ภายใต้ท้องฟ้าสลัวยามเย็นโพล้เพล้ แสงไฟจวนเจิ้นกั๋วกงก็สว่างไสวราวกับเป็นตอนกลางวัน
บรรดาสาวใช้กับบ่าวหญิงสูงวัยเดินเข้าๆ ออกๆ อย่างเร่งรีบ เหล่าทหารเฝ้ายามก็ตรวจค้นและเฝ้าระวังทุกซอกทุกมุมในลานบ้าน
เมื่ออวิ๋นหลิงกับสามีมาถึง หรงจั้นกำลังสั่งให้บ่าวไพร่ทั้งหลายในจวนโปรยผงไล่แมลง ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมเจือวิตกกังวล แต่ก็สั่งการจนเสร็จเรียบร้อย
พอเห็นอวิ๋นหลิง เขาก็รีบเข้ามารับหน้าทันที
“รุ่ยอ๋องอยู่ที่ปีกตะวันออกของเรือนรับรอง พวกท่านรีบตามข้ามาเถอะ”
“เสี่ยวฉานเป็นอย่างไรบ้าง”
“สาวใช้กับบ่าวหญิงสูงวัยเฝ้าอยู่ข้างๆ ท่านแม่ข้าก็ดูแลนางอยู่ด้วย ตอนนี้อาการดูเหมือนจะปลอดภัยแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องจัดการกับพิษงูของรุ่ยอ๋องก่อน”
ครั้นเห็นเขาวางใจกับอาการของหรงฉาน อวิ๋นหลิงก็รู้ว่าไม่ได้ร้ายแรงอะไร จึงรู้สึกโล่งใจตามไปด้วย
ระหว่างทางไปเรือนรับรอง หรงจั้นเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงบ่ายอย่างละเอียด
“หลังจากเขาถูกกัด ข้าก็ส่งคนไปหาท่านกับอู๋อันกงทันที ผู้เฒ่าของเขาปฐมพยาบาลจนรุ่ยอ๋องอาการทรงตัวแล้ว เพียงแต่พิษงูนั้นค่อนข้างรักษายาก คงต้องให้ท่านช่วยรักษาอีกแรง”
จวนอู๋อันกงก็อยู่บนถนนจูเชี่ย ไม่ไกลกันนัก หลังจากรู้ข่าวเขาก็รีบรุดไปตระกูลหรงโดยเร็วที่สุด เพื่อช่วยชีวิตรุ่ยอ๋อง
“เจ้าสาม นางหนู พวกเจ้ามาแล้ว!”
ทันทีที่เห็นอวิ๋นหลิง อู๋อันกงก็เดินเข้ามาหาอย่างกระอักกระอ่วนใจ
“ข้าเพิ่งให้ยาขับพิษงูกับเทียนอวี้ และขับเลือดพิษให้เขาแล้ว แต่งูตัวนั้นเป็นงูพิษลม พิษของมันรุนแรงมาก ยาของข้าอาจไม่ได้ผล เกรงว่าถ้าเขารอดชีวิตได้จะลงเอยด้วยการเป็นอัมพาต!”
พิษงูมักจะแบ่งออกเป็นพิษเส้นประสาทกับพิษเลือด อย่างแรกมีอันตรายถึงชีวิตมากกว่าอย่างหลัง ซึ่งอู๋อันกงเรียกว่าพิษลมนั่นแหละ
ยุคนี้ไม่มีเซรุ่ม ถูกกัดแล้วจะรอดได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับโชค ถ้าโชคดีรอด ก็จะทิ้งอาการข้างเคียงไว้อย่างแขนขาเป็นอัมพาตได้ง่ายๆ
เฟิงเหยียนเป็นบทเรียนเตือนใจ
มิน่าที่จวนเจิ้นกั๋วกงจะวุ่นวายเช่นนี้ หากรุ่ยอ๋องเป็นอะไรไป เรื่องราวก็จะไปกันใหญ่
อวิ๋นหลิงฟังแล้วในใจก็นึกสงสัยอยู่หลายส่วน
งูพิษร้ายแรงชนิดนี้ ต่อให้ตั้งใจจับก็ยากจะจับได้ แล้วจะมาปรากฏตัวในบ้านเรือนที่มนุษย์อาศัยอยู่กันได้อย่างไร
นางระงับความสงสัยในใจ เอ่ยปลอบเสียงเข้ม “ไม่ต้องตกใจไป เขาจะไม่ตาย ข้าจะฝังเข็มให้เขาสองสามเข็มเพื่อให้อาการทรงตัวก่อน”
อวิ๋นหลิงเหลือบมองเซียวปี้เฉิง อีกฝ่ายเข้าใจทันที จัดการให้ทุกคนในห้องออกไปก่อน
“หลิงเอ๋อร์ต้องใช้สมาธิตอนฝังเข็ม ทุกคนไปอดใจรอด้านนอกก่อนแล้วกัน”
พอได้ยินอวิ๋นหลิงพูดว่ารุ่ยอ๋องจะไม่ตาย พวกหรงจั้นก็ถอนใจด้วยความโล่งอก รีบออกจากห้องไป
ในห้องเหลือเพียงอวิ๋นหลิงกับเซียวปี้เฉิง รุ่ยอ๋องได้รับบาดเจ็บที่ง่ามนิ้วระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ นางเหลือบมองอย่างรวดเร็ว
เห็นมือของเขาเป็นรูแหลมเล็กๆ สองรู ไม่มีเลือดออกจากบาดแผล เพียงบวมเล็กน้อย แต่ยังไม่เกิดรอยช้ำเขียวช้ำม่วง
นี่คืออาการหลังจากถูกงูพิษที่ส่งผลต่อเส้นประสาทกัด
แม้เวลานี้รุ่ยอ๋องจะหมดสติอยู่ แต่เห็นชัดว่าหายใจลำบาก
“ฉาน...เสี่ยวฉาน...นาง...”
เขาถูกพิษงู ตอนนี้จึงพูดตะกุกตะกัก รู้สึกแต่ว่าหายใจติดขัด แขนขวาที่ถูกกัดก็ชาเหลือแสนจนแทบจะหมดสติ บริเวณที่ถูกกัดมีอาการเจ็บแปลบๆ
“นางไม่เป็นไร ท่านหยุดพูดก่อน ปรับการหายใจให้ดี ตอนนี้ในมือข้าไม่มีขวดออกซิเจนจะให้ท่านสูด”
อวิ๋นหลิงปรับความสูงของศีรษะรุ่ยอ๋องเพื่อให้เขาหายใจได้ง่ายขึ้น
ได้ยินว่าหรงฉานไม่เป็นไร ร่างกายที่ตึงเกร็งของรุ่ยอ๋องก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย สายตาค่อยๆ เริ่มพร่าเลือน
หลังจากแน่ใจว่าอาการของรุ่ยอ๋องปลอดภัยแล้ว อวิ๋นหลิงก็ออกมาจากห้อง
“ส่งคนมาเฝ้าเขาด้วย พยายามระบายอากาศภายในห้อง ผ่านคืนนี้ไป ชีวิตของเขาก็จะพ้นขีดอันตราย”
“ข้ากะไว้แล้วเชียวว่าท่านต้องมีทางรักษา”
หรงจั้นประสานมือคารวะด้วยสีหน้าซาบซึ้งใจ พรูลมหายใจยาวๆ จากนั้นเขาก็กล้าให้คนเข้าวังกลางดึกไปรายงานจักรพรรดิจาวเหรินทราบถึงสถานการณ์ในจวน
อวิ๋นหลิงพยักหน้า ก่อนรีบสาวเท้าไปดูอาการของหรงฉาน
ยามราตรีมืดมิดราวกับหมึก ยามนี้หรงฉานมีอาการมาเกือบห้าชั่วยามแล้ว ทันทีที่ก้าวเข้าไปในลานบ้าน นางก็ได้ยินเสียงเด็กทารกร้องอุแว้ๆ ดังก้องกังวาน
บ่าวหญิงสูงวัยข้างในตื่นเต้นเสียจนเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก
“คลอดแล้ว คลอดแล้ว! เป็นคุณชายน้อย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...