พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 764

“เจ้า......เจ้ามาได้อย่างไร เจ้ามาทำไม......มาหัวเราะเยาะข้าหรือ”

หลี่เมิ่งเอ๋อร์สูดลมหายใจเฮือกใหญ่ เอ่ยขึ้นมาอย่างยากลำบาก ใบหน้ามีแววเย้ยหยันตนเองผุดขึ้นมา

หลี่เมิ่งชูรีบเดินเข้าไปหา กุมมือของนางเอาไว้อย่างแรง “นี่มันเวลาไหนแล้ว อย่าต่อปากต่อคำกับข้าเลย ตั้งใจฟังนางผดุงครรภ์หน่อย เก็บแรงไว้ใช้ในการคลอดลูกเถอะ”

นางกวาดตามองดูสภาพที่น่าอนาถของน้องสาวในตอนนี้ สายตามีแววซับซ้อนขึ้นมา ภายใต้ความรู้สึกสงสารแฝงไปด้วยความผิดหวังต่อความไม่เอาไหน

หวนเอ๋อร์รีบอธิบายแทนเจ้านายของตนทันที “คุณหนูเมิ่งเอ๋อร์ ท่านอย่าคิดเช่นนี้ พอคุณหนูได้ข่าว ก็รีบเดินทางออกจากสำนักศึกษากลับมาเยี่ยมทันทีเลย”

“ก่อนหน้านี้หลังจากเรื่องที่คุณชายใหญ่แอบส่งเงินให้ท่านถูกท่านเสนาบดีจับได้ก็ถูกสั่งห้ามไปมาหาสู่ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาหวนเอ๋อร์ได้รับคำสั่งให้ส่งคนไปส่งให้ท่าน คุณหนูคิดถึงท่านจากใจจริงนะเจ้าคะ”

ได้ยินดังนั้น หลี่เมิ่งเอ๋อร์รู้สึกว่าปวดที่ดวงตาและน้ำตารื้นขึ้นมา

นางใช้แรงสูดลมหายใจ เหมือนปลาที่เกยตื้น เอ่ยปากด้วยความยากลำบาก

“ข้าคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเจ้า”

“ข้าคิดว่าคงไม่มีใครมาแล้ว”

พูดไปแล้วนางก็อยากจะหัวเราะ แต่เมื่อพูดออกไปกลับเป็นเสียงสะอื้นไห้

หลี่เมิ่งเอ๋อร์ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้

ตั้งแต่เล็กนางถูกคนในครอบครัวรักและดูแลราวกับสมบัติล้ำค่า พี่สาวก็เป็นลูกสาวธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น

ทุกคนต่างก็ชื่นชมนางว่าเป็นหญิงที่มีอนาคตมากที่สุดของตระกูลหลี่ ภายหน้าเมื่อเทียบกับพี่สาวแล้วไม่ว่าจะด้านไหน คงแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน

นางเคยชอบใจ และเคยได้ใจ ไม่เคยคิดว่าตนเองจะมีวันที่กลายเป็นคนไร้ความสามารถหมดหนทางช่วยเหลือในสักวัน

พี่สาวร่วมสายเลือดของนางคนนี้ นางเคยรู้สึกไม่พอใจ เคยใจดำ เคยแอบเปรียบเทียบแล้วรู้สึกภูมิใจ

หลังจากนั้นพวกนางก็ทะเลาะกันและเย็นชาต่อกัน มองหน้ากันไม่ติด เดินสู่เส้นทางที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป หลี่เมิ่งเอ๋อร์ไม่เคยพูดถึงอีกฝ่ายอีกเลย

ในเวลากลางดึกที่เงียบสงบ นางอยู่ในเรือนด้านหลังของตระกูลจาง นางแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่ม

เคยหวนคิดถึงเรื่องที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่เคยถูกพวกพี่ชายและพี่สาวโอนอ่อนผ่อนตามและรักใคร่เอ็นดูเหล่านั้น

ใช่ว่าจะไม่เคยคิดถึง ใช่ว่าจะไม่เคยรู้สึกเสียใจ

เพียงแต่นางคิดว่า เวลาไม่มีทางหวนกลับ ทุกอย่างล้วนกลับไปไม่ได้แล้ว

ตอนนี้ทั้งสองคนต่างก็ยืนอยู่ตรงข้ามกัน นางล่วงเกินสองสามีภรรยารัชทายาท ส่วนเมิ่งชูก็ปกป้องสองสามีภรรยารัชทายาท

อีกฝ่ายแทบจะต้องหลบหลีกให้ห่างจากนางด้วยซ้ำ เป็นไปไม่ได้ที่จะมาสนใจนาง

แต่ในช่วงเวลาที่หมดหนทาง คนที่ไม่คิดว่าไม่น่าจะปรากฏตัวมากที่สุดกลับโผล่มา

หลี่เมิ่งเอ๋อร์แหงนหน้าขึ้นมองหลังคา ทรวงอกที่กระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุดราวกับมีอะไรสั่นคลอดอยู่ น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาอย่างยากจะหักห้ามได้

หลี่เมิ่งชูที่อยู่ข้างๆเห็นแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดในใจ ไม่สบอารมณ์เลยสักนิด ได้แต่เอ่ยเบาๆด้วยดวงตาที่แดงรื้นขึ้นมา

“ระหว่างเจ้ากับข้าเคยเกิดอะไรขึ้น และเคยพบเจอกับเรื่องอะไร เหล่านั้นล้วนไม่สำคัญ ที่สุดแล้วก็เป็นพี่น้องที่ตัดอย่างไรก็ตัดไม่ขาด ไม่ว่าภายหน้าเจ้ากับข้าใครจะเป็นหงส์ หรือใครจะเป็นนกกระจอก ก็ลบความจริงที่ว่าเป็นสายเลือดเดียวกันไม่ได้”

บนโลกนี้มีความรักอยู่สองอย่าง ที่ไม่มีเหตุผล ไม่แบ่งแยกผิดถูก ไม่ถือสาเรื่องการตอบแทนและเสียสละ

ในความรักระหว่างชายหญิงและความรักในครอบครัว ใครจะผิดหรือถูกก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไปแล้ว

หลี่เมิ่งชูหลุบตาลง เอ่ยเสียงต่ำว่า “ท่านพี่ก็คิดเช่นเดียวกัน เขาต้องมาแน่ แม้ว่าตอนนี้เขาจะถูกตีจนสลบและถูกขังไว้ในเรือน ก็ยังคงจะมาหาเจ้าโดยไม่สนอะไรทั้งสิ้นแน่ๆ”

น้ำตาของหลี่เมิ่งเอ๋อร์เอ่อล้นออกมาจากขอบตา ใบหน้าซีดเผือดแดงก่ำไปหมด

นางผดุงครรภ์เอ่ยอย่างร้อนใจและเป็นกังวลอยู่ข้างๆว่า “โธ่เอ๋ย ไม่ต้องร้อง อย่าร้องเด็ดขาด หญิงตั้งครรภ์ร้องไห้จะเป็นผลเสียต่อร่างกาย ไม่ดีต่อลูกในท้อง เร็วเข้าใช้แรงอีกหน่อย ตอนนี้สามารถมองเห็นศีรษะของเด็กแล้ว”

ได้ยินดังนั้น ใบหน้าของหลี่เมิ่งชูมีแววตื่นเต้นขึ้นมา มือที่จับหลี่เมิ่งเอ๋อร์บีบแน่นมากขึ้น

ผ่านไปครู่ใหญ่หลี่เมิ่งเอ๋อร์ก็ไม่อาจสงบสติอารมณ์ได้ แต่แววตาและความคิดดูตื่นตัวสดใสกว่าเมื่อครู่มาก

นางทำตามที่นางผดุงครรภ์บอก พยายามรวบรวมสติและพละกำลัง ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ในที่สุดในห้องก็มีเสียงร้องไห้อย่างอ่อนแอของเด็กทารกดังขึ้นมา

“โอ๊ย ครรภ์แรกก็เป็นผู้ชาย ช่างมีวาสนาจริงๆ”

นางผดุงครรภ์พูดคำมงคลสองสามประโยคเหมือนที่เคยทำ จากนั้นก็จัดการกับสายสะดือ อาบน้ำให้กับเด็กทารกที่เพิ่งคลอด

ท้องฟ้ายามค่ำคืนแสงจันทร์สว่างดวงดาวประปราย เซียวปี้เฉิงที่อยู่ในลานบ้านรู้สึกโล่งใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ