พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 770

หลี่หยวนเส้าเอ่ยด้วยความงุนงง “ทาส ทาสเก็บมูล...ทาสเลี้ยงสัตว์น่ะหรือ”

ทาสเก็บมูลเป็นทาสประเภทไหน มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจคำพูดของแม่ทัพซวนหยาง

“ก็แค่รับผิดชอบลักพาตัวให้ข้า…อ้อไม่ใช่ แค่มีหน้าที่ให้อาหารและทำความสะอาดคอกสัตว์ที่ข้าตั้งใจรับมาเลี้ยง งานอาจจะเหนื่อยสักหน่อย แต่จะให้เงินเดือนเจ้าหนึ่งร้อยตำลึงเงิน”

“แถมยังมีรถพิเศษไปรับส่งจากบ้านมาที่ทำงานอีกด้วย สถานที่นั้นอยู่ไม่ไกลจากโรงยา นั่งรถสามล้อไม้ใช้เวลาเพียงประมาณครึ่งชั่วโมง ไม่ทำให้เจ้ากลับบ้านล่าช้าจนไม่ได้ดูแลน้องสาวกับหลานชายตัวน้อยหรอก”

ถึงแม้ถ้อยคำของหลิวฉิงจะฟังดูแปลกๆ ต่างจากคนทั่วไป แต่หลี่หยวนเส้าก็เข้าใจความหมายคร่าวๆ ได้

สีหน้าเขาดูแปลกไปเล็กน้อย ก่อนเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง

“ผู้น้อยขอบคุณแม่ทัพซวนหยางที่หวังดี ว่าแต่ในสวนสัตว์เป็นนกและสัตว์ประเภทใด ปกติแล้วต้องทำอะไรบ้าง…”

หลี่หยวนเส้าหาใช่คนโง่ เขาไม่ใช่คนหน้ามืดตามัวเพราะเห็นแก่เงินเดือนแค่ร้อยสองร้อย

ไม่มีขนมตกลงมาจากฟ้าเรื่องดีเยี่ยงนี้หรอก การเสนอเงินเดือนที่สูงเช่นนี้ได้ เห็นชัดว่างานนี้มีอะไรบางอย่างที่พิเศษ เขาต้องซักถามให้กระจ่างชัดก่อนค่อยตัดสินใจว่าจะรับทำหรือไม่

“ยามนี้สวนสัตว์ยังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงใหม่ สวนทางใต้เป็นบ้านชั่วคราวของจินเตียวนกอินทรีทองคู่หนึ่งที่โตเต็มวัยกับลูกนกอินทรีวัยครึ่งปีสองตัว เจ้านกคู่ผัวตัวเมียนี้ดูแลง่าย พวกเขาหาอาหารกินเอง ถ่ายมูลและผลัดขนน้อยมาก แต่ก็อารมณ์ไม่ค่อยดีและชอบเจ้าคิดเจ้าแค้น จิกคนตลอด แต่อย่ากังวลไป ถ้าเจ้าได้รับบาดเจ็บจากการทำงาน ทางข้าจะชดใช้ค่ารักษาพยาบาลและเงินทำขวัญให้เจ้าเอง”

หลิวฉิงพูดถึงจินเตียวคู่นี้ก็ขมวดคิ้วมุ่น

คาดว่าคงแค้นใจที่คราวก่อนนางเกือบจะทอดไข่นกอินทรีทองกิน ท่าทางของนกคู่นี้จึงไม่ค่อยเชื่องนัก

หลี่หยวนเส้าฟังแล้วถึงกับเหงื่อโซมกายไปทั่วร่าง อินทรีทองตัวใหญ่...นั่นคือจ้าวแห่งเวหาเชียวนะ สามารถล่าหมาป่าได้เลยด้วยซ้ำ!

เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงมีคนยอมเลี้ยงเจ้าสัตว์พวกนี้ แล้วพวกมันต้องการให้คนรับเลี้ยงด้วยความหวังดีจริงๆ หรือเปล่า

“ในสวนทางตะวันออกมีเสือขาวตัวใหญ่ชื่อเจ้าเสือขี้แย เป็นสัตว์เทพที่ข้าเคยมอบให้น้องหลิงมาก่อน มันอารมณ์ดีทีเดียว ใครๆ ก็สัมผัสลูบขนมันได้ มันชอบเล่นคลอเคลียกับคน เสียแต่ว่ากินเก่ง ถ่ายบ่อย สลัดขนร่วงเยอะ เลยต้องใช้รถคันเล็กเข็นเอามูลไปทิ้งทุกวัน ค่อนข้างจะเหนื่อยเอาเรื่อง”

หลี่หยวนเส้าเคยได้ยินเรื่องเสือขาวตัวใหญ่ตัวนี้ มีข่าวเล่าลือกันว่าเป็นเทพสงครามที่ร้ายกาจยิ่งนัก ตอนเกิดกบฏในวัง เจ้านี่ก็ตามองค์รัชทายาทเข้าต่อสู้กับพวกทูเจวียเสียด้วย

ฟังแม่ทัพซวนหยางเล่าแล้วทำไมให้ความรู้สึกเหมือนเลี้ยงแมวบ้านตัวอ้วนจ้ำม่ำตัวหนึ่งไปได้

“ด้านสวนทางเหนือ อีกสักพักจะมีเต่าใหญ่เบ้อเริ่มเข้ามาอยู่ด้วยตัวหนึ่ง”

หลิวฉิงไม่ว่าเปล่าพลางทำไม้ทำมือประกอบ

“เต่าบกตัวนี้มีชีวิตอยู่มานับร้อยปี เป็นแม่เฒ่านิสัยดี ใจดีมาก เลี้ยงง่าย รักความสะอาด ชอบเที่ยวเตร่เป็นที่สุด เจ้าต้องคอยจับตาดูตลอดเวลา ป้องกันไม่ให้มันติดอยู่ในซอกมุมจนออกมาไม่ได้ หรือหลงทางหาบ้านไม่เจอ”

เต่าบกเป็นสัตว์เลื้อยคลานบนบกชนิดหนึ่งที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ยาวนานที่สุดถึงสองร้อยสามร้อยปี

ตอนที่หลิวฉิงไปรับสมัครช่างก่ออิฐในหมู่บ้านรอบๆ เมืองหลวงก่อนหน้านี้ บังเอิญได้พบกับ ‘แม่เฒ่า’ ผู้นี้ คนในหมู่บ้านเรียกนางด้วยความรักว่าแม่เฒ่าเต่า และได้รับความรักล้นหลาม

แม่เฒ่าเต่าเป็นสัตว์สังคม ชอบอยู่ร่วมกับมนุษย์ มักจะคลานต้วมเตี้ยมไปเตร่อยู่ตามหน้าบ้านตระกูลต่างๆ

หลิวฉิงใช้พลังจิตสื่อสารกับนาง หนึ่งคนหนึ่งเต่าพูดคุยกันอย่างถูกคอ ได้ยินว่าตอนไปที่นั่นได้เปิดหูเปิดตาพบปะผู้คนหลากหลายประเภท จึงตกปากรับคำกับนางว่าต่อไปจะพามาอาศัยอยู่ในสวนสัตว์เลี้ยงดูจนแก่เฒ่า

หลี่หยวนเส้าพยักหน้าช้าๆ นี่ก็ฟังดูปกติ แต่เวลานี้ยังไม่ได้ย้ายเข้ามาในสวนสัตว์ ก็ไม่ต้องการคนไปดูแล

“แล้วในสวนทางตะวันตกมีอะไรบ้าง”

“สวนทางตะวันตก...ยามนี้ยังว่างอยู่ แต่อีกสักระยะหนึ่งข้าจะไปหาท่านปู่งูเหลือม ที่นั่นก็จะครึกครื้น ได้ยินว่าชาวต้าโจวล้วนชมชอบท่านปู่งูเหลือมกันมาก ผู้คนมักจะแวะเวียนไปสักการะเหล่าเทพเซียนที่สำนักศึกษากันบ่อยๆ เดี๋ยวถ้าได้กลับมา เจ้าก็ต้องอยู่กับเขาทุกวัน มีหวังถูกคนอื่นอิจฉาตายแน่ๆ เลย”

หลิวฉิงพูดพลางคลี่ยิ้มสดใสให้เขา เผยให้เห็นฟันขาวสะอาดสองแถว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ