พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 759

อวิ๋นหลิงลูบกระหม่อมน้อยๆ ของฮั่วถวนเอ๋อร์ มองกู้จื่ออวี๋พร้อมยิ้มตาหยี เอ่ยถามไถ่ด้วยเสียงนุ่มนวล

“อ๋องน้อย ได้ยินนางกำนัลบอกว่าอาการนอนไม่หลับของท่านดีขึ้นมากในสองวันนี้? ข้าดูๆ แล้วก็รู้สึกว่าสีหน้าของท่านดีขึ้นกว่าตอนที่เพิ่งมาถึงที่นี่อยู่บ้าง รอยคล้ำใต้ตาก็จางลง”

“หากใช้ธูปหอมคลายอารมณ์หมดแล้ว ก็สั่งนางกำนัลได้เลย แล้วกรมวังจะส่งมาให้อีก”

กู้จื่ออวี๋พยักหน้าเบาๆ “ตัวข้าไม่ได้เป็นอะไร พระชายารัชทายาทไม่ต้องห่วงมากนัก”

สายตาของเขาจ้องมองไปยังเด็กสองคนอย่างอ่อนโยนเล็กน้อย

ใครจะนึกว่าอาการนอนไม่หลับที่เหล่าหมอหลวงในวังแคว้นเป่ยฉินหมดปัญญาจะรักษา กลับมาหายได้ด้วยการเล่นซุกซนของเด็กสองคน...

ดูท่าหลังจากกลับไป เขาจะต้องอดทนมากขึ้น และช่วยสนมซูเฟยดูแลลูกต่อไป

ระหว่างครุ่นคิด เขาก็ได้ยินเซียวปี้เฉิงถามว่า “ท่านอยู่แคว้นต้าโจวมานานกว่าครึ่งเดือนแล้ว หากอาการค่อยยังชั่ว จะออกเดินทางไปเยี่ยมชมสำนักศึกษาชิงอี้กับวัดหานซานก็ทำได้ทุกเมื่อ”

กู้จื่ออวี๋มาถึงแคว้นต้าโจวครั้งแรก เดิมพวกเขาควรพาเขาไปล่าสัตว์ฤดูใบไม้ผลิที่สวนป่าหลวงตามธรรมเนียมเก่าๆ หรือไปจุดธูปไหว้พระที่วัดหานซาน เพื่อทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับแขกผู้มาเยือน

แต่เนื่องจากอาการบาดเจ็บของเขา การล่าสัตว์จึงต้องยกเลิกไป หมายกำหนดการอื่นๆ ก็พลอยถูกเลื่อนออกไปด้วย

จะเดินทางไปที่ไหนอย่างไรก็ต้องถามความเห็นของกู้จื่ออวี๋

กู้จื่ออวี๋ผงกศีรษะ ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้ารู้แล้ว อีกสักพักจะจัดแผนเดินทาง หมู่นี้ไม่ยักจะเห็นแม่ทัพซวนหยาง หรือว่านางไปเริ่มทำงานที่สำนักศึกษาชิงอี้แล้ว?”

นานแล้วที่ไม่เห็นหลิวฉิง ในที่สุดเขาก็อดถามตรงๆ ไม่ได้

ได้ยินเช่นนี้ อวิ๋นหลิงก็ลอบพึมพำกับตัวเอง

สมแล้วที่เป็นฮ่องเต้ตั้งแต่ยังเยาว์ ดูน้ำเสียงคำถามนี้กับท่าทางของเขาสิ โอรสสวรรค์โดยแท้

นี่เป็นคำพูดของผู้เป็นนายอย่างแท้จริง

รอยยิ้มบนใบหน้าของนางยังคงไม่แปรเปลี่ยน ก่อนตอบว่า “พี่ฉิงอยากเปิดสวนสัตว์ จึงไปดูสวนบ้านไร่ที่ชานเมืองทางใต้ของเมืองหลวง เมื่อวานเพิ่งได้รับข่าวว่าได้สถานที่แล้ว กำลังวางแผนจะเริ่มก่อสร้าง หากผ่านไปอีกสักพัก แล้วท่านจะไปชมสำนักศึกษาก็สามารถแวะไปเยี่ยมนางได้”

กู้จื่ออวี๋ชะงักไปเล็กน้อย คิดว่าพรุ่งนี้ก็ออกเดินทางได้ แต่คำพูดมาจ่อถึงปากกลับไม่ยอมเอื้อนเอ่ยออกมา

เขาเพิ่งบอกไปหยกๆ ว่าจะต้องใช้เวลาสักพักก่อนจะจัดเตรียมเดินทาง ขืนตอนนี้ตกปากรับคำก็ดูจะใจร้อนเกินไป

ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเลื่อนออกไปอีกสักระยะเพื่อแสดงว่าตัวเขาไม่สนใจ

“ข้ารู้แล้ว ให้นางไปเถอะ”

กู้จื่ออวี๋พยักหน้าเบาๆ สายตาไปตกที่เซียวปี้เฉิง

“ช่วงนี้รัชทายาทยุ่งอะไรอยู่หรือ ข้าไม่ค่อยเห็นท่านเลย เด็กทั้งสองเป็นคนเอาใจใส่และรู้ความ แม้จะไม่เห็นพ่อแม่ก็ไม่ร้องงอแง แต่ข้าได้ยินคนอื่นพูดมาว่าถ้าตอนเป็นเด็กแยกจากพ่อแม่นานเกินไป นานวันเข้าทั้งสองฝ่ายจะเริ่มไม่คุ้นเคยกัน”

เขาบอกเป็นนัยกับเซียวปี้เฉิงด้วยท่าทางคล้ายเจตนาและไม่เจตนา ว่าถึงเวลาที่ต้องพาลูกน้อยของท่านไปเสียที

แต่เห็นชัดว่ามีช่องว่างขนาดใหญ่ในการสื่อสารทางความคิดระหว่างพ่อที่ผ่านการมีลูกมาแล้วกับพ่อมือใหม่

เซียวปี้เฉิงฟังแล้วก็รู้สึกว่ากู้จื่ออวี๋กำลังชมเชยลูกชายของเขา จึงเผยสีหน้าภาคภูมิใจเล็กๆ ที่ไม่อาจปกปิดได้ครู่หนึ่ง

“ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก พวกเด็กๆ ว่านอนสอนง่ายและฉลาดเกินวัย ปกติแล้วข้ากับอวิ๋นหลิงจะยุ่งอยู่กับราชกิจ พวกเขาอยู่กับพระเจ้าหลวงมาตั้งแต่แบเบาะ ไม่เคยรู้สึกเหินห่างเลยแม้แต่น้อย”

กู้จื่ออวี๋ “...”

เซียวปี้เฉิงกล่าวต่อ “สำหรับข้ากับหลิงเอ๋อร์ ช่วงนี้กำลังวางแผนจะเปิดโรงเรียนอนุบาล จะเป็นประโยชน์ต่อแว่นแคว้นในระยะยาว ก็เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาภาคบังคับที่ข้าเคยเล่าให้ท่านฟัง หากสนใจละก็ วันนี้จะถือโอกาสพูดคุยกันก็ได้”

กู้จื่ออวี๋นิ่วหน้าเล็กน้อย “โรงเรียนอนุบาลหรือ”

“ใช่แล้ว เป็นสถานที่ที่ทางการเปิดให้เด็กวัยสามถึงเจ็ดขวบไว้ศึกษาเล่าเรียนโดยเฉพาะ” อวิ๋นหลิงพูดแทรก มองเขาพลางยิ้มตาหยี “อ๋องน้อยกลับไปก็สร้างโรงเรียนสักแห่งในเมืองหลวงก็ได้ ถ้าว่างไม่มีอะไรทำก็ไปเยี่ยมเยียนสักหน่อย ไปสัมผัสจิตใจอันดีงามและแสนบริสุทธิ์ของเด็กๆ ได้”

“ถ้าอยู่กับพวกเขานานๆ หัวใจของท่านก็จะบริสุทธิ์ไปเองตามธรรมชาติ ไม่แน่วันใดวันหนึ่งอาการนอนไม่หลับอาจจะหายเป็นปลิดทิ้งโดยไม่ต้องใช้หยูกยา”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ