อวิ๋นหลิงอมยิ้ม “ไปกันเถอะ ไม่ง่ายเลยกว่าข้าจะได้ออกมา ข้ามีเรื่องต้องทำเยอะ ไม่มีเวลาสนใจนางหรอก”
นางไม่เก็บสิ่งที่พบเห็นโดยไม่คาดหมายมาใส่ใจ หมุนกายแล้วเดินเข้าโรงหมอและร้านขายยาสมุนไพรหลายเจ้า
ตรงมุมซอยมีรถม้าคันหนึ่งจอดแน่นิ่ง
ดรุณีโฉมสะครวญหน้ารูปไข่ ดวงตาราวกับลูกซิ่งแหวกม่านแล้วมองฉู่อวิ๋นหานด้วยความสนใจ
“พี่ใหญ่ แม่นางรองฉู่ผู้นี้ดูแล้วน่าจะอยู่ร่วมกันง่ายเนอะ”
สิ่งที่ตอบนางคือการกระแอมเสียงเบาๆ
หรงฉานอุทานออกมาว่า “ฉู่อวิ๋นหลิงแย่งคนรักของนางไป แต่นางยังมาขอพรให้กับลูกในท้องของฉู่อวิ๋นหลิงอีก ถ้าเป็นข้าคงทำไม่ลง”
ด้านในรถม้าส่งเสียงเรียบเฉยของบุรุษมา เสียงไพเราะเพราะพริ้วประหนึ่งเสียงกู่ฉิน
“ทำได้ขนาดนี้ นางต้องเป็นคนใจกว้างหรือไม่ก็ไม่เคยใส่ใจจิ้งอ๋องมาก่อนเลย”
หรงฉานเลิกคิ้วถามด้วยความใคร่รู้ “แล้วพี่ใหญ่คิดว่าแม่นางรองฉู่เป็นอย่างแรกหรืออย่างหลังล่ะ?”
“พี่ว่าน่าจะเป็นอย่างหลังนะ”
“ทำไมหรือพี่ใหญ่?”
“ถ้าเป็นคนดีจริง ไม่จำเป็นต้องบอกให้คนอื่นรู้หรอก” บุรุษหยุดพูดชั่วครู่ ก่อนจะเปรยเสียงเรียบต่อว่า “วันหน้าเจ้าต้องแต่งเข้าจวนรุ่ยอ๋องพร้อมนาง เจ้าต้องระวังตัวไว้ อย่าได้ดูแคลนสตรีมากอุบายผู้นี้เชียว”
แววตาหรงฉานเผยความสงสัย “แต่ข้าดูแล้วนางไม่เหมือนคนเลวเลยนะเจ้าคะ?”
บุรุษยกมุมปากขึ้น “ไม่ว่าจะเป็นคนดีหรือคนเลว แต่สามารถกุมหัวใจองค์ชายได้ถึงสองคน อย่างไรเสียต้องอุบายและเก่งกว่าเจ้าแน่นอน”
“พี่ใหญ่ชมข้าหน่อยจะเป็นไรไป?” หรงฉานแบะปาก “จะว่าไปนางก็น่าสงสารเหมือนกันนะ ถ้าฉู่อวิ๋นหลิงไม่เข้าไปแทรก นางก็ได้แต่งงานกับจิ้งอ๋องแล้ว ไม่ต้องเป็นพระชายารองของรุ่ยอ๋องเหมือนในตอนนี้”
บุรุษหัวเราะเยาะเสียงเบา “เจ้ารู้ได้เยี่ยงใดว่าฉู่อวิ๋นหลิงเข้าไปแทรก แต่ไม่ใช่เพราะนางไม่อยากแต่งงาน?”
หรงฉานตกใจ “เหตุใดพี่ใหญ่จึงบอกว่าฉู่อวิ๋นหานไม่อยากแต่งงานกับจิ้งอ๋องเจ้าคะ?”
ฉู่อวิ๋นหานรักจิ้งอ๋องมาก ตอนที่จิ้งอ๋องตาบอดก็ดูแลไม่ห่าง ไม่ใช่หรือ?
คนทั้งแคว้นต้าโจวรู้ดี!
บุรุษถอนหายใจราวกับจนปัญญา จากนั้นก็กล่าวเสียงเย็นเยียบ “เอาเวลาสงสารคนอื่นมากังวลใจแทนตัวเองดีกว่าไหม สมองหมูๆเช่นเจ้า หากแต่งออกเรือนแล้วต้องลำบากแน่”
ใบหน้าที่ผลิบานไปด้วยรอยยิ้มของหรงฉานขมวดคิ้วแน่นเป็นปม พี่ชายหน้าตาหล่อจนคนมองหัวใจละลายได้เลย แต่คำพูดกลับเหมือนคมดาบที่เชือดใจคน
สุดท้ายก็มองฉู่อวิ๋นหานปราดหนึ่ง รถม้าของสองพี่น้องก็ค่อยๆไกลออกไป
เมื่อฉู่อวิ๋นหานเห็นรถม้าของจวนเจิ้นกั๋วกงหายลับไปจากสายตา นางก็หยุดบริจาคข้าวต้มในวันนี้
ถึงแม้ยังไม่ได้เจอหน้าคนตระกูลหรงอย่างเป็นทางการ แต่สร้างภาพลักษณ์อันดีงามให้อีกฝ่ายล่วงหน้าเช่นนี้ได้ ถือว่านางบรรลุเป้าหมายแล้ว
......
ข้างถนนหน้าโรงหมอ อวิ๋นหลิงเลือกซื้อสมุนไพรที่สนใจจำนวนไม่น้อย
ประการแรกจะได้นำไปใช้เป็นวัตถุดิบปรุงยาพิษเพื่อฆ่าเวลาตอนเบื่อๆ ประการที่สองจะได้นำไปทำเป็นสีที่ไม่มีผลข้างเคียงต่อใบหน้าและกันน้ำ นางจะเอามาทำเป็นปานแดงหลอกคน
ยามที่ตงชิงจ่ายเงินเสร็จ หน้าประตูโรงหมอก็มีเสียงเร่งเฝ้าอันยุ่งเหยิงดังขึ้น จากนั้นก็ได้ยินสตรีร้องไห้ด้วยความกลุ้มอกกลุ้มใจ
“มีใครอยู่ไหม ท่านหมออยู่หรือเปล่า ช่วยพี่ใหญ่ข้าที”
เมื่อได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือ ท่านหมอที่นั่งตรวจอาการก็รีบออกมาต้อนรับ อวิ๋นหลิงก็เข้าไปมุงดูด้วยความอยากรู้
ม่านหรูหราของรถม้าเปิดออก บุรุษหน้าตาหล่อเหลา สง่างาม เรือนผมดกดำดุจน้ำหมึกถูกผู้อื่นพยุงออกมา
หนุ่มหล่อขมวดคิ้วในขณะที่หลับตา ริมฝีปากซีดขาวยิ่ง
ทั้งๆที่เป็นบุรุษ แต่สมองของอวิ๋นหลิงกลับนึกถึงสตรีที่ป่วยออดๆแอดๆ
ตงชิงปิดปากแล้วอุทานเสียงเบา “พระชายา คนนี้คือหรงจั้น เป็นรัฐทายาทของจวนเจิ้นกั๋วกงเพคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...
ชอบมากเลยค่ะ นางเอกเก่ง❤...