แต่เมื่อตกลงกันแล้ว อวิ๋นหลิงก็ได้แต่ส่งไป๋ชวนให้เย่ซานอีก กำชับให้เขาจับตาดูอีกฝ่าย เร่งแปลสมุดบันทึกมนุษย์พิษ
ถึงตอนนี้เรื่องราวนับว่าคลี่คลายไปเปลาะหนึ่ง ไส้ศึกชาวเหมียวถูกลงโทษจำคุกทั้งหมด
การวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเซ็งแซ่ในเมืองหลวงถึงสองวันเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ชาวเหมียวลอบโจมตีจวนจินอ๋องอย่างไม่คาดคิดนั้น กระแสก็ค่อยๆ เพลาลง
อวิ๋นหลิงหันกลับมาสนใจผู้บาดเจ็บหลายรายในจวนจินอ๋อง
“อาการบาดเจ็บของพี่ใหญ่เสิ่นทัวดีขึ้นแล้ว แต่สภาพจิตใจยังปั่นป่วนไม่คงที่ พี่ใหญ่บอกว่าทางที่ดีควรรอให้เขาสงบสติอารมณ์ลงสักสองสามวันก่อนแล้วค่อยไปเยี่ยม จะได้ไม่ไปกระตุ้นอารมณ์เขา”
เสิ่นชิ่นพยักหน้าอย่างซาบซึ้ง “ข้ารู้แล้ว จะไม่วู่วามไปรบกวนพระชายาจินอ๋อง”
หลงเย่วางแผนจะผ่าตัดสมองให้เสิ่นทัว
เดิมทีเขาเป็นเพียงหุ่นเชิดที่ไม่มีสติรับรู้ หลังจากเผชิญเรื่องร้ายและฝึกฝนมาหลายปี นอกจากรักษาตามสัญญาณชีพอย่างกินข้าวนอนหลับและเข้าห้องน้ำแล้ว เขาก็ไม่ได้ติดต่อกับโลกภายนอกแต่อย่างใด
ทว่านับตั้งแต่ได้มาเจอกับเสิ่นชิ่นอีกครั้ง เสิ่นทัวก็กลับมารู้สึกตัวได้บ้าง
ยามวิหคสยายปีกบนท้องนภาสีคราม นัยน์ตาเขาจะเหม่อลอย ยามลูกพลับในลานบ้านร่วงหล่น เขาก็เงยหน้าขึ้นมอง
หลงเย่กระซิบ “ตอนประมือกับฟงอิ๋งอิ๋งก่อนหน้านี้ เสิ่นทัวไม่มีปฏิกิริยาเหล่านี้ เป็นเหมือนหุ่นยนต์ที่ตั้งโปรแกรมไว้ จะทำงานต่างๆ ตามคำสั่งของระบบเท่านั้น อาการในยามนี้ถือเป็นการเริ่มต้นนิมิตหมายอันดี”
อวิ๋นหลิงถามนางว่า “พี่มีวิธีอย่างนั้นหรือ”
หลงเย่พยักหน้า ขบคิดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “พี่คิดว่าจะลบความทรงจำรองของเขาได้ ก็คืออาศัยพลังจิตสะกดจิต ทำให้เขาลืมคำสั่งต่างๆ ที่ฟงอิ๋งอิ๋งทิ้งไว้บนตัวเขาให้หมดไป”
“แล้วจะทิ้งผลข้างเคียงไว้หรือเปล่า”
“ถ้ามีผลข้างเคียง เขาจะกลายเป็นคนโง่...ไม่ใช่ปัญญาอ่อนในความหมายกว้างๆ สมองเล็กหรือใหญ่ของเขาไม่มีอะไรผิดปกติ พูดให้เข้าใจง่ายมากขึ้น เขาจะกลายเป็นกระดาษเปล่า”
กระดาษเปล่าเหมือนทารกแรกเกิด
เขาจะลืมหลายๆ อย่างเช่นไม่รู้ว่าจะเรียกคนในครอบครัวว่าอะไร ความหมายแฝงของคำว่าพี่ชายกับน้องสาวคืออะไร
ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเริ่มต้นเรียนรู้กันใหม่
อวิ๋นหลิงพูดอย่างเป็นกังวล “พี่หมายความว่าชาตินี้เขาจะจำอดีตไม่ได้อีก แล้วจะจำไม่ได้ว่าอาชิ่นเป็นน้องสาวของเขาด้วยใช่หรือไม่”
หลงเย่นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “ไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ที่จะฟื้นตัว แต่ความน่าจะเป็นอาจน้อยกว่าหนึ่งในหมื่น”
หากบังคับให้เสิ่นทัวนึกถึงอดีต มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะเสียจิตและกลายเป็นคนบ้า
ดังนั้นหลงเย่จึงมีแนวโน้มจะลบความทรงจำทั้งหมดของเขาทิ้งไป อย่างน้อยวิธีนี้ก็รับประกันได้เต็มร้อยว่าเขาจะไม่เสียสติ
หลังจากเสิ่นชิ่นรู้ข่าว ก็ตะลึงงันอยู่พักใหญ่ แต่สงบอารมณ์เร็วกว่าที่คิดไว้มาก
ครู่ใหญ่กว่าๆ นางคลี่ยิ้มเล็กน้อย กล่าวขอบคุณอวิ๋นหลิงกับพี่สาว
“พี่ชายกลับมาหาข้าได้ถือว่าสวรรค์คุ้มครอง จะจำข้าไม่ได้อีกก็ไม่เป็นไร…ขอเพียงเขายังมีชีวิตอยู่เคียงข้างข้าได้ ข้าก็ไม่กล้าขอสิ่งใดไปมากกว่านี้แล้ว”
ชีวิตคนเราระทมทุกข์เหลือเกิน ความจริงนางก็ไม่ได้โลภ ขอแค่พึงพอใจเพียงเล็กน้อยก็รู้สึกว่าชีวิตนั้นหวานชื่นแล้ว
ได้ยินเช่นนี้ หลงเย่เองก็อดชื่นชมจิตใจของสตรีตรงหน้ามิได้
สายตาของนางจับจ้องไปยังเสิ่นชิ่น อีกฝ่ายวัยยี่สิบต้นๆ แต่นัยน์ตาเจือร่องรอยของกาลเวลาที่ผ่านมรสุมมาแสนเข็ญ
อาภรณ์สีหัวผักกาดอมม่วงพันรอบเรือนร่างบอบบาง เผยให้เห็นความทรหดอดทนดุจต้นสนสีเขียวและต้นไผ่อันแข็งแกร่ง
“พวกเราจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเขา”
นี่คือคำมั่นสัญญาที่อวิ๋นหลิงกับพี่สาวให้กับเสิ่นชิ่น
ไต้ซือผู้ลึกลับส่งหินอุกกาบาตที่หายไปมาให้ หลงเย่ต้องอุ่นเครื่องพลังจิตสักพัก ก่อนจะผ่าตัดสมองอย่างเป็นทางการ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...