พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 576

สรุปบท ตอนที่ 576 ดูพฤติกรรมของเขากันต่อไป: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 576 ดูพฤติกรรมของเขากันต่อไป – พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ โดย Anchali

บท ตอนที่ 576 ดูพฤติกรรมของเขากันต่อไป ของ พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายโรแมนติกโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Anchali อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

จักรพรรดิจาวเหรินทำหน้าบึ้งตึง “เจ้ากำลังพูดอะไร ลูกชายเพิ่งลืมตาดูโลกแท้ๆ ยังไม่เห็นหน้าเลยสักแวบเดียว ก็ผลักไสไล่ส่งเขาไปซะแล้วหรือ”

รุ่ยอ๋องดูร้อนใจ เริ่มหายใจถี่ขึ้น “ลูกไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ลูก...”

จักรพรรดิจาวเหรินรีบตัดบทเขา “เอาละๆ อย่าเพิ่งรีบร้อนพูดเรื่องเหล่านี้ พักฟื้นให้หายก่อนสำคัญกว่า อีกอย่างเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าหรงฉานจะพาเด็กไป แล้วถ้านางเกิดเปลี่ยนใจเล่า”

สายตาของรุ่ยอ๋องหม่นแสงลง ครึ่งปีผ่านไปแล้วนับตั้งแต่แยกทางกัน ระหว่างนี้หรงฉานไม่เคยพูดอะไรกับเขาเลยแม้แต่คำเดียว

ปกติแล้วเขาจะอาศัยงานราชการมาเยี่ยมนางที่จวนเจิ้นกั๋วกง บางครั้งก็พบนางอยู่ในจวน แต่ทั้งสองก็ยังเดินผ่านกันไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ

ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าใด เขาก็ยิ่งไม่กล้าหวังว่าหรงฉานจะให้อภัยเขา อย่างไรเสีย ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นก็มิอาจลบล้างได้

ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากเห็นลูกตอนแรกเกิด แต่เขาไม่กล้าเอ่ยปากต่อหน้าคนตระกูลหรงจริงๆ

ตอนนั้นปิ่นปักผมของฉู่อวิ๋นหานแทงเข้าท้องของหรงฉาน หากลึกลงไปอีกสองส่วน ลูกของพวกเขาก็จะหมดโอกาสลืมตาดูโลก

“แต่ถ้าเสี่ยวฉานไม่ยอมยกโทษให้ลูกล่ะ? ลูกผิดต่อเสี่ยวฉานก่อน นางตั้งท้องสิบเดือนอย่างยากลำบาก ลูกก็ไม่ได้ดูแลอยู่ข้างกายนางด้วยซ้ำ เป็นสามีที่บกพร่องต่อหน้าที่”

“แล้วถ้ายังจะพรากลูกที่นางสู้อุตส่าห์คลอดออกมาอย่างยากลำบาก บังคับให้พวกนางแม่ลูกแยกจากกัน เช่นนั้นลูกจะต่างอะไรกับสัตว์ร้ายไร้ยางอายพวกนั้นเล่า”

รุ่ยอ๋องมองจักรพรรดิจาวเหรินด้วยแววตาดื้อรั้น ถึงเขาจะหายใจลำบาก แต่ก็ยังคงพูดคำเหล่านี้อย่างชัดถ้อยชัดคำ

“ถ้าเสด็จพ่อยืนกรานจะพรากเด็กมา เช่นนั้นลูกจะสละตำแหน่งกลายเป็นคนธรรมดาสามัญ”

หากท่านอ๋องธรรมดาคนหนึ่งถูกปลดออกจากตำแหน่ง ทายาทของเขาย่อมกลายเป็นคนธรรมดาสามัญ เช่นนี้หรงฉานจะพาลูกไปอยู่ข้างกายได้อย่างสบายใจ

“เจ้านี่มัน…”

จักรพรรดิจาวเหรินฟังแล้วทั้งทรงพิโรธทั้งปวดพระทัย ไม่รู้จะรับสั่งอะไรดีไปชั่วขณะ

อวิ๋นหลิงเห็นเช่นนี้ก็เอ่ยปากห้ามทัพได้อย่างเหมาะเหม็ง “เสี่ยวฉานไม่ได้พูดอะไรเลย แล้วท่านรู้ได้อย่างไรว่านางคิดอะไรอยู่ อีกอย่างเด็กแรกเกิดอยู่ห่างจากแม่ไม่ได้ ต่อให้จะหย่าร้างกันจริงๆ ก็ยังต้องรอจนลูกหย่านมก่อน เสด็จพ่อว่าใช่หรือไม่”

จักรพรรดิจาวเหรินรีบรับลูกพูดต่อ พลางลูบเคราจ้องเขม็ง “ถูกต้อง ข้าไม่ได้ให้พวกเจ้าคลอดลูกชายเสร็จก็หย่ากันทันทีเสียเมื่อไหร่ เช่นนั้นข้ายังจะเป็นคนอยู่อีกหรือ”

รุ่ยอ๋องมองเขาอย่างตะลึงงัน “จริงหรือ”

เช่นนี้อย่างน้อยเขาก็สามารถเป็นสามีภรรยากับนางได้นานขึ้นอีกระยะหนึ่ง

“ข้าไปโกหกตอนไหน”

หลังจากคลายความกังวลลง ไม่นานรุ่ยอ๋องก็รู้สึกง่วงงุนแล่นริ้วขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก ก่อนผล็อยหลับลึกไป

จักรพรรดิจาวเหรินก็ถอนพระทัยด้วยความโล่งอกเช่นกัน เวลาตั้งแต่แรกเกิดจนถึงหย่านมของเด็กก็ประมาณสิบเดือนเห็นจะได้ ถ้าสามารถสร้างโอกาสให้ทั้งสองอยู่ด้วยกันได้มากขึ้น เขาก็ไม่เชื่อว่าพวกเขาจะยังเต็มใจหย่าร้างกัน

หากยังมีความคิดนั้นอยู่ เมื่อถึงเวลาก็ค่อยหาข้ออ้างเลื่อนออกไป

“พี่ใหญ่เปลี่ยนไปมากเหลือเกิน”

เซียวปี้เฉิงถอนใจ จากนั้นจึงปิดม่านลงแล้วออกมาจากห้อง

ในห้องโถงใหญ่ หรงจั้นกำลังรออย่างเงียบๆ อยู่อีกด้านหนึ่งด้วยสีหน้าซับซ้อนเป็นพิเศษ เห็นชัดว่าเขาได้ยินทุกถ้อยคำที่รุ่ยอ๋องกล่าวเมื่อครู่นี้

หรงฉานยังไม่ทันจะตอบ ฮูหยินหรงก็เอ่ยปากขึ้นก่อนแล้ว

“เฮ้อ ถึงแม้แต่ก่อนรุ่ยอ๋องจะทำตัวเป็นไม้หลักปักเลน แต่ดีที่อุปนิสัยไม่ได้เลวร้าย ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปมาก ถือว่าเข้าตาใช้ได้เลย ถ้าเจ้าคลอดลูกสาวก็แยกจากกันไปได้ แต่เผอิญคลอดลูกชาย สวรรค์ช่างเล่นตลกประทานสายสัมพันธ์ที่ตัดไม่ขาดให้กับพวกเจ้าโดยแท้”

นางสื่อความนัยว่าจะล้มเลิกความคิดหย่าร้างนั่นเอง

ถึงอย่างไรการคลอดลูกสาวนั้นต่างจากคลอดลูกชาย ถ้าหย่ากันไป หรงฉานมีลูกติดเป็นลูกชาย คงยากจะหาลูกเขยด้วยซ้ำ

หรงจั้นคิดใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยเสียงจริงจัง “ก่อนหน้านี้เขาเคยทำให้เสี่ยวฉานบาดเจ็บที่ท้อง มาตอนนี้เขาเกือบเอาชีวิตไม่รอดเพื่อปกป้องนาง ถือเป็นการชดเชยความผิดพลาดในอดีต มิสู้ให้โอกาสเขา แล้วดูพฤติกรรมกันต่อไป รอจนลูกโตขึ้นอีกสักนิดค่อยตัดสินใจก็ยังไม่สายเกินไป”

หรงฉานเห็นด้วยอยู่ก่อนแล้ว ฟังแล้วพยักหน้าเบาๆ

“เช่นนั้นมาดูพฤติกรรมของเขากันต่อไปแล้วกัน”

นางลูบท้องน้อยโดยไม่รู้ตัว ซึ่งมีรอยแผลเป็นขนาดเท่าถั่วเขียวที่เห็นได้ชัดมาก

ฉู่อวิ๋นหานแทงปิ่นปักผมค่อนข้างลึก แม้จะใช้ยาขี้ผึ้งของอวิ๋นหลิงทาสมานแล้วก็ตาม แต่ยังทิ้งรอยแผลเป็นที่น่ากลัวอย่างเห็นชัดไว้

แผลเป็นนี้ไม่เพียงอยู่บนท้องของนาง แต่ยังฝังอยู่ในหัวจิตหัวใจของนางด้วย

เมื่อใดก็ตามที่นางอดใจอ่อนกับรุ่ยอ๋องไม่ได้ แผลเป็นนี้จะเตือนสติซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงความเจ็บปวดและความท้อแท้ใจที่นางรู้สึกในขณะนั้น เช่นเดียวกับความกลัวที่นางอาจสูญเสียลูกไปในยามนี้

แต่ทันทีที่รู้ว่าชีวิตของรุ่ยอ๋องอาจตกอยู่ในอันตราย ความตื่นตระหนกที่ปะทุขึ้นฉับพลันในใจนางก็รุนแรงขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าทวี

ถ้าลูกไม่มีพ่อ ลำพังแค่คิดนางก็รู้สึกเหมือนฟ้ากำลังจะถล่มทลาย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ