พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 735

สรุปบท ตอนที่ 735 ไม่มีใครไม่อิจฉา: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 735 ไม่มีใครไม่อิจฉา – พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ โดย Anchali

บท ตอนที่ 735 ไม่มีใครไม่อิจฉา ของ พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายโรแมนติกโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Anchali อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เซียวปี้เฉิงตกใจยิ่งนักที่องค์หญิงหกจะตามเหมาเหมาไป

ขนาดเขายังอึ้งงันไปครู่หนึ่ง ไม่ต้องพูดถึงจักรพรรดิจาวเหรินเลย?

หลังจากกลับถึงตำหนักบูรพา เขาก็ให้ความสนใจการเคลื่อนไหวของพระที่นั่งบำรุงฤทัยอย่างใกล้ชิด

พระที่นั่งบำรุงฤทัยอยู่ไกลเกินกว่าขอบเขตของพลังจิตจะสำรวจไปถึง ทั้งสองสามีภรรยาจึงไปนั่งอยู่ด้วยกันในสวนหลวง เงี่ยหูฟังอยู่ที่มุมกำแพงอย่างโจ่งแจ้ง

หลังจากจักรพรรดิจาวเหรินออกว่าราชการช่วงเช้า องค์หญิงหกก็รอให้เขากินอาหารกลางวันเสร็จ ก่อนจะไปหาเขาในตำหนัก

นี่เป็นครั้งแรกที่องค์หญิงหกเป็นฝ่ายมาเข้าเฝ้าจักรพรรดิจาวเหรินเอง หลังจากสองพ่อลูกทะเลาะกันคราวก่อน

จักรพรรดิจาวเหรินรู้สึกประหลาดใจระคนดีใจเล็กน้อย และเป็นกังวลอยู่บ้าง ตอนที่เขาเพิ่งเลิกประชุมก็ได้ยินนางกำนัลเข้ามารายงาน

ว่าองค์หญิงหกนำห่อสัมภาระที่เอาไปสำนักศึกษาชิงอี้กลับมาทั้งหมด ได้ทำการลาออกตามขั้นตอนที่สำนักงานบริหารก่อนออกเดินทาง ดูเหมือนตั้งใจจะไม่กลับไปสำนักศึกษาอีก

ครั้นเห็นองค์หญิงหก จักรพรรดิจาวเหรินก็ถามด้วยความห่วงใยทันที

“เหตุใดไปเพียงสิบกว่าวันก็กลับมาแล้วเล่า ข้าได้ยินนางกำนัลพูดว่าเจ้าลาออกจากบรรณารักษ์ห้องสมุดแล้วด้วย ไม่คิดจะไปสำนักศึกษาอีก เป็นเพราะรู้สึกว่างานเหนื่อยเกินไปหรือว่าในนั้นมีคนรังแกเจ้า?”

องค์หญิงหกส่ายหน้า เอ่ยตอบเบาๆ “ไม่ใช่เพคะ วันนี้ลูกตั้งใจจะมาทูลเรื่องเรื่องหนึ่ง ลูกตกปากรับคำกับเหมาเหมาว่าจะไปแต่งงานที่ทูเจวียตะวันออก ดังนั้นต่อจากนี้จะไม่ไปสำนักศึกษาชิงอี้อีก”

“เหมาเหมา?”

จักรพรรดิจาวเหรินตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เข้าใจจากปากของนางว่าคนผู้นั้นก็คือเว่ยฉือเลี่ย สีหน้าพลันตื่นตระหนกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ในทันใด

อวิ๋นหลิงอยู่ในสวนหลวงที่อยู่ห่างออกไปหนึ่งร้อยเมตร ได้ยินเสียงถ้วยแตกและเก้าอี้ล้มลงกับพื้นดังสนั่นในตำหนักจนแสบแก้วหูไปหมด

จักรพรรดิจาวเหรินทรงตกพระทัยจนชนโต๊ะและเก้าอี้นั่นเอง

จู่ๆ นางก็นึกสงสัยว่าอีกฝ่ายเพิ่งหายจากอาการป่วยหนัก จะยอมรับข่าวกะทันหันนี้ได้หรือไม่

ในตำหนัก จักรพรรดิจาวเหรินมององค์หญิงหกอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“หรงเอ๋อร์ นี่เจ้ากำลังพูดส่งเดชอะไรกัน อยู่ดีๆ จะไปแต่งงานที่ทูเจวียตะวันออกทำไม เจ้าคงไม่พอใจข้าเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เกิดโทสะจึงจงใจพูดคำนี้ใช่หรือไม่

นัยน์ตาองค์หญิงหกฉายแววสับสน กล่าวต่อไปว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้ผ่านไปแล้ว ลูกจะไม่พูดถึงอีก ที่พูดไปเมื่อครู่ไม่ใช่คำพูดยั่วโทสะ”

จักรพรรดิจาวเหรินได้ยินแล้วก็รู้ว่าเรื่องก่อนหน้านี้ไม่ได้คลี่คลายไปจริงๆ องค์หญิงหกยังแสลงใจอยู่

เขาเอ่ยอย่างร้อนใจ “แต่เจ้าถูกใจเจ้าเด็กกู้ฮั่นม่อไม่ใช่หรือ”

“ข้าถูกใจเขาจะไปมีประโยชน์อะไร เขาบอกเสียชัดเจนขนาดนั้นว่าไม่ชอบข้า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเป็นราชบุตรเขยเลย”

ดวงตาองค์หญิงหกวาบผ่านความโศกเศร้าอย่างไม่อาจกลบเกลื่อนได้ แต่สีหน้าก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว

“แต่ท่านข่านไม่เหมือนกัน เขาชอบข้าจากใจจริง อยากแต่งงานกับข้า ข้าเชื่อว่าเขาจะปฏิบัติต่อข้าอย่างดี ข้าจึงเป็นฝ่ายตกปากรับคำจะไปแต่งงานด้วย”

พระพักตร์ของจักรพรรดิจาวเหรินเขียวคล้ำ ตบโต๊ะอย่างแรงด้วยความกรุ่นโกรธ

“เขากล้าถึงขนาดปฏิเสธองค์หญิงที่เป็นเชื้อพระวงศ์เชียวหรือ! พรุ่งนี้ข้าจะไปหาเขาที่สำนักศึกษา ให้เขาพยักหน้าตอบตกลงเป็นราชบุตรเขยให้ได้ เจ้าไม่ต้องทำอะไรพรรค์นี้เพราะเศร้าเสียใจเป็นอันขาด!”

ขณะนี้เขารู้สึกได้ว่าเหตุที่องค์หญิงหกผุดความคิดจะแต่งงานก็เป็นเพราะอกหักเสียหน้าจากเจ้าเด็กกู้ฮั่นม่อนั่น

องค์หญิงหกฟังแล้วก็หลุดหัวเราะอย่างจนใจ

“เสด็จพ่อเลอะเลือนไปใหญ่แล้ว ท่านถึงกับจะใช้อำนาจมากดขี่ประชาชนเลยหรือ ถ้าท่านทำเช่นนี้จริงๆ แล้วจะเอาพี่สาม อาซ้อสาม และหรงเอ๋อร์ไปไว้ที่ไหน แม่นางหลีจะคิดอย่างไร แล้วคนทั่วหล้าจะคิดเช่นไร”

จักรพรรดิจาวเหรินระงับเพลิงโทสะ ได้สติกลับคืนมาหลายส่วน กระนั้นใบหน้ายังอัดแน่นไปด้วยความวิตกกังวลและร้อนรน

“หรือเป็นเพราะหลายปีนี้ข้ายังทำไม่ดีพออย่างนั้นหรือ ไม่อาจทำให้นางมีความสุขได้ตลอด ดังนั้นนางจึงอยากจะจากไป...”

ในใจฝูกงกงรู้สึกสับสนยากพรรณนา ก็ได้แต่ปลอบใจเขา “ฝ่าบาทอย่าทรงคิดมาก มีผู้ใดในแคว้นต้าโจวบ้างที่ไม่รู้ว่าองค์หญิงหกคือแก้วตาดวงใจของพระองค์ หากท่านไม่รักนาง เช่นนั้นในโลกนี้คงไม่มีใครรักนางแล้ว”

“สตรีเมื่อถึงวัยสมควรก็พึงออกเรือน ตามความเห็นกระหม่อม องค์หญิงหกโตแล้ว มีความคิดของตัวเอง นี่เป็นเรื่องปกติจริงๆ…”

จักรพรรดิจาวเหรินประทับบนเก้าอี้ด้วยความงุนงง มองเหม่อลอยไปข้างหน้าอย่างผิดหวังเศร้าใจ

หลังจากฝูกงกงถอนใจอย่างกลัดกลุ้ม ภายในพระที่นั่งบำรุงฤทัยก็ไม่มีเสียงใดๆ อีก

อวิ๋นหลิงถอนพลังจิตกลับคืน ในใจทอดถอนใจเล็กน้อย

“ถึงเสด็จพ่อจะไม่สมบูรณ์แบบ มีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่เขาก็เลี้ยงดูรุ่ยอ๋องกับน้องสาวได้อย่างไม่มีที่ติจริงๆ”

“อืม”

เซียวปี้เฉิงพยักหน้าเบาๆ

“ไม่รู้ว่าด้วยอายุอานามของเขาแล้วจะทนรับเรื่องนี้ได้หรือไม่ บางทีอีกประเดี๋ยวฝูกงกงจะมาพบเจ้า”

อวิ๋นหลิงเงยหน้าขึ้นมองเซียวปี้เฉิง แม้ว่าสีหน้าของเขาจะไม่มีริ้วอารมณ์มากนัก แต่ในดวงตายังเจือความอิจฉาที่ไม่อาจปกปิดได้

ในหมู่พี่น้องของพวกเขาน่าจะไม่มีใครไม่อิจฉากระมัง

แม้แต่เด็กกำพร้าที่ไร้พ่อแม่อย่างนาง ในใจก็อดบังเกิดระลอกคลื่นปั่นป่วนไม่ได้

เทียบกับรัฐทายาทผู้เฒ่าแล้ว...

ช่างเถอะอย่าเอ่ยถึงเลย จักรพรรดิจาวเหรินเหนือกว่าเขาเป็นสิบเท่า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ