องค์หญิงหกนอนไม่หลับทั้งคืน พลิกตัวไปมาครุ่นคิดอยู่ทั้งคืน ในที่สุดยามพลบค่ำของวันรุ่งขึ้น นางก็พบกับกู้ฮั่นม่อบนทางเล็กๆ ที่เงียบสงบโดยไม่คาดคิด ขณะเดินผ่านกัน นางก็เรียกเขาไว้
“คุณชายกู้”
จากนั้นทั้งคู่ก็หยุดฝีเท้าลง
องค์หญิงหกนิ่งงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามสิ่งที่นางครุ่นคิดมาตลอดทั้งคืน
“เจ้ารู้สถานะของข้าแล้วใช่หรือไม่ จึงจงใจหลบหน้าข้า?”
กู้ฮั่นม่อสีหน้าตกใจเล็กน้อย ผ่านไปครู่หนึ่งก็ตอบเสียงค่อย “องค์หญิงอย่าเสียพระทัยไปเลย กระหม่อมก็มีข้อกังวลใจเช่นกัน ก็เลยทำเช่นนี้”
องค์หญิงหกเผยรอยยิ้มเหยเก “เจ้าคงกังวลจริงๆ ว่าจะถูกข้าบังคับเรียกตัวให้เป็นราชบุตรเขย ก็เลยจงใจหลบหน้าข้า...จริงๆ แล้วเจ้าไม่ต้องกลัว ข้าจะไม่ทำอะไรกับเจ้าหรอก”
“ข้าจะไม่ทำลายอนาคตเจ้า แต่เจ้าเลิกหลบหน้าและทำตัวเหินห่างกับข้าเหมือนอย่างตอนนี้เสียทีจะได้หรือไม่”
นางขอเพียงเท่านี้เอง
“ไยองค์หญิงต้องทำเช่นนี้ ยกโทษให้ฮั่นม่อที่ไม่อาจทำตามรับสั่งนี้ได้”
เมื่อถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย องค์หญิงหกจึงมองเขาอย่างมึนงง ชั่วขณะนั้นก็รู้สึกแสบจมูก น้ำตาไหลร่วงเผาะอย่างควบคุมไม่ได้
กู้ฮั่นม่อถอนใจเบาๆ คราหนึ่ง จากนั้นก็เดินเข้าไปหา หยิบผ้าเช็ดหน้าสะอาดผืนหนึ่งออกมาจากอกเสื้อแล้วยื่นให้
เขานิ่งมององค์หญิงหก นัยน์ตาที่ปกติลุ่มลึกกลับชัดใสแจ๋วเป็นพิเศษ เต็มไปด้วยความอ่อนโยนอันเงียบสงบในเวลานี้
“ขอบพระทัยองค์หญิงที่ทรงชมชอบและให้ความสำคัญ แต่กระหม่อมไม่ต้องการติดต่อกับพระองค์อีก ไม่ใช่เพราะกลัวจะถูกเรียกไปเป็นราชบุตรเขย จนทำให้เสียโอกาสจะได้รับราชการ”
“ข้าผู้แซ่กู้หากชมชอบสตรีสักคนจริงๆ จะไม่สนใจฐานะของนาง จะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้แต่งงาน หากความรักลึกซึ้ง อาจถึงขั้นสละอนาคตเพื่ออีกฝ่าย”
“คำว่ารักคำนี้ ทำให้คนลุ่มหลงจนเสียสติได้มากที่สุด แม้แต่คนอย่างองค์รัชทายาทก็เคยวู่วามยอมละทิ้งบ้านเมืองเพื่อหญิงงาม ข้าผู้แซ่กู้ก็ไม่รอดพ้นจากความรักโลภโกรธหลงของโลกมนุษย์”
“อย่างไรก็ไม่ใช่คนที่กระหม่อมรัก กระหม่อมก็ไม่ได้ตามเกี้ยว จึงไม่อยากผูกไมตรีกับองค์หญิงมากเกินไป กระหม่อมคิดว่าตนเองไม่ใช่คนมีเกียรติ แต่ก็ไม่ได้ไร้ยางอายเช่นกัน จะปฏิบัติต่อสตรีที่รู้ทั้งรู้ว่ารักกระหม่อมอย่างไม่รู้สึกรู้สาได้อย่างไร”
“นี่จะไม่ยุติธรรมและทำร้ายองค์หญิงกับภรรยาในอนาคตของข้า เช่นนั้นโปรดยกโทษให้ข้าผู้แซ่กู้ที่ขัดรับสั่ง”
องค์หญิงหกรับผ้าเช็ดหน้ามาอย่างใจลอย ทอดสายตามองเขาจนลืมร้องไห้ต่อ
นางเข้าใจสิ่งที่กู้ฮั่นม่อพูด
เขาไม่กลัวจะสูญเสียโอกาสเข้ารับข้าราชการ ตรงกันข้าม เขายอมสละทุกอย่างเพื่อคนที่เขารักอย่างแท้จริง
เขาหลบหน้านาง ไม่ใช่เพราะนางเป็นองค์หญิง แต่เพราะนางไม่ใช่คนที่เขาชมชอบ
กู้ฮั่นม่อถอยหลังไปสองก้าว โค้งคำนับองค์หญิงหกด้วยความเคารพ
“องค์หญิง อย่าเสียใจไปเลย แผ่นดินไม่ไร้เท่าใบพุทรา จากนี้ไปโปรดถนอมพระวรกายด้วย”
สิ้นคำ เขาก็จากไปโดยไม่หันกลับมามอง
เมฆาบนขอบนภาประหนึ่งเพลิงไฟ ร่างของกู้ฮั่นม่อก็ค่อยๆ หายไปท่ามกลางแสงระเรื่อของดวงตะวันที่กำลังตกลับเหลี่ยมเขาจนเลือนรางลับตาไป
องค์หญิงหกมองแผ่นหลังของเขาอย่างโง่งม ทั้งที่ประกายตาเมื่อครู่ของอีกฝ่ายอ่อนโยนกว่าที่เคยเป็นมาชัดๆ แต่ดูเหมือนว่าหัวใจของนางจะว่างเปล่า สั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด
หมู่นกการ้องขันข้ามท้องนภา นางเดินจากไปด้วยความสิ้นหวัง
ไม่ได้สังเกตเลยว่าที่สุดทางเดินอันเงียบสงบนั้น เว่ยฉือเลี่ยแอบมองนางด้วยความประหลาดใจ
“ที่แท้องค์หญิงหกมีคนในดวงใจแล้ว…”
เมื่อพบฉากนี้โดยบังเอิญ เว่ยฉือเลี่ยก็ดูสับสน ลอบถอนหายใจในใจ
ก่อนหน้านี้เขายังคงครุ่นคิดหาวิธีการทำให้องค์หญิงหกยอมรับทุ่งหญ้าอันห่างไกลและชีวิตที่ยากลำบาก
บัดนี้ดูท่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะจริงๆ แล้วนางมีคนที่นางชอบอยู่แล้ว
เห็นทีจะไร้วาสนาต่อกัน
“เฮ้อ…”
เว่ยฉือเลี่ยพรูลมหายใจยาว เอามือไพล่หลังก่อนเดินจากไป
เช้าตรู่วันมะรืนนี้ต้องออกจากสำนักศึกษา
เขาตัดสินใจว่าต่อให้จะไม่ได้แต่งงานกับองค์หญิง ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด
อย่างน้อยก็ทำให้องค์หญิงหกรู้ว่าเขามีความตั้งใจเช่นนี้ แม้ว่าจะไม่มีพรหมลิขิตร่วมกัน เขาก็จะไม่เสียใจที่เดินทางมายังแคว้นต้าโจวครั้งนี้
เมื่อก้าวเข้าไปในหอพักโยวหราน ลู่ฉีกำลังคุยกับถูหว่าในห้องด้านข้าง
ช่วงนี้เซียวปี้เฉิงกับภรรยางานยุ่ง ในฐานะคนสนิทของรัชทายาท เขามักจะมาร่วมต้อนรับเจ้านายและบ่าวรับใช้อย่างถูหว่า
อาหารในถังข้าวทั้งสองใบไม่ใช่ใหญ่เหมือนทั่วๆ ไป กินที่โรงอาหารแล้วยังห่อกลับมาด้วย ทิ้งความเละเทะไว้บนโต๊ะ
เว่ยฉือเลี่ยมีเรื่องข้องใจสงสัย อดถามลู่ฉีไม่ได้
“ชายหนุ่มที่ชื่อกู้ฮั่นม่อดูเหมือนจะเป็นหนุ่มเนื้อหอมในหมู่สาวๆ ของสำนักศึกษาชิงอี้สินะ”
“ใช่แล้ว คุณชายกู้เป็นทั้งอันดับหนึ่งของสำนักศึกษา และหน้าตาหล่อเหลา ในสำนักศึกษามีเด็กสาวประมาณยี่สิบคนมากกว่าครึ่งแอบชื่นชมเขา!”
ลู่ฉีเป็นคนวงในที่รู้เรื่องราวขององค์หญิงหกกับจักรพรรดิจาวเหริน เขาชื่นชมกู้ฮั่นม่อจากก้นบึ้งหัวใจ แม้แต่องค์หญิงของแคว้นก็ตกหลุมรักเขาจนได้
ในฐานะแฟนพันธุ์แท้ของท่านข่าน ถูหว่าคุยอวดด้วยความรู้สึกตื่นเต้นทันที
“เช่นนั้นก็มีเด็กสาวแค่สิบคนเอง แต่บนแดนทุ่งหญ้า หญิงสาวที่ชื่นชมท่านข่านต้องเข้าแถวตั้งแต่ทูเจวียตะวันออกไปจนถึงทูเจวียตะวันตก! เด็กสาวในสำนักศึกษาไม่ได้พินิจมองท่านข่านให้ดี พวกนางจะได้เรียนรู้ว่าท่านข่านรูปงามน่าเกรงขามเพียงใด จะได้รู้ว่าท่านข่านเก่งกว่าไอ้หนุ่มหน้าละอ่อนมากนัก!”
ถูหว่าเบ้ปากด้วยความเหยียดหยาม ท่านข่านสามารถล้มคนสิบคนได้ด้วยหมัดเดียว นับประสาอะไรกับไก่อ่อนแซ่กู้
ลู่ฉีเหลือบมองเว่ยฉือเลี่ย อดกระตุกมุมปากไม่ได้ “...สาวๆ แคว้นต้าโจวนั้นต่างจากสาวๆ ในแดนทุ่งหญ้า สาวๆ ที่นี่ชมชอบผู้ที่ใบหน้าเรียวเล็กหล่อเหลาขาวสะอาดอย่างตัวละครที่โด่งดังเหลือแสนในหนังสือนิยาย ก็ล้วนเป็นประเภทบัณฑิตที่เครื่องหน้าขาวหล่อหรือรูปงามเหมือนรัชทายาทของพวกเรานี่แหละ”
คำพรรณนาเว่ยฉือเลี่ย...ดูเหมือนจะเกินขอบเขตรสนิยมด้านความงามของพวกเขามากเกินไป
ได้ยินดังนี้ เว่ยฉือเลี่ยก็เงียบไปครู่หนึ่ง หมุนตัวเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
แสงสายัณห์แสงสุดท้ายตกลับขอบฟ้าไป เขาก็เดินมาถึงร้านตัดผมแห่งเดียวในสำนักศึกษาชิงอี้
“เถ้าแก่ช่วยโกนเคราให้ข้าทีได้หรือไม่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...