พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 66

สรุปบท ตอนที่ 66 พระเจ้าหลวงผู้ทรงอำนาจ!: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 66 พระเจ้าหลวงผู้ทรงอำนาจ! – พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ โดย Anchali

บท ตอนที่ 66 พระเจ้าหลวงผู้ทรงอำนาจ! ของ พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายโรแมนติกโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Anchali อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ในช่วงเวลาที่สำคัญ อวิ๋นหลิงแตะลูกศรที่แขนเสื้ออย่างรวดเร็ว

เข็มพิษมีผลทำให้เป็นอัมพาต เพียงแต่ม้าคลั่งตัวนี้อยู่ห่างไกลออกไปเล็กน้อย จึงไม่รู้ว่าจะโดนมันได้หรือไม่

ขณะที่กำลังจะเหนี่ยวไก กลับเห็นแสงเย็นวาบต่อหน้าต่อตาของตน ร่างผอมที่คุ้นเคยกระโดดออกมาข้างหน้าจากรถม้า แล้วยกแขนบางของอวิ๋นหลิงให้ยกขึ้นสูง

ภายใต้ดวงอาทิตย์ที่แผดเผา ใบมีดส่องแสงเย็นพร่างพราว

ดวงตาของอวิ๋นหลิงมืดไปเพราะแสงสีขาวนี้ โดยเมื่อสายตาของนางกลับมาเป็นปกติ ม้าคลั่งก็ถูกตัดกีบเท้าหน้าออก และล้มลงกับพื้นอย่างแรง ร้องโอดครวญไม่ยอมหยุด

บนถนนเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ฮือฮาขึ้นมาทันที

อวิ๋นหลิงเบิกตากว้าง ปากของนางอ้าออกเล็กน้อยอย่างไม่สามารถควบคุมได้

ทว่าดวงตาของเซียวปี้เฉิงฉายความประหลาดใจยิ่งกว่า โดยไม่สามารควบคุมความตื่นเต้นประหลาดใจได้เลย “เสด็จ...เสด็จปู่?”

ร่างนั้นผอมแห้ง แต่กลับเต็มไปด้วยพละกำลัง และความองอาจในความทรงจำ

“พระเจ้าหลวง...นั่นพระเจ้าหลวง!”

“พระเจ้าหลวงช่วยทุกคนเอาไว้ พระเจ้าหลวงผู้ทรงอำนาจ!”

“พระเจ้าหลวงทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นหมื่นปี!”

เป็นเวลาอยู่ชั่วขณะหนึ่ง ทั้งท้องถนนก็แตกตื่นฮือฮาราวกับน้ำกระเซ็นลงไปในน้ำมันที่กำลังเดือด

ประชาชนต่างหลีกทางเปิดถนน แล้วนั่งคุกเข่าลงคำนับกันทีละคน อย่างเสียงดังอึกทึก

หัวใจของอวิ๋นหลิงสั่นสะท้าน นี่เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกว่า ตาเฒ่าที่ที่มีนิสัยผีเข้าผีออกอีกทั้งตะกละตะกลาม ในใจของประชาชนแคว้นต้าโจวแล้ว มีสถานะและความศรัทธาอย่างไร

เสียงอุทานอย่างเผ็ดร้อนดังก้องอยู่ในหู ต่างพูดกันอย่างน้ำไหลไฟดับว่า “อาการประชวรของพระเจ้าหลวงทรงหายดีแล้วหรือ?”

“ไม่ได้บอกว่า พระเจ้าหลวงนั้นแก่ สติปัญญาเลอะเลือนอย่างนั้นหรอกหรือ? ดูแล้วยังแข็งแกร่งเหมือนเดิมเลยนี่!”

“จะต้องเป็นพระชายาจิ้งอ๋อง นางรักษาพระเจ้าหลวงให้หายดี! ลูกพี่ลูกน้องของป้าสะใภ้ของข้าทำงานในสำนักหมอหลวง บอกว่า พระชายาจิ้งอ๋องมีทักษะการแพทย์ยอดเยี่ยม เป็นนางที่ปลุกพระเจ้าหลวงที่เกือบจะดูเหมือนเป็นคนตายให้ฟื้นขึ้นมาได้!”

ในเวลานั้น ชื่อของอวิ๋นหลิงก็ถูกกล่าวถึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า และแพร่กระจายออกไปไกลเรื่อยๆ

พระเจ้าหลวงมองดูร่างที่นั่งอยู่บนพื้นทั้งหมดอย่างเงียบๆ จากนั้นเอ่ยปากกล่าวว่า “ลุกขึ้นกันเถอะ ไปทำในสิ่งที่ควรทำกันเสีย อย่ามาขวางทางข้าอยู่เลย”

คำพูดและน้ำเสียงของเขาไม่มีความสง่างามเลยแม้แต่น้อย โดยยังคงมีท่าทางเหมือนกับตาเฒ่าข้างบ้านที่ชอบทำตัวแปลกๆ แต่กลับทำให้ประชาชนที่ตื่นเต้นอยู่รอบๆ สงบลงได้ในพริบตา

พระเจ้าหลวงหันกลับมา หรี่ตามองไปที่อวิ๋นหลิงและเซียวปี้เฉิงที่ดูตกตะลึง จากนั้นค่อยๆ กลับเข้าไปในรถม้า

จนกระทั่งขบวนรถม้าขับออกไปไกล แต่อวิ๋นหลิงก็ยังคงได้ยินเสียงโห่ร้องของผู้คนอยู่ข้างหลัง

ใบหน้าของเซียวปี้เฉิงเต็มไปด้วยความสุข “ปีศาจหญิง ความสามารถของเจ้าไม่ธรรมดาจริงๆ หากเสด็จพ่อทรงรู้ว่าเสด็จปู่หายดีแล้ว จะต้องดีใจอย่างมากแน่นอนเลย!”

อวิ๋นหลิงค่อยๆ กลับมาจากภวังค์ พระเจ้าหลวงไม่เลอะเลือนแล้วหรือ?

นางเองก็ไม่คาดคิดเช่นกันว่า พลังจิตของตนนั้นจะมีผลในการรักษาโรคสมองเสื่อมได้

“…ท่านว่า ม้าที่เกิดคลุ้มคลั่งเมื่อครู่นี้เกิดจากอุบัติเหตุ หรือมีคนจงใจทำมัน?”

เซียวปี้เฉิงค่อยๆ เก็บรอยยิ้ม เขาหรี่ตาลง แล้วกล่าวว่า “น่าจะเป็นฝีมือของคน”

แม้ม้าคลั่งจะไม่ได้ทำร้ายพวกเขา แต่คนที่อยู่เบื้องหลังนี้ เห็นได้ชัดว่ามีความคิดที่ชั่วร้ายกว่านั้น

“หากม้าคลั่งทำให้พระเจ้าหลวงตกใจกลัว ในวังจะต้องถามหาความรับผิดชอบจากเจ้าและข้าอย่างแน่นอน หากมันไปทำร้ายประชาชน จวนจิ้งอ๋องก็จะถูกกล่าวหาว่า ไม่สามารถช่วยเหลือผู้คนได้ทันท่วงที หรือแม้กระทั่งอาจจะมีความผิดฐานก่อความรบกวนให้กับราชสำนัก และทำร้ายประชาชน”

หากอำนาจของจวนจิ้งอ๋องได้รับผละกระทบในหมู่ประชาชน เป้าหมายของคนผู้นั้นก็จะถือว่าประสบความสำเร็จ

อวิ๋นหลิงขมวดคิ้ว “เป็นแผนการของตระกูลเฟิง หรือจะเป็นแผนการของฮองเฮากันแน่? แต่ข้ารู้สึกว่า ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง”

นางทำให้เฟิงเหยียนบาดเจ็บสาหัสถึงสองครั้ง แต่ตระกูลเฟิงก็ไม่ทำอะไร เสนาบดีซ้ายเฟิงได้ทำการฟ้องร้องกล่าวหาจวนจิ้งอ๋องครั้งหนึ่ง โดยหลังจากที่จักรพรรดิจาวเหรินเข้ามาจัดการ เขาเองก็ไม่ได้มีท่าทีกัดไม่ปล่อยแต่อย่างใด

เห็นได้ชัดว่า เฟิงเหยียนคนที่มีชื่อเสียงต่ำทรามผู้นี้ ไม่ได้มีความสำคัญในใจของเสนาบดีซ้ายเฟิงเลย และไม่คุ้มค่ากับการที่เขาจะมาแตกแยกกับจวนจิ้งอ๋อง

สำหรับฮองเฮาเฟิง...นางไม่มีความกล้าที่จะทำร้ายพระเจ้าหลวงอย่างแน่นอน

จักรพรรดิจ้าวเหรินรีบอธิบายอย่างกระวนกระวาย “เสด็จพ่อ นั่นไม่ใช่หินธรรมดา นั่นเป็นจี้ดวงดาวเชียวนะพ่ะย่ะค่ะ! เสด็จพ่อจะให้รางวัลอะไรก็ได้แก่นาง แต่จี้ดวงดาวนั่น...”

“ฮึ! จี้ดวงดาวมันทำไมหรือ ข้าพอใจ อยากจะให้เป็นรางวัลแก่นาง ไม่ได้อย่างนั้นหรือ?”

พระเจ้าหลวงส่งเสียงฮึออกมาอย่างเย็นชา จากนั้นจ้องเขม็งไปที่จักรพรรดิจาวเหริน และถามด้วยเสียงทุ้มว่า “ทำไมเล่า เจ้าคิดว่าข้าเป็นเจ้าของหินก้อนหนึ่งไม่ได้หรืออย่างไร หรือว่าหินก้อนนั้นสำคัญกว่าข้า?”

“ไม่ใช่เลยพ่ะย่ะค่ะ...”

เหงื่อเย็นไหลลงมาบนหน้าผากของจักรพรรดิจาวหราน เห็นได้ชัดว่า เขาไม่สามารถทำอะไรกับพระเจ้าหลวงได้เลย

“ไม่ใช่ก็หุบปาก หลังจากนี้อย่าได้เอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอีก”

พระเจ้าหลวงสรุปเรื่องนี้ และมองไปที่อวิ๋นหลิงอย่างพึงพอใจ ราวกับกำลังขอคำชม

ดวงตาของอวิ๋นหลิงเป็นประกาย พระเจ้าหลวงผู้ทรงอำนาจ!

ไม่เสียแรงเปล่าเลยที่นางคอยปรนนิบัติอาหารเครื่องดื่มให้กับตาเฒ่าที่มีนิสัยแปลกๆ ผู้นี้ ท้ายที่สุดแล้วคนดีก็จะได้รับสิ่งตอบแทนที่ดี

จักรพรรดิจาวเหรินอยากจะร้องไห้ออกมา ใบหน้าของเขาเหี่ยวย่น เขายังอยากนำจี้ดวงดาวนี้มาเป็นมรดกสืบทอดตระกูลของราชนิกูลต้าโจว

แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้สัมผัสมันสักครั้งสองครั้งเลย มันก็ถูกอวิ๋นหลิงขุดเอาไปเสียแล้ว

เมื่อเห็นอวิ๋นหลิงได้รับความโปรดปรานจากพระเจ้าหลวงมากถึงเพียงนั้น เซียวจิ้งเฉิงจึงรู้สึกอิจฉาอยู่ในใจพูดออกมาไม่ได้

“เสด็จพ่อ ท่าน...”

ในขณะที่เขากำลังจะพูดปลอบใจจักรพรรดิจาวเหริน ก็ถูกอีกฝ่ายขัดจังหวะอย่างไม่สบอารมณ์

“มัวแต่ไปยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น เข้าวังมาแล้วเหตุใดยังไม่ไปถวายบังคมเสด็จย่าของเจ้าอีก?” จักรพรรดิจาวเหรินไล่เซียวปี้เฉิง ออกไป ตอนนี้เมื่อเขาเห็นโอรสคนนี้ก็รู้สึกโกรธขึ้นมา

หากตอนนั้นไม่ใช่ว่าเซียวปี้เฉิงวิ่งมาเกลี้ยกล่อมให้เขามอบจี้ดวงดาวให้กับอวิ๋นหลิง เพื่อสังเกตดูสักสองสามวัน สมบัติของเขาจะถูกพรากไปได้อย่างไร?

ช่างโง่เขลาเสียนี่กระไร!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ