“ส่วนองค์ชายหกนั้น ทุกอย่างของเขาปกติดี อยู่ในระดับของคนปกติ”
พูดจบ อวิ๋นหลิงเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ น้ำเสียงปนหยอกล้อ
“แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น พลังจิตขั้นว่องไวขององค์ชายหกก็ยังอยู่เหนือรุ่ยอ๋องอยู่ดี แสดงว่าจิตเขาแข็งแกร่งกว่ารุ่ยอ๋อง”
หรือจะกล่าวได้ว่า นิสัยขององค์ชายหกไม่ได้ขี้ขลาดอ่อนแออย่างที่เห็นกัน
เซียวปี้เฉิงเข้าใจในความหมายแฝง รู้สึกสับสนในใจเล็กน้อย สีหน้าไม่พอใจเพราะความหึงหวงถูกความประหลาดใจแทนที่
“ถ้าเป็นอย่างที่เจ้าว่า ในหมู่พวกเขา คนที่จิตใจใสซื่อสุดคือพี่ใหญ่งั้นหรือ?”
อวิ๋นหลิงพูดอย่างไม่เกรงใจ “ไม่เช่นนั้นจะถูกฉู่อวิ๋นหานปั่นจนหัวปักหัวปำหรือ ก็เพราะโง่อย่างไรล่ะ”
เมื่อกี้ในหมู่คนมากมาย รุ่ยอ๋องมีพลังจิตขั้นว่องไวต่ำที่สุด คนแบบนี้เหมาะจะเป็นฮ่องเต้ก็แปลก
เซียวปี้เฉิงได้ยินประโยคนี้ มุมปากกระตุก รู้สึกผิดเล็กน้อย
“……นิสัยพี่ใหญ่อ่อนไปหน่อยก็จริง แต่ข้าไม่คิดเลยว่า เขายังสู้เสียนเฟยไม่ได้”
“ใครสั่งให้ฮองเฮาปกป้องเขาอย่างดอกไม้ในเรือนกระจกกันล่ะ ไม่เคยถูกลมฝนพายุใดใดทั้งนั้น”
อวิ๋นหลิงดูแคลนรุ่ยอ๋องเสร็จเห็นเซียวปี้เฉิงดูอ่อนล้า นางขมวดคิ้ว
“ทำไมสีหน้าท่านดูไม่ค่อยดีนัก?”
ใบหน้าเซียวปี้เฉิงแสดงความง่วงออกมา “ไม่รู้เป็นอะไร ช่วงนี้ข้ารู้สึกเพลียเหลือเกิน นอนเท่าไหร่ก็นอนไม่พอ”
พูดจบเซียวปี้เฉิงก็สงสัยในใจ เมื่อคราอยู่ในสมรภูมิชายแดน เขาสามารถสู้รบไม่หลับไม่นอนได้สองสามวันรวด หรือเป็นเพราะสองปีในจวนอ๋องนี้ปล่อยตัวมากเกินจนเป็นโรคผู้ดีแล้ว
ง่วงหนาวหาวนอน?
เมื่อนึกย้อนถึงตอนที่เซียวปี้เฉิงอยู่ในห้อง แล้วได้ยินเสียงพึมพำของรุ่ยอ๋องในสวนมาแต่ไกล ในใจอวิ๋นหลิงสั่นไหวจนแอบคาดเดาบางอย่าง
“ท่านอ๋อง ช่วงนี้ท่านรู้สึกไหมว่า ทักษะการมองเห็นและการได้ยินของท่านอ่อนไหวมากกว่าปกติ”
เซียวปี้เฉิงผงะไป ขมวดคิ้วครุ่นคิดไปชั่วครู่ “เมื่อเจ้าทักข้าก็มีความรู้สึกว่าเป็นอย่างนั้น”
เมื่อเหล่านกกาในสวนกระพือปีกโผบิน มักจะกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมหาจับตัวได้ยาก แต่บัดนี้เขากลับมองเห็นพวกมันได้ง่ายๆ
เวลาเข้านอนกลางดึก เขาได้ยินเสียงน้ำฝนหยดลงกระทบหลังคากระเบื้องอย่างชัดเจน
อวิ๋นหลิงตกใจ อย่าบอกนะว่าเป็นอาการล่วงหน้าของการตื่นตัวของพลังจิตขั้นว่องไว?
เพื่อทดสอบความคิดที่เหลือเชื่อนี้ อวิ๋นหลิงหยิบหินอุกกาบาตสีแดงสดแวววาวออกมา
“ท่านอ๋อง จากนี้ไปท่านลองทำตามที่ข้าบอก จำรูปร่างของหินนี้เข้าไว้ จากนั้นหลับตาลงโดยคิดภาพถอดแบบมันเอาไว้ในหัว”
แม้จะไม่เข้าใจ แต่เซียวปี้เฉิงก็ทำตามที่นางบอก
อวิ๋นหลิงค่อยๆชักจูงเขาเข้าสู่ภาวะนึกคิด และตัวนางเองก็สร้างสัมพันธ์กับหินอุกกาบาตนี้
เซียวปี้เฉิงหลับตาลง ในหัวพยายามคิดภาพหินสีแดงสด สิ่งที่น่าแปลกใจคือ เดิมทีเขาจำรูปร่างหินนี้ได้แค่เพียงเลือนรางเท่านั้น แต่เมื่อเขายิ่งนึก รูปร่างหินก็ยิ่งชัดเจนขึ้น
ผ่านไปไม่นาน เขากลับถอดแบบรูปร่าง ความโปร่งแสงของหินก้อนนี้ได้ทุกอณู!
เซียวปี้เฉิงตกตะลึงใจ หลังตกใจไปชั่วครู่ ภาพหินในหัวกลับกลายเป็นเพียงก้อนมัวสีแดง นึกภาพรูปร่างเดิมของมันไม่ออกอีกต่อไป
เขาลืมตาขึ้นมาก็เห็นอวิ๋นหลิงจ้องเขาตาเป็นประกาย
เซียวปี้เฉิงถูกจ้องจนรู้สึกขนลุก “มีอะไรหรือ?”
อวิ๋นหลิงพยายามข่มความตื่นเต้นในใจ แม้เมื่อครู่จะมีเพียงชั่วแวบเดียว แต่นางจับพลังจิตอันเบาบางและประหลาดบนหินอุกกาบาตก้อนนั้นได้อย่างชัดเจน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...
ชอบมากเลยค่ะ นางเอกเก่ง❤...