เซียวปี้เฉิงตกใจยิ่งนักที่องค์หญิงหกจะตามเหมาเหมาไป
ขนาดเขายังอึ้งงันไปครู่หนึ่ง ไม่ต้องพูดถึงจักรพรรดิจาวเหรินเลย?
หลังจากกลับถึงตำหนักบูรพา เขาก็ให้ความสนใจการเคลื่อนไหวของพระที่นั่งบำรุงฤทัยอย่างใกล้ชิด
พระที่นั่งบำรุงฤทัยอยู่ไกลเกินกว่าขอบเขตของพลังจิตจะสำรวจไปถึง ทั้งสองสามีภรรยาจึงไปนั่งอยู่ด้วยกันในสวนหลวง เงี่ยหูฟังอยู่ที่มุมกำแพงอย่างโจ่งแจ้ง
หลังจากจักรพรรดิจาวเหรินออกว่าราชการช่วงเช้า องค์หญิงหกก็รอให้เขากินอาหารกลางวันเสร็จ ก่อนจะไปหาเขาในตำหนัก
นี่เป็นครั้งแรกที่องค์หญิงหกเป็นฝ่ายมาเข้าเฝ้าจักรพรรดิจาวเหรินเอง หลังจากสองพ่อลูกทะเลาะกันคราวก่อน
จักรพรรดิจาวเหรินรู้สึกประหลาดใจระคนดีใจเล็กน้อย และเป็นกังวลอยู่บ้าง ตอนที่เขาเพิ่งเลิกประชุมก็ได้ยินนางกำนัลเข้ามารายงาน
ว่าองค์หญิงหกนำห่อสัมภาระที่เอาไปสำนักศึกษาชิงอี้กลับมาทั้งหมด ได้ทำการลาออกตามขั้นตอนที่สำนักงานบริหารก่อนออกเดินทาง ดูเหมือนตั้งใจจะไม่กลับไปสำนักศึกษาอีก
ครั้นเห็นองค์หญิงหก จักรพรรดิจาวเหรินก็ถามด้วยความห่วงใยทันที
“เหตุใดไปเพียงสิบกว่าวันก็กลับมาแล้วเล่า ข้าได้ยินนางกำนัลพูดว่าเจ้าลาออกจากบรรณารักษ์ห้องสมุดแล้วด้วย ไม่คิดจะไปสำนักศึกษาอีก เป็นเพราะรู้สึกว่างานเหนื่อยเกินไปหรือว่าในนั้นมีคนรังแกเจ้า?”
องค์หญิงหกส่ายหน้า เอ่ยตอบเบาๆ “ไม่ใช่เพคะ วันนี้ลูกตั้งใจจะมาทูลเรื่องเรื่องหนึ่ง ลูกตกปากรับคำกับเหมาเหมาว่าจะไปแต่งงานที่ทูเจวียตะวันออก ดังนั้นต่อจากนี้จะไม่ไปสำนักศึกษาชิงอี้อีก”
“เหมาเหมา?”
จักรพรรดิจาวเหรินตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เข้าใจจากปากของนางว่าคนผู้นั้นก็คือเว่ยฉือเลี่ย สีหน้าพลันตื่นตระหนกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ในทันใด
อวิ๋นหลิงอยู่ในสวนหลวงที่อยู่ห่างออกไปหนึ่งร้อยเมตร ได้ยินเสียงถ้วยแตกและเก้าอี้ล้มลงกับพื้นดังสนั่นในตำหนักจนแสบแก้วหูไปหมด
จักรพรรดิจาวเหรินทรงตกพระทัยจนชนโต๊ะและเก้าอี้นั่นเอง
จู่ๆ นางก็นึกสงสัยว่าอีกฝ่ายเพิ่งหายจากอาการป่วยหนัก จะยอมรับข่าวกะทันหันนี้ได้หรือไม่
ในตำหนัก จักรพรรดิจาวเหรินมององค์หญิงหกอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“หรงเอ๋อร์ นี่เจ้ากำลังพูดส่งเดชอะไรกัน อยู่ดีๆ จะไปแต่งงานที่ทูเจวียตะวันออกทำไม เจ้าคงไม่พอใจข้าเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เกิดโทสะจึงจงใจพูดคำนี้ใช่หรือไม่
นัยน์ตาองค์หญิงหกฉายแววสับสน กล่าวต่อไปว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้ผ่านไปแล้ว ลูกจะไม่พูดถึงอีก ที่พูดไปเมื่อครู่ไม่ใช่คำพูดยั่วโทสะ”
จักรพรรดิจาวเหรินได้ยินแล้วก็รู้ว่าเรื่องก่อนหน้านี้ไม่ได้คลี่คลายไปจริงๆ องค์หญิงหกยังแสลงใจอยู่
เขาเอ่ยอย่างร้อนใจ “แต่เจ้าถูกใจเจ้าเด็กกู้ฮั่นม่อไม่ใช่หรือ”
“ข้าถูกใจเขาจะไปมีประโยชน์อะไร เขาบอกเสียชัดเจนขนาดนั้นว่าไม่ชอบข้า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเป็นราชบุตรเขยเลย”
ดวงตาองค์หญิงหกวาบผ่านความโศกเศร้าอย่างไม่อาจกลบเกลื่อนได้ แต่สีหน้าก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
“แต่ท่านข่านไม่เหมือนกัน เขาชอบข้าจากใจจริง อยากแต่งงานกับข้า ข้าเชื่อว่าเขาจะปฏิบัติต่อข้าอย่างดี ข้าจึงเป็นฝ่ายตกปากรับคำจะไปแต่งงานด้วย”
พระพักตร์ของจักรพรรดิจาวเหรินเขียวคล้ำ ตบโต๊ะอย่างแรงด้วยความกรุ่นโกรธ
“เขากล้าถึงขนาดปฏิเสธองค์หญิงที่เป็นเชื้อพระวงศ์เชียวหรือ! พรุ่งนี้ข้าจะไปหาเขาที่สำนักศึกษา ให้เขาพยักหน้าตอบตกลงเป็นราชบุตรเขยให้ได้ เจ้าไม่ต้องทำอะไรพรรค์นี้เพราะเศร้าเสียใจเป็นอันขาด!”
ขณะนี้เขารู้สึกได้ว่าเหตุที่องค์หญิงหกผุดความคิดจะแต่งงานก็เป็นเพราะอกหักเสียหน้าจากเจ้าเด็กกู้ฮั่นม่อนั่น
องค์หญิงหกฟังแล้วก็หลุดหัวเราะอย่างจนใจ
“เสด็จพ่อเลอะเลือนไปใหญ่แล้ว ท่านถึงกับจะใช้อำนาจมากดขี่ประชาชนเลยหรือ ถ้าท่านทำเช่นนี้จริงๆ แล้วจะเอาพี่สาม อาซ้อสาม และหรงเอ๋อร์ไปไว้ที่ไหน แม่นางหลีจะคิดอย่างไร แล้วคนทั่วหล้าจะคิดเช่นไร”
จักรพรรดิจาวเหรินระงับเพลิงโทสะ ได้สติกลับคืนมาหลายส่วน กระนั้นใบหน้ายังอัดแน่นไปด้วยความวิตกกังวลและร้อนรน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...