พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 775

เยี่ยนอ๋องลังเลด้วยความกังวลอยู่ครู่หนึ่ง ที่สุดก็เลือกที่จะเชื่อขอเสนอแนะของอวิ๋นหลิง

วันหยุดหลังจากนั้นสามวัน พระสนมหลี่ใช้ข้ออ้างกลับบ้านมารดาออกจากวังหลวง

เยี่ยนอ๋องพานางแต่งกายแบบง่ายๆ แต่งตัวเป็นคู่แม่ลูกธรรมดาทั่วไป นั่งรถสามล้อไม้เดินทางไปยังสำนักศึกษาชิงอี้

หลังจากที่ไปถึงร้านของหวานที่กิจการเฟื่องฟูมาก ในที่สุดพระสนมหลี่ก็ได้เห็นแม่นางหลีที่ใครๆต่างก็พูดถึงกัน

นางสั่งของหวานหนึ่งถ้วย ค่อยๆนั่งกินอยู่ที่มุมร้าน สายตาเอาแต่จ้องมองแม่นางหลีที่สวมชุดกระโปรงที่ตัดเย็บด้วยผ้าหยาบ มองดูนางที่มีเหงื่อผุดเต็มหน้าผากทำงานอย่างขะมักเขม้น ใบหน้ากลับมีรอยยิ้มสดใสแขวนอยู่ตลอดเวลา

เยี่ยนอ๋องนั่งอยู่ข้างๆด้วยใจตุ้มๆต่อมๆ ไม่รู้รสชาติของของหวานที่กินอยู่เลย

เขาพึมพำอยู่ในใจ เสด็จพ่อเก่งจริงๆ เสี่ยวเฟิงเพิ่งจะตายได้ไม่นาน พริบตาเดียวก็ถูกใจคนใหม่แล้ว องค์หญิงหกไม่กังวลเรื่องเขาแล้วจะกังวลเรื่องใคร

สงสารเสด็จแม่ที่งมงายในความรักมาครึ่งชีวิต กลับถูกมองเป็นเหมือนแค่เรื่องตลก

นั่งอยู่ในร้านของหวานเป็นเวลาสองถ้วยน้ำชา แต่เยี่ยนอ๋องกลับรู้สึกเหมือนยาวนานมาก สังเกตดูอาการของพระสนมหลี่อย่างจดจ่อ เกรงว่าจะสะเทือนอารมณ์ขึ้นมาอย่างกะทันหันจนเป็นอะไรไป

แต่ตั้งแต่ต้นจนจบพระสนมหลี่นิ่งมาก ดื่มของหวานหมดแล้วก็ลุกขึ้น

“ไปเถอะ”

“หา”

เยี่ยนอ๋องนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะได้สติ รีบเดินตามพระสนมหลี่ไป

ระยะทางไปกลับใช้เวลาสองชั่วยามกว่า พระสนมหลี่อยู่ที่ร้านของหวานแค่ชั่วครู่เท่านั้น ก็เดินทางกลับจวนแล้ว

ในรถสามล้อไม้ สองแม่ลูกที่ออกจากพันธนาการของกฎเกณฑ์ในวังชั่วคราว ยากที่จะสามารถนั่งรถคันเดียวกัน ได้อยู่ใกล้ชิดกัน

เยี่ยนอ๋องรู้สึกกังวลใจ ท่าทีเหมือนอยากจะพูดแต่ก็ไม่พูด

“ทำไม”

“ไม่......ไม่มีอะไรพ่ะย่ะค่ะ เสด็จแม่เป็นอย่างไรบ้าง......”

พระสนมหลี่เห็นความกังวลที่ซ่อนอยู่ในดวงตาของเขา ถอนหายใจออกมาเบาๆ

“อย่าคิดเหลวไหล แม่ไม่เป็นไร ก็แค่อยากจะเห็นนางเท่านั้นเอง”

เยี่ยนอ๋องเห็นนางมีอารมณ์สงบมั่นคง ก็รวบรวมความกล้าถามขึ้นว่า “เสด็จแม่คิดอย่างไร”

พระสนมหลี่ยิ้มมุมปาก มองดูทิวเขาสีเขียวนอกหน้าต่าง ดวงตาทอดมองไปไกล

“ข้าคิดเสมอว่า ฮ่องเต้เป็นผู้ชายที่มีความรักลึกซึ้งคนหนึ่ง เสี่ยวเฟิงมีวาสนาได้รับความรักจากเขา จึงรู้สึกอิจฉาริษยามาครึ่งชีวิต ก่อนหน้าก็คิดมาตลอด บางทีอาจเป็นเพราะข้าเกิดจากตระกูลหลี่ นิสัยอ่อนโยนเชื่อฟังไม่พอ ดังนั้นฮ่องเต้จึงไม่รักข้า”

“แต่วันนี้เมื่อได้รับรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของนางหลี เพิ่งจะรู้ว่าฐานะของเสี่ยวเฟิงในใจเขาก็แค่นี้......ไม่ใช่ข้าทำได้ไม่ดีพอ แค่ฮ่องเต้ทรงใจดำเท่านั้นเอง”

พระสนมหลี่พูดอย่างสบายๆ สุดท้ายแล้ว น้ำเสียงก็แฝงแววโล่งอกและปล่อยวางอยู่หลายส่วน

สามวันมานี้นางอยู่กับความคิดตัวเองนานแสนนาน ที่สุดก็เข้าใจเหตุผลนี้ บรรลุความสงบสุขกับตัวเอง

มาดูนางหลี ก็แค่อยากจะจัดการกับความหมกมุ่นสุดท้ายที่อยู่ในใจ

ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ก็สามารถปล่อยวางได้อย่างแท้จริงแล้ว

เยี่ยนอ๋องตาแดงขึ้นมาเล็กน้อย รู้สึกเสียใจอยากร้องไห้แทนพระสนมหลี่ อดไม่ได้ที่จะกุมมือของนางเอาไว้

“เสด็จแม่......ท่านยังมีลูก ลูกจะกตัญญูท่านตลอดชีวิต”

พระสนมหลี่พยักหน้าด้วยสีหน้าผ่อนคลาย อิงซบที่ไหล่ของเยี่ยนอ๋องเบาๆ หลับตาลงแล้วไม่พูดอะไรอีกตลอดทาง

อย่างน้อยระหว่างทางกลับเมืองหลวงต้องผ่านโรงโหยวเจียน นางจึงเอ่ยขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า

แม้จักรพรรดิจาวเหรินจะไม่เคยก้าวเท้าเข้ามาในตำหนักเว่ยยางนานมากแล้ว แต่ก็ไม่เกียจคร้านในการแต่งองค์ทรงเครื่อง กลับกันมักจะรวมตัวกับเหล่าสนมในวังหลัง ทำทรงผมใหม่ๆขึ้นมาอยู่เสมอ หรือไม่ก็แต่งหน้าในแบบที่เป็นที่นิยมอยู่ในช่วงนั้น

เยี่ยนอ๋องที่สุดก็วางใจได้เสียที ไปแสดงความขอบคุณต่ออวิ๋นหลิงที่ตำหนักบูรพาเป็นการเฉพาะ

อีกทั้งยังมอบเงินอีกหลายพันตำลึง เป็นค่ายาและค่าอาหาร ขอให้นางช่วยดูแลพี่น้องหลี่เมิ่งเอ๋อร์

อวิ๋นหลิงพยักหน้ารับคำ “ทางด้านของนางราบรื่นทุกอย่าง เจ้าวางใจเถอะ เพียงแต่เรื่องเงินนี้ข้าจะยังไม่บอกให้พวกเขารู้”

เกรงว่าจะกระทบความกระตือรือร้นของหลี่หยวนเส้า จะมีแรงกดดันบ้างก็เป็นเรื่องที่ดี

พูดถึงหลี่หยวนเส้า หลายวันมานี้ภายใต้การช่วยเหลือและจัดการของเฟิงอู๋จี เริ่มเข้าสู่การบรรยายบทเรียนอย่างเป็นทางการแล้ว

เขาจงใจหลีกเลี่ยงวิชาที่กู้ฮั่นม่อต้องบรรยายทั้งหมด เกรงว่าทั้งสองจะเกิดการแข่งขันแย่งชิงนักเรียน

หลี่หยวนเส้ายุ่งตั้งแต่เช้ายันค่ำ เวลาในการบรรยายมากกว่าเพื่อนร่วมงานหนึ่งชั่วยาม แต่รายรับยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

เมื่อเป็นเช่นนี้แม้จะลำบากอยู่บ้าง แต่ก็ดึงดูนักเรียนให้มาสมัครเรียนได้ไม่น้อย

โดยเฉพาะตอนที่รู้จากเซียวปี้เฉิง หลังจากที่ได้รับรู้ว่าจักรพรรดิจาวเหรินได้ปลดปล่อยให้หลี่เมิ่งเอ๋อร์ได้”มีโอกาสอยู่รอด” เขาก็ดูคึกคักขึ้นมาทันที

เขาตัดสินใจว่า จะใช้ความสามารถของตนเองขึ้นไปให้ถึงจุดสูงสุด ของโอกาสให้น้องสาวให้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง

ด่านแรกที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้ คือการขัดขวางไม่ให้ตระกูลจางนำตัวสองแม่ลูกหลี่เมิ่งเอ๋อร์กลับไป

หลังจากที่จางอวี้ซูกลับเข้าคุกอีกครั้ง ตระกูลจางไปทำการฟ้องร้องที่ศาลต้าหลี่หลายครั้งแล้ว

อีกฝ่ายไม่กล้าลอดดีกับสองสามีรัชทายาท จึงพุ่งเป้าไปที่หลี่เมิ่งเอ๋อร์ ฟ้องว่านางไม่ปรนนิบัติดูแลพ่อแม่สามี ไม่ให้คนของบ้านสามีพบลูก เป็นการกระทำที่ผิดอย่างร้ายแรง

เซียวปี้เฉิงบอกกับหลี่หยวนเส้า ศาลต้าหลี่จะทำการไต่สวนคดีนี้อย่างเป็นทางการในวันมะรืน