พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 768

หลี่หยวนเส้าสอบผ่านรอบสองเป็นจวี่เหรินแล้ว แม้จะไม่มีตระกูลหลี่คอยปกป้อง ก็สามารถหางานในตำแหน่งขุนนางขั้นต่ำทำได้แล้ว นอกจากเส้นทางการเป็นขุนนางแล้วหากอยากจะหาเลี้ยงชีพด้วยงานอื่นก็ง่ายดายมาก

แต่เห็นได้ชัดว่า ความทะเยอทะยานและความสามารถของเขาไม่อนุญาตให้ตนเองยอมรับบทสรุปเช่นนี้

ไม่ว่าอย่างไรก็ถูกมองว่าเป็นชายหนุ่มผู้มีความสามารถที่จะสอบผ่านระดับสามฮุ่ยซื่อได้ จะเต็มใจอยู่อย่างเงียบๆอย่างไร้ชื่อเสียงได้อย่างอย่างไร

หลี่หยวนเส้าอดไม่ได้ที่จะกัดฟัน เอ่ยอย่างไม่ยอมแพ้ว่า “แต่ในการสอบขุนนางมีพวกที่มีความคิดล้าหลังจำนวนมาก เมิ่งชูเจ้าก็รู้ดี ข้าในตอนนี้ เกรงว่า......”

การทุจริตในการสอบขุนนางเป็นเรื่องที่เห็นได้บ่อยจนชินตา ข้างในนั้นมีเรื่องของผลประโยชน์เกี่ยวพันอยู่ด้วย ยุ่งเหยิงจนถึงระดับที่ไม่มีทางจะคลี่คลายได้แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นความสัมพันธ์ระหว่างสำนักศึกษาทั้งสามกับหกกรมมีความพัวพันซับซ้อนวุ่นวาย การสอบขุนนางไม่เพียงแต่ต้องดูความสามารถ ยังต้องดูชาติกำเนิดและโชคชะตา

เหมือนเขาในตอนนี้ หนึ่งคือมีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง สองคือมีครอบครัวคอยช่วยเหลือ จึงไม่มีใครกล้าแตะต้อง จึงคิดว่าเขานั้นมีหวังที่จะสอบผ่านได้

หากเปลี่ยนเป็นคนอย่างกู้ฮั่นม่อ มีโชคชะตาที่ถูกผู้อื่นเอารัดเอาเปรียบ หลายปีก่อนตอนที่เขาเข้าร่วมการสอบ ได้ถูกลูกชายคนโตของตระกูลยินแห่งกรมขุนนางเปลี่ยนลำดับในการสอบ

ไม่มีแม้แต่ที่ให้ร้องไห้

หลี่หยวนเส้าไม่อยากจะพูดมาก เปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“อีกอย่าง หากข้าก้มหน้าก้มตาเรียนหนักต่อไป ไม่เท่ากับเป็นการให้เจ้ามาเลี้ยงดูข้ากับเมิ่งเอ๋อร์หรอกหรือ ไม่เข้าท่าเลย”

เขารู้สึกล้มเหลวและกลัดกลุ้มในใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าการออกจากบ้านจะลำบากมาก แต่เขาคิดไม่ถึงว่าแรงกดดันและอุปสรรคจะมาถึงเร็วขนาดนี้

“ท่านพี่อย่าร้อนใจไปเลย ท่านฟังเมิ่งชูพูดให้จบก่อน”

หลี่เมิ่งชูยิ้มบางๆ ดึงพี่ชายให้นั่งลงด้วยสีหน้าอบอุ่น แล้วก็เทน้ำชาให้เขา

“ฟ้าย่อมมีทางออกให้เสมอ และตอนนี้ก็มีเส้นทางหนึ่งวางอยู่ตรงหน้าท่าน ช่วงต้นเดือนแปดเป็นเวลาสอบคัดเลือกของสำนักศึกษาชิงอี้ ตอนนี้ยังมีเวลาประมาณสามเดือน ด้วยความสามารถของท่านพี่ ต้องไม่มีปัญหาแน่นอน”

หลี่หยวนเส้าเข้าใจความหมายในสิ่งที่นางพูด อดไม่ได้ที่หัวใจจะเต้นแรงขึ้นมาทันที

เมื่อเอ่ยถึงสำนักศึกษาชิงอี้ เขาก็ไม่อาจจะไม่ยอมรับ ส่วนลึกในจิตใจก็เคยอิจฉาและใฝ่หามาก่อนไม่น้อย

แต่เขาไม่เคยคิดถึงความเป็นไปได้นี้มาก่อน

“......องค์รัชทายาทกับพระชายารัชทายาท เกรงว่าจะไม่ชอบคนอย่างข้า ข้าก็เคยได้ยินมาว่า ในการสอบคัดเลือกมีข้อสอบด้านอุดมการณ์และคุณธรรม”

หลี่หยวนเส้าเอ่ยเสียงเบา สีหน้าสับสน

ตัวเขาเองเป็นคนเช่นไร เขาย่อมรู้ดีแก่ใจที่สุด

เพียงแต่เขาตระหนักรู้ในตนเองมากกว่าพวกหยิ่งผยองอวดดีเหล่านั้นเล็กน้อย รู้ว่าอะไรที่สามารถทำได้ อะไรที่ไม่สามารถทำได้ อะไรที่ควรทำก็เท่านั้นเอง

สองสามีภรรยารัชทายาทต้องไม่ชอบคนอย่างเขาแน่นอน

หลี่เมิ่งชูอดไม่ได้ที่จะให้กำลังใจว่า “ไยท่านพี่ต้องว่าตนเองจนไม่มีดีสักอย่างเล่า ในใจของเมิ่งชู ท่านก็เป็นพี่ชายที่ดีมาก อีกอย่างยังไม่ทันได้ลองดูเลย จะรู้ได้อย่างไรว่าพวกพระชายารัชทายาทจะไม่ยอมรับท่านพี่”

“พวกเขาเป็นคนดีที่แยกแยะถูกผิดได้ชัดเจนที่สุด และใจกว้างมาก แม้ว่าเมิ่งเอ๋อร์จะเคย......ทำเรื่องเช่นนั้นมาก่อน ก็ไม่ได้ดูหมิ่นและไม่สนใจ กลับกันยังยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ไม่ใช่เหรือ”

หลี่หยวนเส้าถูกโน้มน้าวจนรู้สึกหวั่นไหว หรือบางทีเขาอาจจะรู้สึกหวั่นไหวมากตลอดมา เพียงแต่ไม่กล้าจะคาดหวังเท่านั้น

เขาเข้าในดีถึงความหมายของการมีตัวตนอยู่ของสำนักศึกษาชิงอี้ นี่เป็นหมากตัวหนึ่งที่สองสามีภรรยารัชทายาทใช้เพื่อทำลายระบบการสอบขุนนางที่เสื่อมโทรมล้าหลัง

สองสามีภรรยาไม่ได้ใช้ไม้แข็งในการไปแตะต้องหกกรม แต่เลือกที่จะเปลี่ยนเส้นทางเพื่อแซงหน้า ใช้กลยุทธ์ถอนฟืนใต้กระทะเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่

ทั้งสองคนไม่อยากจะตอบโต้ระเบียบของราชสำนักที่กำหนดไว้แต่แรกแล้ว จึงทำการสร้างกฎระเบียบใหม่ขึ้นมาซะเลย ตนเองก็นั่งในตำแหน่งกรรมการผู้ตัดสิน

มิเช่นนั้นทำไมก่อนหน้านี้สำนักศึกษาทั้งสามกับราชสำนักจึงร้อนใจแทบตาย แต่ก็ทำอะไรพวกเขาไม่ได้เลย

“ท่านพี่ ท่านลองดูสักตั้งเถอะ ถ้าหากสอบเข้าสำนักศึกษาชิงอี้ได้ ความลำบากเรื่องการเงินของพวกเราก็จะสามารถแก้ตกไปตามๆกัน ถึงตอนนั้นพวกเราสองคนช่วยกันทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ดูแลเมิ่งเอ๋อร์กับหลานชาย ดีหรือไม่”

หลี่เมิ่งชูพูดขึ้น ยกมือของหลี่หยวนเส้าขึ้นมาเบาๆ จับเอาไว้อย่างอ่อนโยน

“ข้ากับเมิ่งเอ๋อร์ต่างก็โตแล้ว ไม่ใช่สาวน้อยที่เอาแต่เดินตามหลังท่านพี่ ทำให้ท่านพี่ต้องเป็นห่วงทุกวันแล้ว พวกเราสามารถดูแลตัวเองได้ และสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้”

“ตั้งแต่เล็กคนโต ท่านพี่เสียสละเพื่อพวกเราตั้งมากมาย ตอนนี้จะให้ท่านมาแบกรับทุกอย่างคนเดียวได้อย่างไร”

หลี่หยวนเส้ามองนางอย่างนิ่งอึ้ง ผู้ชายอกสามศอก ตอนนี้กลับรู้สึกจมูกตื้อตันขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ เกือบจะน้ำตาตกด้วยความไม่เอาไหน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ