ตงชิงจัดเตรียมน้ำชาและขนมเข้ามา
องค์ชายห้าเห็นนางหน้าตาดีจึงกวาดสายตาสำรวจตงชิง
“นี่คือนางกำนัลของเสด็จซ้อสามหรอกหรือ?”
“เป็นสาวใช้ที่แต่งตามข้ามาน่ะ”
“มิน่าล่ะ” องค์ชายห้าเผยความเจ้าชู้ชื่นชม “สวยกว่าพวกสตรีข้างนอกเยอะเลย”
ส่วนใหญ่สาวใช้แต่งตามคุณหนูที่หน้าตาสละสลวยนั้น มักเป็นวิธีที่นายหญิงจะใช้มารักษาความโปรดปรานและตำแหน่งเอาไว้ จึงไม่แปลกที่นายหญิงจะเก็บเอาไว้กับตัว
ตงชิงเข้าใจความหมายโดยนัยขององค์ชายห้า หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย ถึงจะรู้ว่าคุณหนูของตนไม่ได้คิดเช่นนั้น แต่ด้วยฐานันดรของตัวเองจึงไม่กล้ามองแรงใส่เขาเหมือนที่พระชายาเสียนทำ
รุ่ยอ๋องหน้านิ่ง พยายามส่งสายตาให้องค์ชายห้าระวังคำพูด
อวิ๋นหลิงไม่โกรธ ยิ้มบอกให้ตงชิงถอยออกไปแล้วรินชาให้พวกรุ่ยอ๋องด้วยตัวเอง
“นี่คือขนมที่คิดค้นใหม่ของจวน พวกท่านลองชิมดูสิว่ารสชาติเป็นอย่างไรบ้าง”
ขนมเป็นเพียงแค่เค้กฟักทองน้ำผึ้งธรรมดา แต่หากอยู่ในต้าโจวแล้วคงเป็นสุดขนมหวานชั้นเลิศ
องค์ชายห้าหยิบชิ้นที่มีไอร้อนชิ้นเล็กเข้าปาก แล้วชมไม่ขาดปาก
“นี่คือขนมหวานที่เสด็จปู่บ่นอยากทานเมื่อสองวันก่อนใช่หรือไม่? ข้าเข้าใจแล้วว่า เหตุใดเสด็จปู่ถึงโวยวายพลิกห้องพระเครื่องต้นแล้ว ฝีมือห้องพระเครื่องต้นทำอร่อยได้ไม่เท่าจวนอาซ้อสามสักนิด”
ครัวในจวนอวิ๋นหลิงถูกสอนมาอย่างดีทั้งนั้น แม้ห้องพระเครื่องในวังจะได้สูตรและวิธีทำไป แต่เพราะขาดประสบการณ์ ดังนั้นรสชาติที่ได้มาก็ต่างกัน
ปกติพระชายาเสียนไม่ชอบทานหวานแต่ก็อดชิมไม่ได้ “อร่อยจริงๆ ข้าไม่เคยกินขนมหวานที่ใดในเมืองหลวงอร่อยเช่นนี้”
ทั้งหอมทั้งนุ่ม หวานแต่ไม่เลี่ยน
“หากชอบทานกัน เดี๋ยวตอนกลับพวกท่านก็เอากลับไปด้วยเถิด” อวิ๋นหลิงยิ้มมองนาง “จำได้ว่าองค์หญิงอายุครบหนึ่งขวบแล้วใช่ไหม? เดี๋ยวเอาสูตรขนมให้ซ้อสองด้วย ขนมอันนี้นุ่มลิ้นละลายในปาก ฉีกเป็นชิ้นเล็กแล้วเด็กน้อยก็กินได้”
เมื่อพูดถึงลูก สายตาของพระชายาเสียนฉายแววอ่อนโยน สายตาที่มองอวิ๋นหลิงเผยความจริงใจอย่างหาได้ยาก
“ถ้าเช่นนั้น ข้าก็ไม่ปฏิเสธน้ำใจเจ้าแล้วกัน”
พูดจบ อวิ๋นหลิงก็รินชาให้องค์ชาห้าต่อ
“ชานี้ทำมาจากดอกไม้และผลไม้ จากนั้นนำไปแช่เย็นไว้ในบ่อน้ำเย็น หากดื่มตอนนี้จะช่วยดับกระหายได้ดี”
“ขอบใจอาซ้อสามยิ่งนัก”
ตอนองค์ชายห้ารับน้ำชามา นิ้วมือเขาบังเอิญสัมผัสกับมืออวิ๋นหลิงอย่างไม่ตั้งใจ เขาชักนิ้วกลับอย่างรวดเร็ว
เมื่ออวิ๋นหลิงเห็นปฏิกิริยาของเขาก็ได้คำตอบในใจ
คนกลุ่มนี้อยู่ได้ประมาณชั่วยาม สีหน้าเซียวปี้เฉิงก็เริ่มเหนื่อยล้า
รุ่ยอ๋องชิงกล่าวก่อน “ปี้เฉิงค่อนข้างล้าแล้ว เขาบาดเจ็บสาหัสยังไม่หายดีควรให้เขาพักผ่อนดีกว่า”
องค์ชายห้าพยักหน้าเห็นด้วย “ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็ไม่อยู่ต่อแล้ว วันหลังค่อยมาเยี่ยมพี่สามแล้วกัน”
อวิ๋นหลิงส่งแขกยันนอกจวนจิ้งอ๋องด้วยตนเอง นางยืนหน้าสิงโตหินหน้าประตูมองเหล่ารถม้าจากไปไกล
เสียงเอี๊ยดอ๊าดของรถม้าดังจนกลบเสียงพึมพำของพระชายาเสียน
“องครักษ์ในจวนน้องสามนี่เยอะเสียจริง เป็นพวกทหารที่นำมาจากแถบชายแดนแน่ บรรยากาศรอบตัวนั้นช่างแตกต่างจากพวกทหารรักษาพระองค์นอกเมืองหลวงไม่เคยร่วมสมรภูมิอย่างสิ้นเชิง”
เสียนอ๋องจับมือนางไว้แล้วพูดช้าๆทีละคำ “อา…ฉิ่ง…ไม่…ต้อง…กลัว…ข้า ปก ป้อง เจ้า เอง””
มองสายตาจริงใจของสามี พระชายาเสียนอ๋องถอนหายใจแล้วตบมือเสียนอ๋องเบาๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...
ชอบมากเลยค่ะ นางเอกเก่ง❤...