พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 650

แต่เมื่อตกลงกันแล้ว อวิ๋นหลิงก็ได้แต่ส่งไป๋ชวนให้เย่ซานอีก กำชับให้เขาจับตาดูอีกฝ่าย เร่งแปลสมุดบันทึกมนุษย์พิษ

ถึงตอนนี้เรื่องราวนับว่าคลี่คลายไปเปลาะหนึ่ง ไส้ศึกชาวเหมียวถูกลงโทษจำคุกทั้งหมด

การวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเซ็งแซ่ในเมืองหลวงถึงสองวันเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ชาวเหมียวลอบโจมตีจวนจินอ๋องอย่างไม่คาดคิดนั้น กระแสก็ค่อยๆ เพลาลง

อวิ๋นหลิงหันกลับมาสนใจผู้บาดเจ็บหลายรายในจวนจินอ๋อง

“อาการบาดเจ็บของพี่ใหญ่เสิ่นทัวดีขึ้นแล้ว แต่สภาพจิตใจยังปั่นป่วนไม่คงที่ พี่ใหญ่บอกว่าทางที่ดีควรรอให้เขาสงบสติอารมณ์ลงสักสองสามวันก่อนแล้วค่อยไปเยี่ยม จะได้ไม่ไปกระตุ้นอารมณ์เขา”

เสิ่นชิ่นพยักหน้าอย่างซาบซึ้ง “ข้ารู้แล้ว จะไม่วู่วามไปรบกวนพระชายาจินอ๋อง”

หลงเย่วางแผนจะผ่าตัดสมองให้เสิ่นทัว

เดิมทีเขาเป็นเพียงหุ่นเชิดที่ไม่มีสติรับรู้ หลังจากเผชิญเรื่องร้ายและฝึกฝนมาหลายปี นอกจากรักษาตามสัญญาณชีพอย่างกินข้าวนอนหลับและเข้าห้องน้ำแล้ว เขาก็ไม่ได้ติดต่อกับโลกภายนอกแต่อย่างใด

ทว่านับตั้งแต่ได้มาเจอกับเสิ่นชิ่นอีกครั้ง เสิ่นทัวก็กลับมารู้สึกตัวได้บ้าง

ยามวิหคสยายปีกบนท้องนภาสีคราม นัยน์ตาเขาจะเหม่อลอย ยามลูกพลับในลานบ้านร่วงหล่น เขาก็เงยหน้าขึ้นมอง

หลงเย่กระซิบ “ตอนประมือกับฟงอิ๋งอิ๋งก่อนหน้านี้ เสิ่นทัวไม่มีปฏิกิริยาเหล่านี้ เป็นเหมือนหุ่นยนต์ที่ตั้งโปรแกรมไว้ จะทำงานต่างๆ ตามคำสั่งของระบบเท่านั้น อาการในยามนี้ถือเป็นการเริ่มต้นนิมิตหมายอันดี”

อวิ๋นหลิงถามนางว่า “พี่มีวิธีอย่างนั้นหรือ”

หลงเย่พยักหน้า ขบคิดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “พี่คิดว่าจะลบความทรงจำรองของเขาได้ ก็คืออาศัยพลังจิตสะกดจิต ทำให้เขาลืมคำสั่งต่างๆ ที่ฟงอิ๋งอิ๋งทิ้งไว้บนตัวเขาให้หมดไป”

“แล้วจะทิ้งผลข้างเคียงไว้หรือเปล่า”

“ถ้ามีผลข้างเคียง เขาจะกลายเป็นคนโง่...ไม่ใช่ปัญญาอ่อนในความหมายกว้างๆ สมองเล็กหรือใหญ่ของเขาไม่มีอะไรผิดปกติ พูดให้เข้าใจง่ายมากขึ้น เขาจะกลายเป็นกระดาษเปล่า”

กระดาษเปล่าเหมือนทารกแรกเกิด

เขาจะลืมหลายๆ อย่างเช่นไม่รู้ว่าจะเรียกคนในครอบครัวว่าอะไร ความหมายแฝงของคำว่าพี่ชายกับน้องสาวคืออะไร

ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเริ่มต้นเรียนรู้กันใหม่

อวิ๋นหลิงพูดอย่างเป็นกังวล “พี่หมายความว่าชาตินี้เขาจะจำอดีตไม่ได้อีก แล้วจะจำไม่ได้ว่าอาชิ่นเป็นน้องสาวของเขาด้วยใช่หรือไม่”

หลงเย่นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “ไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ที่จะฟื้นตัว แต่ความน่าจะเป็นอาจน้อยกว่าหนึ่งในหมื่น”

หากบังคับให้เสิ่นทัวนึกถึงอดีต มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะเสียจิตและกลายเป็นคนบ้า

ดังนั้นหลงเย่จึงมีแนวโน้มจะลบความทรงจำทั้งหมดของเขาทิ้งไป อย่างน้อยวิธีนี้ก็รับประกันได้เต็มร้อยว่าเขาจะไม่เสียสติ

หลังจากเสิ่นชิ่นรู้ข่าว ก็ตะลึงงันอยู่พักใหญ่ แต่สงบอารมณ์เร็วกว่าที่คิดไว้มาก

ครู่ใหญ่กว่าๆ นางคลี่ยิ้มเล็กน้อย กล่าวขอบคุณอวิ๋นหลิงกับพี่สาว

“พี่ชายกลับมาหาข้าได้ถือว่าสวรรค์คุ้มครอง จะจำข้าไม่ได้อีกก็ไม่เป็นไร…ขอเพียงเขายังมีชีวิตอยู่เคียงข้างข้าได้ ข้าก็ไม่กล้าขอสิ่งใดไปมากกว่านี้แล้ว”

ชีวิตคนเราระทมทุกข์เหลือเกิน ความจริงนางก็ไม่ได้โลภ ขอแค่พึงพอใจเพียงเล็กน้อยก็รู้สึกว่าชีวิตนั้นหวานชื่นแล้ว

ได้ยินเช่นนี้ หลงเย่เองก็อดชื่นชมจิตใจของสตรีตรงหน้ามิได้

สายตาของนางจับจ้องไปยังเสิ่นชิ่น อีกฝ่ายวัยยี่สิบต้นๆ แต่นัยน์ตาเจือร่องรอยของกาลเวลาที่ผ่านมรสุมมาแสนเข็ญ

อาภรณ์สีหัวผักกาดอมม่วงพันรอบเรือนร่างบอบบาง เผยให้เห็นความทรหดอดทนดุจต้นสนสีเขียวและต้นไผ่อันแข็งแกร่ง

“พวกเราจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเขา”

นี่คือคำมั่นสัญญาที่อวิ๋นหลิงกับพี่สาวให้กับเสิ่นชิ่น

ไต้ซือผู้ลึกลับส่งหินอุกกาบาตที่หายไปมาให้ หลงเย่ต้องอุ่นเครื่องพลังจิตสักพัก ก่อนจะผ่าตัดสมองอย่างเป็นทางการ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ