กงจื่อโยวเอ่ยอย่างเร่งเร้าว่า “อย่าพูดเรื่องไร้สาระกับนางอีกเลย รีบจับตัวผู้หญิงคนนี้ไปขังคุกรับโทษทัณฑ์ อย่าให้นางได้ออกมาทำร้ายคนอื่นอีก”
เฟิงอิ๋งอิ๋งได้ยินคำพูดประโยคนี้ มองเขาด้วยความเสียใจและความแค้นใจ เอ่ยอย่างโมโหว่า “เสียแรงที่ท่านกับข้ารู้จักกันมาหลายปี ข้ามีความรักให้ท่านเต็มหัวใจ แต่ท่านกลับเย็นชาไร้เยื่อใยถึงเพียงนี้”
“มีความรักเต็มหัวใจอย่างนั้นหรือ อย่าดูถูกคำเหล่านี้จะดีกว่า เจ้าก็แค่เอาตัวเองเป็นใหญ่ อยากจะให้ช้าเชื่อฟังเจ้าก็เท่านั้น”
กงจื่อโยวรู้สึกเหมือนตัวเองได้ยินเรื่องที่น่าขันที่สุดในโลก บางทีอาจเป็นเพราะฝึกฝนวิชาควบคุมวิญญาณมานาน เขาจึงรู้สึกมาตลอดว่าเฟิงอิ๋งอิ๋งสติไม่ค่อยปกติ เคยรับรู้ได้เพียงความหวาดระแวงและคลุ้มคลั่งราวกับหมกมุ่นในอวิชชา
สำหรับหญิงคนนี้แล้ว เขานับถือแต่อยู่ห่างๆเสมอมา
“มีความรักให้ข้าเต็มหัวใจ แต่อยากจะวางยาพิษให้ข้าตาบอด ตัดขาข้าให้ขาด หรือไม่ก็อยากจะเปลี่ยนข้าให้เป็นหุ่นเชิดที่ไร้สติปัญญา เก็บข้าไว้ข้างกายเหมือนวัตถุชิ้นหนึ่งอย่างนั้นหรือ”
ได้ยินถึงตรงนี้ คนอื่นๆต่างก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห็นใจกงจื่อโยวขึ้นมา เจ้าหมอนี่เมื่อก่อนต้องพบเจอกับเรื่องร้ายๆอะไรมาบ้าง
เฟิงอิ๋งอิ๋งกัดริมฝีปากก่อนจะพูดว่า “ข้าก็ไม่ได้อยากจะทำกับท่านเช่นนั้น แต่ใครใช้ให้ท่านไม่เชื่อฟัง ถ้าหากท่านยอมเชื่อฟังแต่โดยดี ข้าคงไม่จำเป็นต้องใช้วิธีเหล่านั้นกับท่าน”
กงจื่อโยวอดไม่ได้ที่จะขนลุกซู่ขึ้นมา “เอาเป็นว่าไมตรีจิตนี้ข้าคงไร้วาสนาจะได้รับ ใครยินดีก็ให้คนนั้นเถอะ”
ดวงตาของเฟิงอิ๋งอิ๋งมีโทสะวาบผ่าน กัดฟันพูดว่า “เหมือนที่ท่านแม่พูดไว้ไม่มีผิด ผู้ชายไม่มีดีสักคน ล้วนชอบล้อเล่นกับความรู้สึก ควรจะเอาไปเลี้ยงแมลงให้หมด”
อวิ๋นหลิงได้ยินถึงตรงนี้ แม้จะเป็นการพบเฟิงอิ๋งอิ๋งครั้งแรก ก็รับรู้ได้ว่าคนคนนี้สมองไม่ปกติ
ทั้งๆที่นางเป็นฝ่ายตามตื๊อกงจื่อโยวฝ่ายเดียวไม่ยอมปล่อย แต่กลับพูดเหมือนถูกผู้ชายสารเลวรังแกอย่างไรอย่างนั้น น่าจะเปลี่ยนชื่อเป็นเฟิงอิ๋งอิ๋งคนบ้าจึงจะถูกต้อง
หลังจากที่เฟิงอิ๋งอิ๋งพูดจบแล้ว ก็ล้วงเอานกหวีดที่ทำจากกระดูกรูปร่างพิเศษออกมา ใช้แรงเป่าให้ดัง
เสียงเล็กแหลมของนกหวีดดังก้องไปทั่วทั้งฟ้ายามราตรีที่เงียบสงัด ดังไปถึงตรอกซอกซอยที่อยู่ห่างจากจวนอ๋องจินไปไกลมาก
ไม่ช้า อวิ๋นหลิงก็รับรู้ได้ด้วยพลังจิต มีสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล่องแคล่วว่องไวมากกำลังมุ่งตรงมาที่นี่ด้วยความเร็ว
……
นอกจวนอ๋องจิน บนถนนจูเชี่ย
ผู้คนข้างถนนกำลังพูดคุยถึงเรื่องงานแต่งงานในวันนี้อย่างตื่นเต้นดีใจ ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในจวนอ๋องจินเลยแม้แต่น้อย
เสิ่นชิ่นพร้อมด้วยท่านป้าเฉียวและจั๋วเอ๋อร์ กำลังจะไปร่วมงานเลี้ยงริมถนนที่จัดขึ้นบริเวณหัวมุมถนน คืนนี้ไม่ต้องทำอาหารค่ำแล้ว
มือของจั๋วเอ๋อร์ถือลูกอมมงคลเอาไว้ กระโดดโลดเต้นอยู่ข้างหน้า
เวลานี้เอง ได้ยินเสียงนกหวีดดังขึ้นมาแต่ไกล ทันใดนั้นก็มีเงาร่างสูงใหญ่สายหนึ่งกระโดดลงมาจากหลังคาบ้านที่อยู่ข้างๆ ลงสู่พื้นตรงหน้าอย่างมั่นคง
เด็กน้อยเห็นคนที่อยู่ตรงหน้า ก็ตกใจจนล้มลงกับพื้น ร้องตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นและหวาดกลัว
“ท่านย่า ท่านย่า มีปีศาจ......”
แต่ชายหนุ่มไม่มองเขาแม้แต่แวบเดียว แต่มุ่งตรงไปยังจวนอ๋องจินด้วยใบหน้านิ่งเฉยอย่างรวดเร็ว
เสิ่นชิ่นได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ ก็หันไปมองอย่างไม่ตั้งใจ พบว่าเป็นชายหนุ่มสวมชุดสีดำทั้งตัวสวมหมวดโดยมีผ้าคลุมปิดบังใบหน้าไว้กึ่งหนึ่ง ร่างกายเต็มไปด้วยไอสังหาร
เสี้ยววินาทีที่เดินสวนกัน นางเห็นใบหน้าใต้หมวกนั้นอย่างชัดเจน ม่านตาหดลง
เลือดในร่างกายสูบไหลเวียนกลับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...