เสียงปังดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว ปืนคาบศิลาถูกยิงขึ้นฟ้าหนึ่งนัด อวิ๋นหลิงมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
เห็นว่าเสิ่นทัวชักดาบออกมาจากเอวพุ่งตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว เซียวปี้เฉิงไม่ทันอธิบาย มือใหญ่คว้าเอวของนางหลบไปด้านข้างอย่างทันท่วงที
เสียงสิ่งของแตกหักดังขึ้น ประตูไม้ของเรือนวั่งซูแตกละเอียดเต็มพื้นทันที
กงจื่อโยวมองประตูบ้านของตนเองถูกทำลาย รู้สึกเจ็บใจมาก แทบอยากจะเข้าไปแล่เนื้อเถือหนังของเฟิงอิ๋งอิ๋ง
เขากอดหลงเย่เอาไว้แน่น “หลงเอ๋อร์เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม”
หลงเย่ส่ายหน้า เพียงแต่มองไปยังสองสามีภรรยาอวิ๋นหลิงด้วยความสงสัย
หลังจากเซียวปี้เฉิงยืนอย่างมั่นคงแล้ว ก็เอ่ยเสียงต่ำด้วยสีหน้าหนักอึ้งว่า “พวกเราฆ่าเขาไม่ได้ นั่นเป็นพี่ชายของเสิ่นชิ่นชื่อเสิ่นทัว”
ทำไมเขาถึงนึกไม่ออก หกปีก่อนหลังจากที่เสิ่นทัวหายไปจากสนามรบ คิดไม่ถึงว่าจะถูกชาวเหมียวนำตัวไปทำเป็นหุ่นเชิดมนุษย์มีพิษ
เมื่อได้ยินประโยคนี้ อวิ๋นหลิงสีหน้าตกตะลึง “พี่ชายของอาชิ่น”
นางรีบเก็บปืนคาบศิลาทันที ขมวดคิ้วแน่น
“ให้ตายเถอะ”
เสวียนจีที่อยู่อีกมุมหนึ่งอุทานออกมา มองดูประตูที่แตกละเอียดพร้อมจุ๊ปาก “สวรรค์ พลังในการเร่งความเร็วเช่นนี้ มันไม่ใช่คนแล้ว”
เมื่อครู่ตอนที่เสิ่นทัวโจมตีเข้ามา นางเกือบจะไม่ทันได้ตั้งตัว โชคดีที่เฟิ่งเหมียนจับคอเสื้อด้านหลังของนางเอาไว้ ดึงตัวนางออกไป
เฟิ่งเหมียนสีหน้าเคร่งขรึม ปกป้องนางเอาไว้ด้านหลังอย่างมั่นคง จ้องมองชายหนุ่มหุ่นเชิดที่ราวกับสัตว์ประหลาดอย่างระแวง
อวิ๋นหลิงรู้สึกลำบากใจขึ้นมาทันที พวกนางเคยได้รับการฝึกพิเศษ แต่สมรรถภาพของร่างกายไม่ได้เกินขีดจำกัดของมนุษย์ เมื่อเผชิญกับศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ในบรรดาพี่น้องเกรงว่าคงจะมีแต่หลิวฉิงที่สามารถต่อกรได้
แม้จะมีพลังจิตที่ร้ายกาจ แต่เมื่อเผชิญกับสิ่งมีชีวิตที่ไร้ซึ่งสติปัญญา ผลที่ได้จะลดลงอย่างมาก
ถ้าอยากจะจับเป็นเสิ่นทัว เป็นเรื่องยากมากทีเดียว
ฉวยโอกาสตอนที่พวกอวิ๋นหลิงกำลังนิ่งอึ้ง เสิ่นทัวถือดาบบุกโจมตีอีกครั้ง แม้ว่าดวงตาของเขาจะมืดมนไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ รูปร่างที่สูงใหญ่กำยำและพลังที่แข็งแกร่งกลับเหมือนสัตว์ป่าตัวหนึ่ง
เซียวปี้เฉิงเตรียมพร้อมตั้งแต่ต้นแล้ว เก็บดาบใบหญ้าที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา เข้าประจันหน้าต่อสู้
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ มีเพียงเขาที่เคยผ่านสนามรบ มีฝีมือพอที่จะสามารถรับมือกับเสิ่นทัวที่ได้กลายเป็นสัตว์ประหลาดไปแล้ว
ความแข็งแกร่งอย่างอมนุษย์ของเสิ่นทัวหนักอึ้งราวกับก้อนหินมหึมา ไม่ได้รับผลกระทบจากควันพิษเลยแม้แต่น้อย ตอนที่เซียวปี้เฉิงรับดาบรู้สึกได้ถึงง่ามนิ้วที่สั่นเทาขึ้นมาเล็กน้อย
ดีที่เขามีวรยุทธยอดเยี่ยม จึงไม่ได้เสียเปรียบ
เสิ่นทัวเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่ได้พบกับคู่ต่อสู้ที่ต่อกรกับตนเองได้ เอียงศีรษะเล็กน้อย หันเป้าหมายไปยังร่างของเซียวปี้เฉิง
“หลิงเอ๋อร์ เจ้าใช้ปืนคาบศิลายิงที่ขาทั้งสองข้างของเขา”
อวิ๋นหลิงพยักหน้าด้วยสีหน้าหนักอึ้ง กลั้นลมหายใจเล็งไปที่ขาของเสิ่นทัว ไม่ยอมเหนี่ยวไกเสียที
เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วมาก ต่อสู้โรมรันกับเซียวปี้เฉิงอย่างแยกไม่ออก ทั้งสองว่องไวราวกับเสือชีตาห์ ถ้าไม่ระวังอาจยิงพลาดก็ได้
เวลานี้ อวิ๋นหลิงรู้สึกจิตใจหนักอึ้ง เดิมทีได้เตรียมการจะจับเป็นเฟิงอิ๋งอิ๋ง และรวบทุกคนที่เกี่ยวข้องให้หมด
ใครจะไปคิดว่า การปรากฏตัวของเสิ่นทัวจะทำให้แผนการที่วางไว้แล้วพังทลายลงอย่างไม่ทันตั้งตัว
เห็นพวกเขาต่อสู้กันอย่างดุเดือด เฟิงอิ๋งอิ๋งสะบัดอาวุธลับออกไป ไม่กี่ครั้งก็กระโดดขึ้นไปบนกำแพง หัวเราะเสียงเย็น
“ยิงขาทั้งสองข้างก็ไร้ประโยชน์ นอกเสียจากเจ้าจะตัดหัวเขาลงมา มิเช่นนั้นเขาจะต่อสู้จนตาย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...