ต้นฤดูหนาวท้องฟ้าใสสะอาดราวกับผ่านการชำระล้าง
หรงรั่วกินอิ่มแล้วเหยียบพื้นที่มีใบไม้เหลืองกลับหอพักหญิง
“เจ้าจะติดป้ายประกาศอันใด?”
ไป๋ชวนระงับความอยากรู้ภายในใจไม่ไหว ถือโอกาสที่บัณฑิตหญิงอื่นไม่อยู่ แอบเข้าไปในห้องนอนนาง
“ใครให้เจ้าเข้าห้องนอนสตรีโดยพลการ?”
“ปกติเจ้าบอกว่าพวกเราเป็นสหายกัน งั้นตอนนี้เป็นพี่น้องกันก็ได้นี่”
หรงรั่วถลึงตาใส่ไป๋ชวนอย่างไม่สบอารมณ์ ทว่าตอนนี้นางมีธุระด่วน ไม่มีเวลาเถียงกับอีกฝ่าย
นางค้นหากระดาษขาวโดยไม่พูดไม่จา เมื่อเงยหน้ามองก็เห็นกระดาษเสี่ยวฮู๋เจิ้งที่ทำหายในห้องสมุด ตอนนี้กลับมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
มือที่ถือพู่กันชะงัก ก่อนจะเริ่มเขียนต่อ
ไป๋ชวนกระเถิบเข้าไปดู พยายามสุดความสามารถเพื่อทำความเข้าใจอักษรจีนบนกระดาษ
หลังจากผ่านการฝึกฝนอย่างหนักหน่วงมาสักระยะหนึ่งแล้ว ทักษะการอ่าน เขียน แปลของเขาก็ก้าวกระโดด
ถึงแม้ทักษะการอ่านยังคงช้า ทว่าก็อ่านเข้าใจว่าหรงรั่วกำลังเขียนอะไรอยู่
ในกระดาษเขียนว่านางกับตระกูลถังตระกูลหลิ่วไม่เคยแตกหักกัน นางคือไม่อยากแต่งงานตามความต้องการของบิดามารดา จึงไม่ได้คบค้าสมาคมกับถังจูซิง
ส่วนเรื่องที่หลิ่วชิงเยี่ยนบังคับให้ถังจูซิงถอนหมั้น ก็เป็นเพราะนางให้เพื่อนสาวไปเกลี้ยกล่อม ไม่ได้เป็นอย่างที่คนอื่นพูดคุยกัน
ส่วนบทกลอนสื่อรักเป็นเหตุสุดวิสัย หลิ่วชิงเยี่ยนยืมการบ้านของถังจูซิงกลับมา นางก็ดูเป็นตัวอย่างด้วย จากนั้นก็เอากระดาษมีข้อความกั้นหนังสือแล้วลืมเอาออก จึงทำให้เกิดความเข้าใจผิด
ไป๋ชวนเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ “สองคนนั้นหักหลังเจ้าไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องช่วยอธิบายให้พวกเขาด้วย?”
หรงรั่วทำหน้าบึ้งแล้วตอบ “ตอบแทนบุญคุณ”
“ตอบแทนบุญคุณเหรอ?”
“พ่อแม่ของหลิ่วชิงเยี่ยนต้องตายเพราะช่วยแม่ข้า”
ไป๋ชวนตกตะลึง “มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ เล่ารายละเอียดให้ฟังหน่อยสิ”
น้ำเสียงหรงรั่วเคร่งขรึม “ตอนนั้นแม่ของข้ากับท่านน้าหลิ่วออกไปขอพรที่วัดด้วยกัน แต่เจอโจรระหว่างทาง พวกสาวใช้โดนฆ่าจนหมด พวกนางสองคนหลบอยู่ในมุมหนึ่ง ตอนที่โจรใกล้จะเห็นท่านแม่ข้า ท่านน้าหลิ่วก็ล่อโจรไปอีกทาง”
“ท่านแม่ข้าอ่อนแอ ส่วนท่านน้าหลิ่วเป็นคนยุทธภพ มีวรยุทธติดตัว ต่อสู้กับศัตรูด้วยมือเปล่า เพราะไม่อยากโดนปู้ยี้ปู้ยำจึงเลือกที่จะกระโดดลงหน้าผา”
อีกฝ่ายล่อโจรไปไกล มารดานางถึงรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด ทว่าตอนที่ไปเจอท่านน้าหลิ่ว ท่านน้าหลิ่วหายใจรวยริน อยู่ต่อได้ไม่กี่วันก็อำลาจากโลกไป
ตอนนั้นนางกับหลิ่วชิงเยี่ยนเพิ่งจะสองขวบ
ไป๋ชวนอุทาน “ไม่คิดว่ามารดานางจะเป็นสตรีห้าวหาญเพียงนี้ บุญคุณช่วยชีวิตยากจะตอบแทนจริงๆ”
หรงรั่วหลุบตาลง สาเหตุที่นางอยากฝึกยุทธ์แต่เด็กก็เป็นเพราะเหตุนี้
นางก็อยากปกป้องหลิ่วชิงเยี่ยนเหมือนที่ท่านน้าหลิ่วปกป้องมารดานาง
ทว่าตั้งแต่เล็กจนโต นางสร้างปัญหาให้อีกฝ่ายมากกว่าการปกป้อง
แม้จะทำไปเพราะอยากแก้เผ็ดให้หลิ่วชิงเยี่ยน แต่สุดท้ายกลับสร้างศัตรูให้อีกฝ่ายมากมาย แล้วนางเองก็โดนบิดามารดาตำหนิด้วย
หากหลิ่วชิงเยี่ยนไม่ช่วยนางตามล้างตามเช็ด ปัญหาก็จะบานปลายใหญ่โตกองพะเนินเป็นภูเขาแน่
ทว่าหลิ่วชิงเยี่ยนไม่เคยโทษนาง อย่างน้อยก็ไม่เคยโทษต่อหน้า
นางคิดว่าพวกนางสองคนจะดีต่อกันไปชั่วชีวิต
ไป๋ชวนอึ้งเสร็จก็มองนางอย่างตื่นตาตื่นใจ ราวกับเห็นความน่าสนใจบางอย่าง
“นิสัยของเจ้ากับหลิ่วชิงเยี่ยนเหมือนมารดาอีกฝ่ายมาก แต่วรยุทธของเจ้าใช้ไม่ได้เลย ส่วนความรู้ของหลิ่วชิงเยี่ยนก็ไม่ได้เรื่องเช่นกัน”
หรงรั่วหน้าบึ้งตึง เกิดความคิดอยากจะชกหน้าเขา
“ฝีมือการต่อสู้ของข้าไม่ดีจริง แต่นางไม่ใช่คนหัวทึบ”
“เล่ามาฟังสิ ข้าชอบฟังเรื่องชาวบ้าน”
“นางฉลาดมาก เรียนรู้ไวและตั้งใจกว่าคนอื่น แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...