยตัวเอง แต่ข้าไม่ได้รู้สึกกลัวเลยสักนิด ข้าก็แค่รู้สึกปวดใจและ…โกรธแทนเจ้า นางทำเรื่องเช่นนั้นลงไป แต่สุดท้ายกลับโทษว่าเจ้าเห็นแก่ตัว เจ้าคงเสียใจไม่น้อย”

หลงเย่มองชายตรงหน้า “ถ้าเช่นนั้นข้าเป็นแบบนี้ ท่านรับได้ใช่ไหม ท่านยังจะชอบอยู่หรือไม่?”

กงจื่อโยวมองนางนิ่งๆ สีหน้าและแววตาเขาจริงจังขึ้นกว่าเก่า

“หลงเอ๋อร์ ข้ารู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไร และรู้ดีว่าคนแบบใดที่ข้าชอบ”

“ตัวตนที่แท้จริงของเจ้า ก็คือเจ้าในแบบที่ข้ารักมาโดยตลอด”

ที่แท้เขาก็รู้มาโดยตลอด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ