พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 772

การซื้อบ้านส่วนตัวให้เฟิงอู๋จี ประการแรกเพื่อชดเชยความน้อยเนื้อต่ำใจที่เขาได้รับในช่วงยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา

ประการที่สองคือป้องกันไม่ให้ผู้มีเจตนาร้ายกับผู้ที่อิจฉาตาร้อนในวงศ์ตระกูลไปทำอะไรที่จะขัดขวางลูกชายในการคบค้าสมาคมตามปกติกับเพื่อนพ้อง

ตอนนี้เขาลงเรือของรัชทายาท และเสนาบดีซ้ายเฟิงก็ให้ความสำคัญ มีสายตาไม่น้อยจับตาดูทุกการเคลื่อนไหวของเขา

เซียวปี้เฉิงกล่าวแทรก “บิดาเจ้าคิดถี่ถ้วนแล้ว ข้าได้ยินว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนเขายื่นหนังสือโยกย้ายไปยังกรมขุนนาง วางแผนจะย้ายไปทำงานที่กรมพิธีการ ไม่อยากถูกย้ายไปที่อื่นตลอดทั้งปีอีก เขาทำเช่นนี้ก็เพื่อเจ้ากระมัง ตอนนี้เรือนหลังไม่มีนายหญิงดูแลแล้ว คนเป็นพ่อก็ต้องกังวลมากเป็นธรรมดา”

เฟิงอู๋จีพยักหน้า สีหน้าท่าทางฉายแววอ่อนโยนและอบอุ่น

“ยามนี้ท่านพ่อดูแลเรื่องเล็กน้อยทุกอย่างในบ้านจริงๆ เขายังไม่มีวี่แววจะแต่งงานใหม่”

ท่านพ่อเฟิงยังมีอนุสองคนอยู่ในเรือนหลัง แต่จริงๆ แล้วถูกอดีตภรรยากดข่มมาหลายปีแล้ว จึงไม่มีสิทธิ์มีเสียงในการดูแลบ้าน ไม่อาจแบกรับความรับผิดชอบของนายหญิงได้

ดังนั้นเวลานี้ท่านพ่อเฟิงก็เป็นผู้ตัดสินใจเรื่องสำคัญของเรือนหลังนี้ไปแล้ว ถึงแม้เขาจะไม่มีประสบการณ์และไม่ฉลาดพอ แต่อย่างน้อยก็จะไม่ทำร้ายลูกๆ เป็นอันขาด

อวิ๋นหลิงฟังถึงตรงนี้ก็ดูสบายใจเช่นกัน “ตอนนี้เจ้าก็ถือว่าหมดเคราะห์หมดโศกเสียที เห็นพวกเจ้าแต่ละคนไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ การเรียนประสบความสำเร็จ ข้าก็พลอยสบายใจไปด้วย”

นางเริ่มเป็นทุกข์เป็นกังวลคล้ายแม่เฒ่าเข้าไปทุกที

เฟิงอู๋จีแย้มยิ้มอย่างเคอะเขิน “เพื่อทำให้พระชายารัชทายาทรู้สึกสบายใจ อู๋จีก็จะดูแลตัวเองอย่างดี และตั้งใจทำงานในสำนักศึกษาด้วย”

นับตั้งแต่รู้ว่าพระชายารัชทายาทตั้งครรภ์ ทางสภานักเรียนทำงานกันอย่างขยันขันแข็งเพื่อช่วยท่านอาจารย์และบรรดาผู้ดูแลรักษาสำนักศึกษาชิงอี้ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

เพื่อที่นางจะได้รอคลอดบุตรได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลหนักใจกับเรื่องหยุมหยิมเล็กน้อยในสำนักศึกษา

หลังจากกินอาหารเช้าอันยาวนาน ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำธุระของตนเอง

หลี่เมิ่งชูงานยุ่งยังไม่ได้นอนเลยทั้งคืน คราวนี้ทนไม่ไหวอีกแล้ว จึงกลับห้องไปพักผ่อน

สายตาที่เป็นห่วงเป็นใยของเฟิงอู๋จีจับจ้องไปยังตัวนาง จนกระทั่งแผ่นหลังงามปลาสนาการหายไป เขาก็ชักสายตากลับอย่างอาลัยอาวรณ์

ฉุกนึกถึงการสนทนาที่โต๊ะอาหารเมื่อครู่ ดวงตาของเขาอัดแน่นไปด้วยความกลัดกลุ้มอย่างสุดซึ้ง

เมื่อครู่พระชายารัชทายาทถามเรื่องบ้านพักส่วนตัว เขาก็มีเหตุผลพิเศษอีกข้อที่ไม่ได้บอก

นั่นคือท่านพ่อยัดสาวใช้อุ่นเตียงสามคนไว้ในบ้านส่วนตัวของเขา แต่ละบ้านก็อยู่คนหนึ่ง...

แม้ว่าหญิงเหล่านั้นจะถูกเขาปฏิเสธอย่างสุภาพ และอ้างว่าจะส่งผลกระทบต่ออนาคตทางการศึกษา เขาจึงปฏิเสธไปอย่างเด็ดขาด แต่เห็นชัดว่าท่านพ่อเริ่มสนใจเรื่องการแต่งงานของเขาเสียแล้ว

บัดนี้เฟิงอู๋จีอายุยี่สิบเอ็ดปี ถึงเวลาพูดถึงเรื่องหมั้นหมายเสียที

แต่ทว่าจวบจนถึงป่านนี้ เขาก็ยังคงเป็นเด็กที่ดูไม่ประสีประสาเรื่องโลกภายนอก

ล้วนเป็นเพราะอดีตแม่ใหญ่ที่ปฏิบัติต่อเขาอย่างรุนแรง ไม่เคยสนใจเรื่องนี้ ย่อมไม่จัดการเรื่องสาวใช้อุ่นเตียงให้เขา ถึงอย่างไรในฐานะผู้ชาย จะไปสถานที่อย่างหอคณิกาเพื่อปลดปล่อยอารมณ์บ้างก็ได้

อดีตแม่ใหญ่แทบอยากจะให้เขาออกไปเที่ยวสำมะเลเทเมาในหอนางโลมอยู่บ่อยๆ เพื่อจะทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง

แต่ด้วยนิสัยที่พาซื่อสัตย์และสำรวมของเฟิงอู๋จี ต่อให้จะไม่มีสาวใช้อุ่นเตียง ก็ไม่มีทางจะเป็นเหมือนเฟิงเหยียนที่ชอบไปเกี้ยวพาราสีบรรดาสาวใช้ตัวน้อยที่งามหมดจดในจวนได้หรอก

เป็นเวลาหลายปีแล้วที่เขาเป็นสหายกับแม่นางทั้งห้านิ้วอย่างสุขสม

สำหรับหอนางโลม เฟิงอู๋จีมักถูกเหล่าคุณชายตระกูลร่ำรวยลากไปที่นั่น

แต่โดยธรรมชาติแล้วเขาย่อมเห็นอกเห็นใจหญิงสาวในสถานที่เริงรมย์เป็นพิเศษ เพราะมารดาผู้ให้กำเนิดเขาก็มาจากสถานที่เช่นนั้น

ดังนั้นเขาจึงไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวหญิงสาวเหล่านั้นเลย

ลำพังแค่ถือกำเนิดในตระกูลขุนนางเช่นนี้ เฟิงอู๋จีก็ไม่อาจแยกตัวออกมาได้เลย หากเขาทำตัวเป็นอิสระมากเกินไป ก็จะถูกรังแกกลั่นแกล้งเอาได้

บางครั้งเขาถูกลากไปยังหอคณิกา เขาก็จะไม่ฝืนหรือปฏิเสธ กระทั่งเลือกหญิงสาวเรียบร้อย เขาก็จะให้เงินนางแต่ไม่ร่วมหลับนอนด้วย และกำชับอีกฝ่ายให้ปิดปากเงียบไว้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ