ครั้นอวิ๋นหลิงฟังแล้ว ใบหน้ากับแววตาก็อ่อนลงโดยไม่รู้ตัว
นางพยักหน้า มองตามหลังองค์หญิงหกออกจากหอนอน แล้วถอนหายใจในใจ
องค์หญิงหกโตขึ้นมากจริงๆ
เดชะบุญที่เสี่ยวเฟิงด่วนจากไปเร็ว ดรุณีผู้นี้จึงหายจากการสั่งสอนที่บิดเบี้ยวได้ทันเวลา
หลังจากองค์หญิงหกกลับถึงตำหนักซู่อวี้ เสวี่ยตูตูก็มีชีวิตชีวายิ่งนัก กินและขับถ่ายได้ตามปกติ
“เจ้าช่างดวงแข็ง”
นางใช้ปลายนิ้วงามแตะจมูกเสวี่ยตูตู นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในสวนหลวงวันนี้ จึงสั่งให้สาวใช้ประจำตัวส่งขนมหนึ่งจานไปให้เว่ยฉือเลี่ย
เป็นขนมสังขยาฟักทองน้ำผึ้ง เป็นสูตรที่องค์หญิงหกเรียนรู้จากโรงอาหารของสำนักศึกษา
ยามปกติว่างไม่มีอะไรทำ นอกจากอ่านหนังสือกับทำขนมเพื่อฆ่าเวลาแล้ว นางอยากทำอะไรสักอย่างให้กู้ฮั่นม่อด้วย
แต่กู้ฮั่นม่อไม่เคยรับไว้เลย มักจะแย้มยิ้มแล้วชักแม่น้ำทั้งห้ามาปฏิเสธนางอย่างสุภาพ
เว้นแต่จะมีสหายร่วมห้องอยู่ด้วย ตอนนางแจกขนมให้คนอื่น เขาจึงจะรับขนมสองสามชิ้นด้วยความยินดี
ยามนี้คิดดูแล้ว เขาน่าจะเดาความคิดของนางได้ตั้งนานแล้ว จึงปฏิเสธมาตลอดใช่หรือไม่
องค์หญิงหกเข้าใจเรื่องนี้ดี สีหน้าหม่นแสงลงกว่าเดิม ในใจก็เจ็บปวดรวดร้าว
นางจ้องมองแสงจันทร์นอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย ในใจผุดเสียงและหน้าตาของอีกฝ่ายขึ้นมาไม่ขาดสาย
สง่างามดุจไม้หยกจือหลาน รอยยิ้มส่องประกายดั่งแสงจันทร์อันสุกใส
นี่เป็นบุรุษคนแรกที่นางตกหลุมรักในชีวิต
เมื่อเจอคนเช่นนี้ ชาตินี้ยังมอบหัวใจให้คนอื่นได้อีกหรือ
ไม่นานนักองค์หญิงหกก็ผล็อยหลับไป ตำหนักซู่อวี้ก็ตกอยู่ในความเงียบสงัด
ในหอซื่อฟาง บรรยากาศในเรือนหลิงเยี่ยนนั้นกลับสูงขึ้นเป็นเท่าทวี
ถูหว่ามองจานขนมหวานที่สาวใช้ส่งมา แล้วปรบมือเต้นรำไปรอบๆ โต๊ะอย่างตื่นเต้นดีใจไม่หาย
“ท่านข่าน ท่านข่านได้ยินหรือไม่ สาวใช้เพิ่งบอกว่านี่คือขนมที่องค์หญิงหกทำด้วยมือตนเอง!”
เว่ยฉือเลี่ยฟังจนมึนศีรษะ ก่อนกดอีกฝ่ายลง “เลิกตะโกนได้แล้ว ข้าไม่ได้หูหนวก”
“ท่านข่าน เหตุใดท่านไม่ตื่นเต้นเล่า! ตอนที่ควรดีใจก็ต้องดีใจสิ อย่าทำหน้าทึ่มทื่อเหมือนตอไม้ ทำไมพอมาถึงแคว้นต้าโจวแล้วท่านกลายเป็นเหมือนพวกเขาไปทุกทีๆ ยามที่พวกเราคนทุ่งหญ้ามีความสุขก็จะหัวเราะลั่น ยิ่งดังยิ่งดี!”
เว่ยฉือเลี่ยปรายตาปรามเขา “องค์หญิงหกไม่ได้ตอบตกลงจะแต่งงานด้วยสักหน่อย มีอะไรน่าตื่นเต้น”
ถูหว่าสงบลงเล็กน้อย แต่บนใบหน้าไม่อาจปกปิดความปลื้มปีติไว้ได้
“ข้าว่าท่านข่านมีหวัง องค์หญิงหกต้องชมชอบท่านเป็นแน่”
“เอาอะไรมาพูด”
ถูหว่าพูดจาฉะฉาน “สตรีล้วนชอบบุรุษร่างใหญ่แรงเยอะ ท่านเป็นชายในฝันของหญิงสาวนับไม่ถ้วนตอนอยู่ในแดนทุ่งหญ้า คิดว่าองค์หญิงหกก็คงหลงใหลได้ปลื้มความหล่อเหลาและสง่างามของท่านเช่นกัน”
“ไม่เช่นนั้นนางจะส่งขนมมาให้หรือ จะให้ของที่นางทำเองทำไม คงตกหลุมรักท่านตั้งแต่แรกเห็น ได้พบอีกคราก็มีใจให้!”
เว่ยฉือเลี่ยเหลือบมองเขาสองแวบแล้วพูดว่า “ไปร่ำเรียนศัพท์แสงไพเราะเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เหมือนเจ้าเลย”
“ไอ้หยา! แล้วจะให้เหมือนใครเล่า เหมือนท่านข่านแล้วกัน ชาวฮั่นพูดกันบ่อยๆ ไม่ใช่หรือว่าคนใกล้หมูจะกินเยอะ คนใกล้หมึกดำ...เอ่อ...จะหน้าดำใช่หรือไม่”
เว่ยฉือเลี่ยปรายตามองเขาสามครั้ง “...”
จะว่าไปเขาดูเหมือนหมูหรือหน้าดำกันแน่?
“จริงสิ วันนี้ถูหว่าเพียรพยายามไปสืบข่าวมา ได้ยินว่าวันมะรืนนี้องค์หญิงหกจะเดินทางไปสำนักศึกษาชิงอี้ นี่เป็นโอกาสทองที่ท่านข่านห้ามพลาดเป็นอันขาด!”
เว่ยฉือเลี่ยฟังแล้วสีหน้าเริ่มเคร่งขรึม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...