พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 574

ภายใต้ท้องฟ้าสลัวยามเย็นโพล้เพล้ แสงไฟจวนเจิ้นกั๋วกงก็สว่างไสวราวกับเป็นตอนกลางวัน

บรรดาสาวใช้กับบ่าวหญิงสูงวัยเดินเข้าๆ ออกๆ อย่างเร่งรีบ เหล่าทหารเฝ้ายามก็ตรวจค้นและเฝ้าระวังทุกซอกทุกมุมในลานบ้าน

เมื่ออวิ๋นหลิงกับสามีมาถึง หรงจั้นกำลังสั่งให้บ่าวไพร่ทั้งหลายในจวนโปรยผงไล่แมลง ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมเจือวิตกกังวล แต่ก็สั่งการจนเสร็จเรียบร้อย

พอเห็นอวิ๋นหลิง เขาก็รีบเข้ามารับหน้าทันที

“รุ่ยอ๋องอยู่ที่ปีกตะวันออกของเรือนรับรอง พวกท่านรีบตามข้ามาเถอะ”

“เสี่ยวฉานเป็นอย่างไรบ้าง”

“สาวใช้กับบ่าวหญิงสูงวัยเฝ้าอยู่ข้างๆ ท่านแม่ข้าก็ดูแลนางอยู่ด้วย ตอนนี้อาการดูเหมือนจะปลอดภัยแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องจัดการกับพิษงูของรุ่ยอ๋องก่อน”

ครั้นเห็นเขาวางใจกับอาการของหรงฉาน อวิ๋นหลิงก็รู้ว่าไม่ได้ร้ายแรงอะไร จึงรู้สึกโล่งใจตามไปด้วย

ระหว่างทางไปเรือนรับรอง หรงจั้นเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงบ่ายอย่างละเอียด

“หลังจากเขาถูกกัด ข้าก็ส่งคนไปหาท่านกับอู๋อันกงทันที ผู้เฒ่าของเขาปฐมพยาบาลจนรุ่ยอ๋องอาการทรงตัวแล้ว เพียงแต่พิษงูนั้นค่อนข้างรักษายาก คงต้องให้ท่านช่วยรักษาอีกแรง”

จวนอู๋อันกงก็อยู่บนถนนจูเชี่ย ไม่ไกลกันนัก หลังจากรู้ข่าวเขาก็รีบรุดไปตระกูลหรงโดยเร็วที่สุด เพื่อช่วยชีวิตรุ่ยอ๋อง

“เจ้าสาม นางหนู พวกเจ้ามาแล้ว!”

ทันทีที่เห็นอวิ๋นหลิง อู๋อันกงก็เดินเข้ามาหาอย่างกระอักกระอ่วนใจ

“ข้าเพิ่งให้ยาขับพิษงูกับเทียนอวี้ และขับเลือดพิษให้เขาแล้ว แต่งูตัวนั้นเป็นงูพิษลม พิษของมันรุนแรงมาก ยาของข้าอาจไม่ได้ผล เกรงว่าถ้าเขารอดชีวิตได้จะลงเอยด้วยการเป็นอัมพาต!”

พิษงูมักจะแบ่งออกเป็นพิษเส้นประสาทกับพิษเลือด อย่างแรกมีอันตรายถึงชีวิตมากกว่าอย่างหลัง ซึ่งอู๋อันกงเรียกว่าพิษลมนั่นแหละ

ยุคนี้ไม่มีเซรุ่ม ถูกกัดแล้วจะรอดได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับโชค ถ้าโชคดีรอด ก็จะทิ้งอาการข้างเคียงไว้อย่างแขนขาเป็นอัมพาตได้ง่ายๆ

เฟิงเหยียนเป็นบทเรียนเตือนใจ

มิน่าที่จวนเจิ้นกั๋วกงจะวุ่นวายเช่นนี้ หากรุ่ยอ๋องเป็นอะไรไป เรื่องราวก็จะไปกันใหญ่

อวิ๋นหลิงฟังแล้วในใจก็นึกสงสัยอยู่หลายส่วน

งูพิษร้ายแรงชนิดนี้ ต่อให้ตั้งใจจับก็ยากจะจับได้ แล้วจะมาปรากฏตัวในบ้านเรือนที่มนุษย์อาศัยอยู่กันได้อย่างไร

นางระงับความสงสัยในใจ เอ่ยปลอบเสียงเข้ม “ไม่ต้องตกใจไป เขาจะไม่ตาย ข้าจะฝังเข็มให้เขาสองสามเข็มเพื่อให้อาการทรงตัวก่อน”

อวิ๋นหลิงเหลือบมองเซียวปี้เฉิง อีกฝ่ายเข้าใจทันที จัดการให้ทุกคนในห้องออกไปก่อน

“หลิงเอ๋อร์ต้องใช้สมาธิตอนฝังเข็ม ทุกคนไปอดใจรอด้านนอกก่อนแล้วกัน”

พอได้ยินอวิ๋นหลิงพูดว่ารุ่ยอ๋องจะไม่ตาย พวกหรงจั้นก็ถอนใจด้วยความโล่งอก รีบออกจากห้องไป

ในห้องเหลือเพียงอวิ๋นหลิงกับเซียวปี้เฉิง รุ่ยอ๋องได้รับบาดเจ็บที่ง่ามนิ้วระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ นางเหลือบมองอย่างรวดเร็ว

เห็นมือของเขาเป็นรูแหลมเล็กๆ สองรู ไม่มีเลือดออกจากบาดแผล เพียงบวมเล็กน้อย แต่ยังไม่เกิดรอยช้ำเขียวช้ำม่วง

นี่คืออาการหลังจากถูกงูพิษที่ส่งผลต่อเส้นประสาทกัด

แม้เวลานี้รุ่ยอ๋องจะหมดสติอยู่ แต่เห็นชัดว่าหายใจลำบาก

“ฉาน...เสี่ยวฉาน...นาง...”

เขาถูกพิษงู ตอนนี้จึงพูดตะกุกตะกัก รู้สึกแต่ว่าหายใจติดขัด แขนขวาที่ถูกกัดก็ชาเหลือแสนจนแทบจะหมดสติ บริเวณที่ถูกกัดมีอาการเจ็บแปลบๆ

“นางไม่เป็นไร ท่านหยุดพูดก่อน ปรับการหายใจให้ดี ตอนนี้ในมือข้าไม่มีขวดออกซิเจนจะให้ท่านสูด”

อวิ๋นหลิงปรับความสูงของศีรษะรุ่ยอ๋องเพื่อให้เขาหายใจได้ง่ายขึ้น

ได้ยินว่าหรงฉานไม่เป็นไร ร่างกายที่ตึงเกร็งของรุ่ยอ๋องก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย สายตาค่อยๆ เริ่มพร่าเลือน

หลังจากแน่ใจว่าอาการของรุ่ยอ๋องปลอดภัยแล้ว อวิ๋นหลิงก็ออกมาจากห้อง

“ส่งคนมาเฝ้าเขาด้วย พยายามระบายอากาศภายในห้อง ผ่านคืนนี้ไป ชีวิตของเขาก็จะพ้นขีดอันตราย”

“ข้ากะไว้แล้วเชียวว่าท่านต้องมีทางรักษา”

หรงจั้นประสานมือคารวะด้วยสีหน้าซาบซึ้งใจ พรูลมหายใจยาวๆ จากนั้นเขาก็กล้าให้คนเข้าวังกลางดึกไปรายงานจักรพรรดิจาวเหรินทราบถึงสถานการณ์ในจวน

อวิ๋นหลิงพยักหน้า ก่อนรีบสาวเท้าไปดูอาการของหรงฉาน

ยามราตรีมืดมิดราวกับหมึก ยามนี้หรงฉานมีอาการมาเกือบห้าชั่วยามแล้ว ทันทีที่ก้าวเข้าไปในลานบ้าน นางก็ได้ยินเสียงเด็กทารกร้องอุแว้ๆ ดังก้องกังวาน

บ่าวหญิงสูงวัยข้างในตื่นเต้นเสียจนเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก

“คลอดแล้ว คลอดแล้ว! เป็นคุณชายน้อย!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ