พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 62

อวิ๋นหลิงจับไหล่ของหรงจั้นแล้วดึงคอเสื้อเขาเข้าหากันอย่างเบามือ

“อย่าขยับ ซี่โครงของเจ้าหักแล้ว”

ได้ยินดังนั้นหรงจั้นจึงจะสัมผัสความเจ็บที่ส่งมาทางหน้าอก หน้าผากก็มีเหงื่อซึมออกมา

แม้จะเจ็บปวดเพียงใด เขาก็กัดฟันทน ไม่ส่งเสียงร้องสักคำ ความอดทนนี้ต่างจากใบหน้าอันอ่อนแอของเขาราวฟ้ากับเหวเลย

หรงฉานวิ่งเข้ามาด้วยความซาบซึ้งใจ พูดเสียงสะอื้น “พี่ชาย เมื่อครู่หรงเอ๋อร์ตกใจมากเลย”

“ไม่ต้องร้องแล้ว ข้าไม่เป็นอะไร” ใบหน้าที่ดูดีขึ้นของหรงจั้นปลอบใจน้องสาวเสียงเบา

จากนั้นก็มองอวิ๋นหลิงด้วยดวงตาสุกใส “ข้าน้อยชื่อหรงจั้น ขอบคุณที่แม่นางช่วยชีวิตไว้ ข้ารู้สึกซาบซึ้งใจยิ่ง”

“เรื่องเล็กน้อยไม่ต้องเกรงใจ” อวิ๋นหลิงแย้มยิ้มแล้วถามว่า “ไยอาการท่านถึงกำเริบกะทันหันเยี่ยงนี้?”

“ร่างกายพี่ชายข้าอ่อนแอแต่กำเนิด อันนี้เป็นโรคประจำตัวของเขา” หรงฉานปาดน้ำตา พลางอธิบาย “ปกติพี่ชายกินยาตลอด สองปีมานี้อาการไม่ค่อยกำเริบ ใครจะเป็นรู้ว่าวันนี้จะกำเริบได้”

และบังเอิญเขาไม่ได้พกยามาด้วย ระหว่างทางส่งตัวมายังโรงหมอก็ใช้เวลา จึงส่งผลให้อาการสาหัสถึงขั้นนี้ ทำให้หรงฉานกังวลแทบแย่

“ปกติเวลาไปไหนมาไหนควรพกยาติดตัวด้วย” อวิ๋นหลิงพยักหน้า “ต้องขออภัยด้วย ตอนที่ข้าช่วยท่าน ข้าทำกระดูกซี่โครงของท่านหักแล้ว ช่วงนี้คงต้องนอนพักผ่อนบนเตียงอย่างเดียว ขออภัยด้วยจริงๆ”

หัวใจเขาหยุดเต้นกะทันหัน คิดว่าหัวใจเขาน่าจะมีปัญหา มิน่าล่ะท่าทางจึงเหมือนผู้ป่วยกระเสาะกระแสะ

คนเราไม่อาจคาดเดาเวลาโรคหัวใจกำเริบได้เลย

หรงจั้นได้ยินก็ส่ายหน้าเบาๆ “แม่นางเกรงใจแล้ว ข้าน้อยรู้สึกขอบคุณมากกว่า”

หรงฉานสูดจมูกแล้วยิ้มอย่างดีใจ “ข้าชื่อหรงฉาน คนนี้พี่ชายข้าชื่อหรงจั้น แม่นางเป็นใคร ชื่ออะไรเจ้าคะ?”

เมื่อเห็นตงชิงส่งสายตาตักเตือนมาให้ อวิ๋นหลิงแย้มยิ้มแล้วตอบว่า “ข้าชื่อหลินอวิ๋น เรียกข้าว่าแม่นางหลินก็ได้”

หลินอวิ๋น

หรงจั้นท่องชื่อนี้ในใจ

ใบหน้าหรงฉานเปี่ยมไปด้วยความสงสัย จ้องนางแบบไม่ละสายตา “แม่นางหลิน เจ้าสวยเหมือนเทพธิดาเลย เดิมทีข้าคิดว่าบนโลกใบนี้ไม่มีใครหน้าตาดีกว่าพี่ชายข้าแล้ว แต่หน้าตาเจ้าดีกว่าพี่ชายใหญ่”

สตรีรูปงามเช่นนี้ ไยไม่เคยได้ยินชื่อนี้ในเมืองหลวงเลย?

อวิ๋นหลิงยกริมฝีปากกล่าวด้วยความเกรงใจ “ใต้หล้าต่างชมว่ารัฐทายาทรูปงาม วันนี้เห็นแล้วก็ไม่ธรรมดาจริงๆ”

บุรุษผู้นี้เหมือนหยกงามไร้ที่ติ แตกสลายง่าย ต่างจากเซียวปี้เฉิงคนหน้าเหล็กอย่างลิบลับ

ปกติหรงจั้นจะรู้สึกรำคาญเมื่อมีคนมาชมรูปลักษณ์ของเขา แต่ครั้งนี้ได้ยินอวิ๋นหลิงชมเช่นนี้ก็ไม่รู้สึกรำคาญเลยสักนิด

ในใจเกิดความรู้สึกฉงนสนเท่ห์ เขาอดถามไม่ได้ “จวนแม่นางอยู่ที่ใด? หากข้ามีโอกาสจะไปเยี่ยมถึงจวนเลย”

เวลาคนเรากลัวอะไรก็มักจะเจอสิ่งนั้นประจำ อวิ๋นหลิงได้ยินคำถามของเขาแล้วก็ยิ้มพูดลอยๆ “จวนข้าอยู่ทิศตะวันออกของเมืองหลวง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือรัฐทายาทหรงต้องรักษาตัว ไม่จำเป็นต้องไปเยี่ยมข้าหรอก”

“ใกล้จะค่ำแล้ว ข้ามีผู้ป่วยที่ต้องดูแลในจวน ไม่รบกวนพวกท่านสองคนแล้ว”

กล่าวจบ อวิ๋นหลิงก็สั่งให้ตงชิงถือสมุนไพรห่อใหญ่ขึ้น จากนั้นก็อำลาด้วยความเร่งรีบ

หรงฉานจ้องแผ่นหลังนาง ผ่านไปเนิ่นนานถึงจะละสายตากลับมา “แม่นางหลินรีบกลับจริงๆ ยังไม่ได้บอกที่อยู่เลย”

เมื่อนางหันมามองหรงจั้น ก็เห็นเขายังคงมองทิศทางที่อวิ๋นหลิงจากไปอย่างเหม่อลอย

“พี่ใหญ่ นางไปแล้วพี่มองอะไรอีก? หลงความงามของแม่นางหลินเข้าแล้วสิท่า?”

แม้จะเป็นคำหยอกล้อ แต่หรงฉานก็ลอบพูดในใจว่าแม่นางผู้นี้สวยจริงๆ แม้จะเป็นผู้หญิงด้วยกันยังดึงดูดสายตาได้เพียงนี้

เมื่อหรงจั้นหลุดออกจากภวังค์ สองแก้มแดงเล็กน้อย จากนั้นก็เลิกคิ้วกล่าว “อย่ามัวแต่อึ้งอยู่เลย เจ้าอยากให้ข้าอยู่ในโรงหมอนานแค่ไหน ยังไม่รีบส่งคนไปแจ้งที่จวนอีก”

หรงฉานตบหน้าผากตัวเองพร้อมกับแลบลิ้น เมื่อครู่นางกระวนกระวายใจจนทำตัวไม่ถูก ลืมเรื่องนี้ไปเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ